'สามพระบุคคลทรงเป็นพระเจ้าองค์เดียว เพราะพระบิดาคือความรัก,พระบุตรคือความรัก,และพระจิตคือความรัก พระเจ้าทรงเป็นความรักที่สมบูรณ์ เป็นความรักที่บริสุทธิ์ที่สุด พระองค์ไม่มีที่สิ้นสุดและเป็นนิรันดร์ พระองค์ไม่ทรงอยู่อย่างสันโดษ แต่ทรงเป็นแหล่งกำเนิดชีวิตที่ไม่รู้จักหมดสิ้น,ทรงประทานและเชื่อมโยงสื่อสารกับทุกสรรพสิ่งอย่างไม่หยุดยั้ง
ในระดับหนึ่ง,เราสามารถรับรู้สิ่งนี้ได้จากการสังเกตทั้งจักรวาลในระดับมาโคร อันได้แก่โลก, ดาวเคราะห์, ดวงดาว, กาแลกซี่ของเรา
และในระดับไมโครจักรวาล อันได้แก่เซลล์, อะตอม, อนุภาคมูลฐาน
"พระนาม"ของพระตรีเอกภาพ,ในแง่หนึ่ง,ประทับตราอยู่บนทุกสิ่ง เพราะสิ่งที่เป็นอยู่และมีอยู่มีความเกี่ยวข้องกันจนถึงวาระสุดท้าย
ด้วยวิธีนี้เรามองเห็นพระเจ้าเป็นความสัมพันธ์และท้ายที่สุดเป็นความรักในฐานะพระผู้สร้าง
ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความรัก ปรารถนาที่จะรัก และขับเคลื่อนด้วยความรัก
แม้ว่าโดยธรรมชาติแล้วจะมีระดับของการรับรู้และเสรีภาพที่แตกต่างกันไป
“ข้าแต่พระยาห์เวห์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระนามของพระองค์ช่างยิ่งใหญ่นักทั่วแผ่นดิน!” (สดุดี 8: 1) ผู้ประพันธ์เพลงสดุดีกล่าวอุทานขึ้น เมื่อพูดถึง "พระนาม"ซึ่งพระคัมภีร์กล่าวถึงองค์พระเจ้าเอง อันเป็นอัตลักษณ์ที่แท้จริงที่สุดของพระองค์ เป็นอัตลักษณ์ที่ฉายแสงเหนือสรรพสิ่งแห่งการเนรมิตสร้าง ซึ่งสิ่งสร้างทั้งปวงมีตัวตนอยู่จริง และเพราะว่า"เนื้อหา"ที่สิ่งต่างๆถูกสร้างขึ้นมานั้นชี้ไปที่ความเป็นเหนือธรรมชาติ,ชี้ไปสู่ชีวิตนิรันดร์และไม่มีที่สิ้นสุด
ด้วยความรัก “เรามีชีวิต, เคลื่อนไหว, และมีความเป็นอยู่ในพระองค์” นักบุญเปาโลกล่าวที่อาเรโอปากัสแห่งเอเธนส์ (กิจการ 17:28)
หลักฐานที่ชัดเจนที่สุดว่าเราถูกสร้างขึ้นมาตามภาพลักษณ์ของพระตรีเอกภาพคือ ความรักเท่านั้นที่ทำให้เรามีความสุขเพราะเราอยู่ในความสัมพันธ์ และเรามีชีวิตอยู่เพื่อรักและถูกรัก
จากการเปรียบเทียบทางชีววิทยา,เราสามารถพูดได้ว่า "จีโนม" ของพระองค์ถูกประทับในตัวเรา มนุษย์มีเครื่องหมายอันลึกซึ้งของพระตรีเอกภาพ,ของพระเจ้าในความรัก
- พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 วันที่ 7 มิถุนายน 2009