พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฏาคม 2024 อัครสาวกกลับมารายงาน

           บรรดาอัครสาวกกลับมาเฝ้าพระเยซูเจ้าและทูลรายงานให้ทรงทราบถึงทุกสิ่งที่เขาได้ทำและได้สอน พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงมาพักผ่อนกับเราตามลำพังในที่สงัดระยะหนึ่งเถิด” เพราะมีคนไปมาจนเขาไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะกินอาหาร พระเยซูเจ้าจึงทรงลงเรือไปยังที่สงัดพร้อมกับบรรดาอัครสาวก ประชาชนหลายคนเห็นพระเยซูเจ้ากับบรรดาอัครสาวกแล่นเรือออกไป ก็คาดคะเนได้ว่า พระองค์จะทรงไปที่ใด จึงรีบเดินเท้าออกจากเมืองต่าง ๆ ไปที่นั่นและไปถึงก่อน เมื่อเสด็จขึ้นจากเรือ ทรงแลเห็นประชาชนมากมายก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเป็นดังฝูงแกะไม่มีคนเลี้ยง พระองค์จึงทรงเริ่มสั่งสอนเขาหลายเรื่อง
(มาระโก 6:30-34)








วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ทฤษฏีโลก 6000 ปี


ระยะเวลาจากอาดัมมาจนถึงอับราฮัมเป็นเวลาประมาณ 2000 ปี 
จากอับราฮัมมาจนถึงพระเยซูเจ้าเป็นเวลาประมาณ 2000 ปี 
จากพระเยซูมาถึงเราเป็นเวลาประมาณ 2000 ปี 
รวมเป็นเวลาทั้งหมด 6000 ปี 
เป็นเวลา 6000 ปี ที่ซาตานปกครองและมีอำนาจเหนือโลก นับตั้งแต่อาดัม 
ในพระคัมภีร์วิวรณ์บอกเราว่า
ในวาระสุดท้าย อาณาจักรสวรรค์จะเกิดขึ้นบนโลก 
พระเยซูจะทรงปกครองโลกเป็นเวลา 1000 ปี 
เป็นเวลาที่โลกจะมีสันติสุข 
พิจารณาดูเถอะว่า พระเยซูกำลังรอคอย 
ประชาชนที่ได้รับพระพรที่จะได้รับเสด็จ
ผู้ที่จะมา ในพระนามของพระเจ้า 
ในเวลา6000 ปีนี้เป็นเวลาที่คนต่างชาติจะได้รับข่าวดี 
เมื่อพระวรสารได้ถูกเผยแพร่ไปจนสุดปลายพิภพ 
แล้ววาระสุดท้ายก็จะมาถึง 
เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่สิ่งเหล่านี้
ใช้ระยะเวลาถึง 6000 ปี 
ในพระคัมภีร์ปฐมกาลบอกเราว่า 
 พระเจ้าทรงสร้างโลกในเวลา 6 วัน 
แล้วพระเจ้าทรงพักผ่อนในวันที่ 7 
หนึ่งพันปีสำหรับพระเจ้าก็เท่ากับหนึ่งวัน (สดุดี 90:4)
6 วันในการสร้างโลกเท่ากับ 6000 ปี 
ระยะเวลา 6000 ปีเป็นการเตรียมการ 
สำหรับ 1000 ปีแห่งการปกครองของพระเยซูคริสต์บนโลก 
และพระองค์จะทรงบูรณะทุกสิ่ง 
ให้ถูกต้องตามพระประสงค์ของพระเจ้า 
*****
 #Catholic 4 Life

วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

สาส์นแม่พระ 25 ก.ค. 2024

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 ห.ค. 2024
ลูกที่รักทั้งหลาย
         ด้วยความยินดี, แม่ได้เลือกลูกและแม่กำลังนำทางลูก เพราะในตัวลูก, ลูกน้อยทั้งหลาย, แม่เห็นประชาชนที่มีความเชื่อ ความหวัง และการสวดภาวนา  
          ลูกน้อยทั้งหลาย, ขอให้ลูกมีความภาคภูมิใจเถิดที่ลูกเป็นของแม่ และแม่กำลังนำพวกลูกไปสู่พระองค์ ผู้ทรงเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต แม่ได้มาอยู่กับลูก,เพื่อที่สันติสุขจะได้มีชัยชนะในตัวลูกและรอบๆตัวลูก เพราะด้วยความประสงค์นี้,พระเจ้าจึงส่งแม่มาหาลูก  
          ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่           
            

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

คำภาวนาในพิธีมิสซา


วันหนึ่งนักบุญโทมัส เห็นขบวนแห่ของวิญญาณกลุ่มหนึ่งเดินจากประตูโบสถ์ไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แล้วเดินจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไปยังตัวโบสถ์ สิ่งนี้ทำให้นักบุญโทมัสรู้สึกประหลาดใจและสงสัยมาก ท่านอยากรู้ว่ามันหมายถึงอะไร ดังนั้นท่านจึงหยุดสวดภาวนาและถามผู้ที่อยู่ในขบวนแห่ว่าพวกเขากำลังทำอะไร แล้วท่านก็ได้ยินคำพูดนี้ “ท่านสงสัยทำไม? เราคืออารักขเทวดาของผู้ซื่อสัตย์ที่ร่วมในพิธีมิสซา เรานำเอาคำภาวนาของพวกเขาไปถวายพระเจ้าและพระองค์ทรงเปลี่ยนคำภาวนาของพวกเขาเป็นพระพรสำหรับพวกเขา” 

 ที่มา: The Tremendous Value of Holy Mass

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ผลของศีลมหาสนิท


"ผลอันน่าชื่นชมที่สุดอย่างหนึ่งของศีลมหาสนิทคือการรักษาจิตวิญญาณให้พ้นจากบาปและช่วยให้ผู้ที่ล้มลงเพราะความอ่อนแอได้ลุกขึ้นอีกครั้ง,จึงเป็นประโยชน์อย่างมาก ดังนั้นจึงควรเข้าใกล้ศีลศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้านี้ด้วยความรัก,ด้วยความเคารพและความไว้วางใจ มากกว่าที่จะอยู่ห่างไกลเพราะความกลัวและความรอบคอบมากเกินไป" 
 - นักบุญอิกนาเชียสแห่งโลโยลา

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ลักษณะของคริสตชน


ในยุคคอมมิสนิสต์ปกครองโรมาเนีย พระสงฆ์หลายองค์ถูกจับกุมคุมขัง “เมื่อคุณพ่อ ดีมีเตอร์(Father Demeter)ถูกจำคุกในเรือนจำ,ผู้คุมเรือนจำเอาฆ้อนทุบเข้าที่หลังของคุณพ่อเพื่อความสนุกเท่านั้น..ทำให้ท่านเป็นอัมพาต 

หลังจากการปฏิวัติโรมาเนีย ในปี 1989 สิ้นสุดลง และโรมาเนียพ้นจากลัทธิคอมมิวนิสต์ ,เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้คุมเรือนจำได้พบกับคุณพ่อดีมีเตอร์ เขาพูดกับคุณพ่อว่า “ผมรู้ว่าได้ทำสิ่งที่ไม่สามารถให้อภัยได้ สิ่งที่ผมทำนั้นมันหนักและโหดร้ายเกินไป ผมเพียงอยากขอคุณพ่อเท่านั้นว่า โปรดรู้ว่าผมเสียใจ,และผมจะจากไปอย่างสงบ” 

คุณพ่อดีมีเตอร์ตอบเขาว่า “เป็นเวลายี่สิบปีแล้วที่พ่อสวดภาวนาเพื่อคุณ,วันแล้ววันเล่า พ่อกำลังรอคุณเพื่อบอกคุณว่า พ่อให้ให้อภัยคุณแล้ว” 

นี่คือสิ่งที่คริสตชนพึงกระทำ คือการให้อภัยแม้กับศัตรูของเร


โดย Richard Wurmbrand, จากหนังสือ Suffering to Triumph (p. 58)


วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

หัวใจที่ร่ำรวย


วันหนึ่งชายที่ร่ำรวยได้ให้ตะกร้าที่เต็มไปด้วยอาหารที่เน่าแล้วแก่ชายผู้ยากจนคนหนึ่ง

ชายยากจนเดินจากไปพร้อมกับยิ้มให้และตะกร้า....เขาได้นำอาหารที่เน่าแล้วออกจากตะกร้าและทำความสะอาดอย่างดี,

ใส่ดอกไม้ที่สวยงามลงในตะกร้าแล้วกลับไปยังคฤหาสน์ของชายร่ำรวยและยื่นตะกร้าให้แก่เขา

ชายร่ำรวยประหลาดใจมากและถามชายยากจนว่า “ทำไม?

“ฉันให้ตะกร้าเต็มไปด้วยของที่เน่าเสีย แต่คุณกลับนำตะกร้ากลับคืนมาพร้อมด้วยดอกไม้ที่สวยงาม”

ชายยากจนตอบเขาว่า

“ทุกคนจะให้สิ่งที่เขามีอยู่ในหัวใจ”

***

ภายในตัวคุณมีสิ่งใด, คุณจะนำสิ่งนั้นออกมา จงมีใจเมตตากรุณาเสมอ

คุณไม่จำเป็นต้องร่ำรวยก่อนแล้วจึงมีใจเมตตากรุณา ความเมตตากรุณาเป็นของฟรี ไม่ว่าจะร่ำรวยหรือยากจน....ทุกคนมีใจเมตตากรุณาได้,เพียงแค่คุณต้องการเท่านั้น

“หัวใจที่ร่ำรวย”

ย่อมเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา....

วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2567