พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2024 ผู้ที่เป็นใหญ่ในสวรรค์

           ยากอบและยอห์น บุตรของเศเบดี เข้ามาทูลพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าทั้งสองปรารถนาให้พระองค์ทรงกระทำตามที่ข้าพเจ้าจะขอนี้” พระองค์ตรัสถามว่า “ท่านปรารถนาให้เราทำสิ่งใด” ทั้งสองทูลตอบว่า “ขอโปรดให้ข้าพเจ้าคนหนึ่งนั่งข้างขวา อีกคนหนึ่งนั่งข้างซ้ายของพระองค์ในพระสิริรุ่งโรจน์เถิด” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านไม่รู้ว่ากำลังขออะไร ท่านดื่มถ้วยซึ่งเราจะดื่มได้ไหม หรือรับการล้างที่เราจะรับได้หรือไม่” ทั้งสองทูลว่า “ได้ พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ถ้วยที่เราจะดื่มนั้น ท่านจะได้ดื่ม และการล้างที่เราจะรับนั้น ท่านก็จะได้รับ แต่การที่จะนั่งข้างขวาหรือข้างซ้ายของเรานั้น ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะให้ แต่สงวนไว้สำหรับผู้ที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้”
           เมื่อได้ยินดังนั้น อัครสาวกอีกสิบคนรู้สึกโกรธยากอบและยอห์น พระเยซูเจ้าจึงทรงเรียกเขาทั้งหมดมาพบ ตรัสว่า “ท่านทั้งหลายย่อมรู้ว่า คนต่างชาติที่คิดว่าตนเป็นหัวหน้าย่อมเป็นเจ้านายเหนือผู้อื่น และผู้เป็นใหญ่ย่อมใช้อำนาจบังคับ แต่ท่านทั้งหลายไม่ควรเป็นเช่นนั้น ผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นใหญ่จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ผู้อื่น และผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นคนที่หนึ่งในหมู่ท่าน ก็จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ทุกคน เพราะบุตรแห่งมนุษย์มิได้มาเพื่อให้ผู้อื่นรับใช้ แต่มาเพื่อรับใช้ผู้อื่น และมอบชีวิตของตนเป็นสินไถ่เพื่อมวลมนุษย์”
(มาระโก 10:35-45)








วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

การเดินทางในความเชื่อและการสวดภาวนา


พระเยซูเจ้าทรงหยิบขนมปังขึ้น ทรงขอบพระคุณพระเจ้า แล้วทรงแจกจ่ายให้แก่ผู้คน
>>>อ่านต่อ

วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ขับไล่ปีศาจก่อนรับศีลล้างบาป


นักบุญเทเรซาเคยกล่าวไว้ว่า "สงครามฝ่ายวิญญาณจำเป็นต้องมีความกล้าหาญเป็นอย่างมาก" และนี่เป็นความจริงอย่างยิ่ง เนื่องจากศัตรูของเราไม่เพียงแต่มีพละกำลังที่น่ากลัวและมีจำนวนมากมายเกินกว่าที่จะคาดคิด และพวกมันยังกระตือรือร้นมากทั้งกลางวันและกลางคืน ด้วยความตื่นตัวในการทำงาน สำหรับความพินาศของเรา 

 นักบุญโทมัสกล่าวว่า “ปีศาจร้ายมีอำนาจบางอย่างเหนือมนุษย์,จากข้อเท็จจริงที่ว่าปีศาจนั้นทำงานภายใต้บาปกำเนิดดั้งเดิมของพวกเรา หรือแม้แต่จากบาปส่วนบุคคลของแต่ละคนด้วย ด้วยเหตุนี้, จึงเหมาะสมที่ก่อนที่เราจะรับศีลล้างบาป, ปีศาจควรจะถูกขับออกไปเสียก่อน,โดยอาศัยบทสวดขับไล่ปีศาจ ด้วยเกรงว่าพวกมันจะขัดขวางความรอดของมนุษย์” นักบุญโทมัสอธิบายเพิ่มเติมว่าการขับไล่นั้นกระทำโดยการที่พระสงฆ์ระบายลมหายใจเหนือผู้ที่จะรับศีลล้างบาป,อวยพรและวางมือบนตัวของผู้นั้นเพื่อเป็นการขัดขวางการกลับมาของปีศาจ และการเจิมด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ที่มอบพละกำลังในการต่อสู้กับปีศาจ ท่านสรุปว่า "พระศาสนจักรใช้คำสั่งเพื่อขับไล่พลังของปีศาจออกไป เช่น พระสงฆ์พูดว่า: ' ปีศาจที่ถูกสาปแช่ง จงออกไปจากเขา'" (Summa, St. Thomas.)

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ทฤษฏีโลก 6000 ปี


ระยะเวลาจากอาดัมมาจนถึงอับราฮัมเป็นเวลาประมาณ 2000 ปี 
จากอับราฮัมมาจนถึงพระเยซูเจ้าเป็นเวลาประมาณ 2000 ปี 
จากพระเยซูมาถึงเราเป็นเวลาประมาณ 2000 ปี 
รวมเป็นเวลาทั้งหมด 6000 ปี 
เป็นเวลา 6000 ปี ที่ซาตานปกครองและมีอำนาจเหนือโลก นับตั้งแต่อาดัม 
ในพระคัมภีร์วิวรณ์บอกเราว่า
ในวาระสุดท้าย อาณาจักรสวรรค์จะเกิดขึ้นบนโลก 
พระเยซูจะทรงปกครองโลกเป็นเวลา 1000 ปี 
เป็นเวลาที่โลกจะมีสันติสุข 
พิจารณาดูเถอะว่า พระเยซูกำลังรอคอย 
ประชาชนที่ได้รับพระพรที่จะได้รับเสด็จ
ผู้ที่จะมา ในพระนามของพระเจ้า 
ในเวลา6000 ปีนี้เป็นเวลาที่คนต่างชาติจะได้รับข่าวดี 
เมื่อพระวรสารได้ถูกเผยแพร่ไปจนสุดปลายพิภพ 
แล้ววาระสุดท้ายก็จะมาถึง 
เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่สิ่งเหล่านี้
ใช้ระยะเวลาถึง 6000 ปี 
ในพระคัมภีร์ปฐมกาลบอกเราว่า 
 พระเจ้าทรงสร้างโลกในเวลา 6 วัน 
แล้วพระเจ้าทรงพักผ่อนในวันที่ 7 
หนึ่งพันปีสำหรับพระเจ้าก็เท่ากับหนึ่งวัน (สดุดี 90:4)
6 วันในการสร้างโลกเท่ากับ 6000 ปี 
ระยะเวลา 6000 ปีเป็นการเตรียมการ 
สำหรับ 1000 ปีแห่งการปกครองของพระเยซูคริสต์บนโลก 
และพระองค์จะทรงบูรณะทุกสิ่ง 
ให้ถูกต้องตามพระประสงค์ของพระเจ้า 
*****
 #Catholic 4 Life

วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

สาส์นแม่พระ 25 ก.ค. 2024

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 ห.ค. 2024
ลูกที่รักทั้งหลาย
         ด้วยความยินดี, แม่ได้เลือกลูกและแม่กำลังนำทางลูก เพราะในตัวลูก, ลูกน้อยทั้งหลาย, แม่เห็นประชาชนที่มีความเชื่อ ความหวัง และการสวดภาวนา  
          ลูกน้อยทั้งหลาย, ขอให้ลูกมีความภาคภูมิใจเถิดที่ลูกเป็นของแม่ และแม่กำลังนำพวกลูกไปสู่พระองค์ ผู้ทรงเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต แม่ได้มาอยู่กับลูก,เพื่อที่สันติสุขจะได้มีชัยชนะในตัวลูกและรอบๆตัวลูก เพราะด้วยความประสงค์นี้,พระเจ้าจึงส่งแม่มาหาลูก  
          ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่           
            

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

คำภาวนาในพิธีมิสซา


วันหนึ่งนักบุญโทมัส เห็นขบวนแห่ของวิญญาณกลุ่มหนึ่งเดินจากประตูโบสถ์ไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แล้วเดินจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไปยังตัวโบสถ์ สิ่งนี้ทำให้นักบุญโทมัสรู้สึกประหลาดใจและสงสัยมาก ท่านอยากรู้ว่ามันหมายถึงอะไร ดังนั้นท่านจึงหยุดสวดภาวนาและถามผู้ที่อยู่ในขบวนแห่ว่าพวกเขากำลังทำอะไร แล้วท่านก็ได้ยินคำพูดนี้ “ท่านสงสัยทำไม? เราคืออารักขเทวดาของผู้ซื่อสัตย์ที่ร่วมในพิธีมิสซา เรานำเอาคำภาวนาของพวกเขาไปถวายพระเจ้าและพระองค์ทรงเปลี่ยนคำภาวนาของพวกเขาเป็นพระพรสำหรับพวกเขา” 

 ที่มา: The Tremendous Value of Holy Mass

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ผลของศีลมหาสนิท


"ผลอันน่าชื่นชมที่สุดอย่างหนึ่งของศีลมหาสนิทคือการรักษาจิตวิญญาณให้พ้นจากบาปและช่วยให้ผู้ที่ล้มลงเพราะความอ่อนแอได้ลุกขึ้นอีกครั้ง,จึงเป็นประโยชน์อย่างมาก ดังนั้นจึงควรเข้าใกล้ศีลศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้านี้ด้วยความรัก,ด้วยความเคารพและความไว้วางใจ มากกว่าที่จะอยู่ห่างไกลเพราะความกลัวและความรอบคอบมากเกินไป" 
 - นักบุญอิกนาเชียสแห่งโลโยลา

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ลักษณะของคริสตชน


ในยุคคอมมิสนิสต์ปกครองโรมาเนีย พระสงฆ์หลายองค์ถูกจับกุมคุมขัง “เมื่อคุณพ่อ ดีมีเตอร์(Father Demeter)ถูกจำคุกในเรือนจำ,ผู้คุมเรือนจำเอาฆ้อนทุบเข้าที่หลังของคุณพ่อเพื่อความสนุกเท่านั้น..ทำให้ท่านเป็นอัมพาต 

หลังจากการปฏิวัติโรมาเนีย ในปี 1989 สิ้นสุดลง และโรมาเนียพ้นจากลัทธิคอมมิวนิสต์ ,เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้คุมเรือนจำได้พบกับคุณพ่อดีมีเตอร์ เขาพูดกับคุณพ่อว่า “ผมรู้ว่าได้ทำสิ่งที่ไม่สามารถให้อภัยได้ สิ่งที่ผมทำนั้นมันหนักและโหดร้ายเกินไป ผมเพียงอยากขอคุณพ่อเท่านั้นว่า โปรดรู้ว่าผมเสียใจ,และผมจะจากไปอย่างสงบ” 

คุณพ่อดีมีเตอร์ตอบเขาว่า “เป็นเวลายี่สิบปีแล้วที่พ่อสวดภาวนาเพื่อคุณ,วันแล้ววันเล่า พ่อกำลังรอคุณเพื่อบอกคุณว่า พ่อให้ให้อภัยคุณแล้ว” 

นี่คือสิ่งที่คริสตชนพึงกระทำ คือการให้อภัยแม้กับศัตรูของเร


โดย Richard Wurmbrand, จากหนังสือ Suffering to Triumph (p. 58)


วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

หัวใจที่ร่ำรวย


วันหนึ่งชายที่ร่ำรวยได้ให้ตะกร้าที่เต็มไปด้วยอาหารที่เน่าแล้วแก่ชายผู้ยากจนคนหนึ่ง

ชายยากจนเดินจากไปพร้อมกับยิ้มให้และตะกร้า....เขาได้นำอาหารที่เน่าแล้วออกจากตะกร้าและทำความสะอาดอย่างดี,

ใส่ดอกไม้ที่สวยงามลงในตะกร้าแล้วกลับไปยังคฤหาสน์ของชายร่ำรวยและยื่นตะกร้าให้แก่เขา

ชายร่ำรวยประหลาดใจมากและถามชายยากจนว่า “ทำไม?

“ฉันให้ตะกร้าเต็มไปด้วยของที่เน่าเสีย แต่คุณกลับนำตะกร้ากลับคืนมาพร้อมด้วยดอกไม้ที่สวยงาม”

ชายยากจนตอบเขาว่า

“ทุกคนจะให้สิ่งที่เขามีอยู่ในหัวใจ”

***

ภายในตัวคุณมีสิ่งใด, คุณจะนำสิ่งนั้นออกมา จงมีใจเมตตากรุณาเสมอ

คุณไม่จำเป็นต้องร่ำรวยก่อนแล้วจึงมีใจเมตตากรุณา ความเมตตากรุณาเป็นของฟรี ไม่ว่าจะร่ำรวยหรือยากจน....ทุกคนมีใจเมตตากรุณาได้,เพียงแค่คุณต้องการเท่านั้น

“หัวใจที่ร่ำรวย”

ย่อมเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา....

วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ชีวิตนั้นสั้นนัก


ชีวิตของท่านจะหายวับไป พรุ่งนี้ท่านอาจจะไม่อยู่แล้ว จงพิจารณาอย่างรอบคอบว่าชีวิตหลังความตายจะเป็นอย่างไร วันนี้ท่านอยู่ที่นี่ แต่พรุ่งนี้ท่านอาจไม่อยู่อีกต่อไป เมื่อใครสักคนจากไป พวกเขาก็จะถูกลืมในไม่ช้า เป็นเรื่องโง่เขลาที่จะมุ่งความสนใจไปที่ปัจจุบันเท่านั้นและมองข้ามอนาคต ท่านควรใช้ชีวิตในแต่ละวันราวกับว่ามันเป็นวันสุดท้ายของท่าน ถ้าท่านมีมโนธรรมที่แจ่มใส ท่านจะไม่กลัวความตายมากนัก การระมัดระวังในบาปย่อมดีกว่าการกลัวความตาย วันนี้ท่านยังไม่เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความตาย พรุ่งนี้ท่านจะเตรียมตัวอย่างไรได้? พรุ่งนี้,ไม่แน่นัก! ท่านไม่สามารถรับประกันได้ว่าท่านจะมีหรือเปล่า 
- จำลองแบบพระคริสต์ 
Thomas A Kempis

วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

อย่าโอ้อวดเลย


อย่าโอ้อวดเกี่ยวกับความมั่งคั่งของท่าน,ถึงแม้ท่านจะมีก็ตาม หรือโอ้อวดเกี่ยวกับมิตรสหายที่มีอำนาจของท่าน แต่จงอวดอ้างในพระเจ้าเถิด,ผู้ทรงประทานทุกสิ่งแก่ท่านและเหนือสิ่งอื่นใด,ทรงปรารถนาที่จะมอบพระองค์เองแก่ท่าน อย่าภูมิใจเพราะความแข็งแกร่งทางร่างกายหรือความงามของท่าน เพราะแม้แต่ความเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆก็สามารถทำให้ท่านอ่อนแอลงได้ อย่าเย่อหยิ่งในทักษะหรือความสามารถของตนเอง เกรงว่าพระเจ้าจะไม่ทรงพอพระทัย,พระเจ้าผู้ทรงประทานสิ่งดีๆแก่มนุษย์ สิ่งต่างๆที่เรามีนั้นล้วนได้รับมาจากพระองค์ 
- จำลองแบบพระคริสต์ 
Thomas A Kempis

คุณธรรมที่นำเราไปสู่สวรรค์


เมื่อนักบุญแอนโทนี ผู้ดำรงชีวิตเป็นฤาษี,เห็นว่ามีบ่วงแห่งสิ่งล่อลวงต่างๆมากมายในโลก ท่านร้องตะโกนว่า “ใครจะรอดพ้นจากภยันตรายต่างๆมากมายเช่นนี้ได้?” และท่านได้ยินเสียงตอบว่า “แอนโทนี่ ความอ่อนน้อมถ่อมตนเพียงอย่างเดียวที่จะทำให้ดำเนินไปได้อย่างปลอดภัย, ผู้ที่ก้มศีรษะลงด้วยความถ่อมตนก็ไม่ต้องกลัวที่จะติดบ่วงเหล่านี้” 

นักบุญอัลฟองโซเขียนว่า “แท้จริงแล้ว ปีศาจกำลังทำงานเพื่อประโยชน์ของนรก,เมื่อมันสร้างแรงบันดาลใจให้วิญญาณหนึ่งปรารถนาที่จะได้รับเกียรติจากโลก เพราะเมื่อวิญญาณสูญเสียความอ่อนน้อมถ่อมตน วิญญาณก็เสี่ยงต่อการถูกเหวี่ยงลงสู่อเวจี” 

นักบุญเทเรซาแห่งอาวีลากล่าวอีกว่า “ยิ่งเรามีน้อยในโลก”....“ความสุขของเราในสวรรค์ก็ยิ่งจะมีมากขึ้นเท่านั้น สง่าราศีของเราในสวรรค์สอดคล้องกับความรักที่เราเลียนแบบชีวิตของพระอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ของเราบนโลกนี้” 

เราจำเป็นต้องรู้จักควบคุมความคิดของเรา ถึงแม้บางครั้งเราอาจลืมตัวไปบ้าง,แต่ทันทีที่รู้สึกตัว,ให้แทนที่ความคิดที่ผิดเหล่านั้นอย่างรวดเร็วด้วยความคิดที่ถูกต้อง 

การควบคุมตนเองเตรียมเราให้พร้อมสำหรับชีวิตนิรันดร์ 

เราจะมีความสุขแม้ในความทุกข์ยาก 

เริ่มต้นด้วยสิ่งที่คุณทำได้ เพียงแค่ยืนหยัดและอาศัยพระหรรษทานของพระเจ้าช่วยเหลือ พระเจ้าไม่ได้คาดหวังให้คุณสมบูรณ์ครบครันในทันทีทันใด โลกนี้มีสิ่งล่อลวงมากมาย เราจึงต้องเพียรพยายามให้มากที่สุด และสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้! พระเจ้าจะทรงช่วยเหลือเราให้ทำได้ พระองค์ต้องการความเพียรพยายามจากเรา 

ตราบเท่าที่คุณดำรงอยู่ในพระเจ้าและติดตามพระองค์เสมอ,ความมืดมนจะหนีไปจากคุณ และความรู้ก็จะมาสู่คุณ คุณจะมีความรักในพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ได้ดีขึ้น 

เพียงให้แสงสว่างส่องมาในความมืดมิดของวิญญาณ (นี่คือกุญแจสำคัญ: เพียงแค่ชูตะเกียงแห่งความรักไว้) 

#Catholic 4 Life  

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

นักบุญเกมมา กัลกินี


รอยแผลลึกลับของนักบุญเกมมา กัลกินี(Gemma Galgini) 
นำมาจากไดอารี่ของเธอ 

ในความรู้สึกภายในนี้, ฉันไม่รู้สึกถึงตัวเอง, และพบว่าตัวเองอยู่เบื้องหน้าพระมารดาแห่งสวรรค์ของดิฉัน และทางด้านขวาของพระนาง,ทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์ของฉันยืนอยู่ ท่านบอกให้ฉันสวดภาวนาบทแสดงความทุกข์ และเมื่อฉันสวดจบแล้ว,พระมารดาได้ตรัสกับฉันว่า ลูกสาว, ในพระนามของพระเยซู, บาปของลูกได้รับการอภัยแล้ว จากนั้นพระนางตรัสอีกว่า พระเยซู,องค์พระบุตรของแม่,รักลูกมากและพระองค์ปรารถนาที่จะประทานพระหรรษทานประการหนึ่งแก่ลูก ลูกรู้วิธีทำให้ตัวเองมีค่าคู่ควรหรือไม่? ในความน่าสมเพชของฉัน,ฉันไม่รู้จะตอบอย่างไร พระนางตรัสต่อไป แม่จะเป็นแม่ของลูก, แล้วลูกจะเป็นลูกสาวของแม่หรือไม่? จากนั้นพระนางก็กางเสื้อคลุมของพระนางและคลุมฉันไว้ ทันใดนั้น,พระเยซูทรงปรากฏมา,และบาดแผลทั้งหมดบนพระกายของพระองค์เปิดเผยให้เห็น แต่ไม่มีเลือดไหลออกมาจากบาดแผลเหล่านั้น และในทันใดนั้น, มีเปลวไฟลุกโชนขึ้นเปลวไฟเหล่านี้ก็มาสัมผัสมือ, เท้า, และหัวใจของฉัน และฉันรู้สึกราวกับจะตาย ฉันล้มลงกับพื้น แต่พระมารดาทรงพยุงฉันไว้,โดยคลุมฉันไว้ในเสื้อคลุมของพระนาง 

จากนั้นพระมารดาทรงจูบหน้าผากของฉัน นิมิตนั้นก็หายไป และฉันก็คุกเข่าลง แต่ฉันยังมีอาการปวดอย่างรุนแรงที่มือ เท้า และหัวใจ ฉันลุกขึ้นไปนอน,และเห็นว่ามีเลือดไหลออกมาจากบริเวณที่ฉันปวด ฉันปกปิดรอยแผลอย่างดีเท่าที่จะทำได้ จากนั้นโดยได้รับความช่วยเหลือจากเทวดาผู้พิทักษ์ของฉัน,ฉันจึงเข้านอน

วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

นักบุญผู้แลกเปลี่ยนหัวใจกับพระเยซูเจ้า


คุณเคยได้ยินชื่อนักบุญลุดการ์ดิส(St. Lutgardis) ไหม? เธอเป็นแม่ชีที่ได้แลกเปลียนหัวใจกับพระเยซูเจ้า

นักบุญลุดการ์ดิส มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 11 เธอได้รับพระพรพิเศษและได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์

พระเยซูเจ้าประจักษ์ต่อเธอบ่อยครั้งและในไม่ช้าพระองค์ทรงสัญญาว่าจะประทานทุกสิ่งที่เธอวอนขอ

คำขอประการแรกของเธอคือขอให้เธอเข้าใจภาษาละตินเพื่อที่เธอจะได้ร้องเพลงภาษาละตินในระหว่างพิธีมิสซาได้อย่างไพเราะ

และเธอก็ได้รับตามคำขอ แต่เธอกลับรู้สึกว่างเปล่าในจิตใจเมื่อใดก็ตามที่เธอหยุดร้องเพลง

คำขอประการที่สองของเธอคือ ขอให้เธอเข้าใจพระคัมภีร์ทั้งหมดและคำอธิบายของบรรดาปิตาจารย์ในพระศาสนจักร

และเธอก็ได้รับตามคำขอ แต่เมื่อใดก็ตามที่เธอหยุดเทศน์สอนหรือหยุดการโต้วาที,เธอกลับรู้สึกว่างเปล่าในจิตใจ

คำขอต่อไปคือการเยียวยารักษาผู้อื่น เป็นคำขอที่กล้าหาญมาก, แต่เมื่อคนนับพันมาหาเธอเพื่อขอให้รักษาโรคหรือความเจ็บปวดต่างๆ เธอรู้สึกเบื่อและรำคาญมาก

คำขอสุดท้ายของเธอต่อพระเยซูเจ้านั้น ตรงไปตรงมาและสุภาพมาก เมื่อพระเยซูทรงถามเธอว่าเธอต้องการอะไร เธอตอบอย่างรวดเร็วว่า “ลูกต้องการดวงพระทัยของพระองค์ค่ะ”

เป็นภาพที่น่าตื่นเต้นทีเดียว พระเยซูทรงถอดดวงพระทัยจากรอยแผลที่สีข้างของพระองค์และเอาไปแทนที่หัวใจของนักบุญลุดการ์ดิส

การแปลความหมายของเรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่ง่ายแต่น่าประทับใจ

คนหนึ่งสามารถมีความรอบรู้ในทุกสิ่งหรือรอบรู้ในพระคัมภีร์ หรือแม้แต่สามารถกระทำความดีได้ครบถ้วน

แต่ถ้าปราศจากดวงพระทัยของพระเยซูเจ้าเผาไหม้ในหัวใจของคนๆนั้น

เขาจะรู้สึกว่างเปล่า ไม่รู้สึกยินดีในผลลัพท์เหล่านั้นเลย

**********
หมายเหตุ - นักบุญลุตการ์ดิส(St. Lutgardis)เป็นนักบุญที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง ท่านเป็นผู้ได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์(Stigmatist)คนที่สองที่มีบันทึกไว้ และเป็นผู้ที่ได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นผู้หญิงคนแรก ท่านยังเป็นผู้มีความศรัทธาต่อดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้ามากด้วย

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ


ตัวอย่างที่ดีของอารมณ์ขันที่เอาชนะความโกรธพบได้ในชีวิตของนักบุญโทมัส อไควนัส กล่าวกันว่าการประชุมในคณะโดมินิกัน บรรดานักบวชชอบเยาะเย้ยโทมัสในเรื่องที่เขามีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาทางปรัชญาและการเชื่อฟังอย่างพิถีพิถัน ครั้งหนึ่ง,มีคนหนึ่งร้องขึ้นว่า “โทมัส โทมัส, มาเถอะ มองออกไปนอกหน้าต่างหน่อย มีวัวกำลังกระโดดข้ามดวงจันทร์แน่ะ!” โทมัสผู้ชอบพิจารณาไตร่ตรอง,ละทิ้งงานของเขาและรีบไปพบนักบวชคนนั้น เมื่อบรรดานักบวชที่มาชุมนุมกันหัวเราะเยาะเขา เขาตอบว่า "ฉันอยากจะเชื่อว่าวัวกำลังกระโดดข้ามดวงจันทร์ มากกว่าที่เชื่อว่าชาวโดมินิกันจะพูดโกหก!" 

ที่มา: Quotable Saints