Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2024 พระเยซูเจ้ากับเศรษฐีหนุ่ม
  ขณะที่พระองค์กำลังทรงพระดำเนินอยู่ระหว่างทาง ชายคนหนึ่งรีบเข้ามาคุกเข่าลง ทูลถามว่า “พระอาจารย์ผู้ทรงความดี ข้าพเจ้าต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ทำไมเรียกเราว่าผู้ทรงความดี ไม่มีใครทรงความดีนอกจากพระเจ้าเท่านั้น ท่านรู้จักบทบัญญัติแล้ว คือ อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณี อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าฉ้อโกง จงนับถือบิดามารดา” ชายผู้นั้นทูลว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติเหล่านี้ทุกข้อมาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเขาด้วยพระทัยเอ็นดู ตรัสกับเขาว่า “ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด” เมื่อได้ฟังพระวาจานี้ ชายผู้นั้นหน้าสลดลงเพราะเขามีทรัพย์สมบัติมากมาย จึงจากไปด้วยความทุกข์
  พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรโดยรอบ แล้วตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “ยากจริงหนอที่คนมั่งมีจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” บรรดาศิษย์แปลกใจกับพระวาจานี้ พระเยซูเจ้าจึงตรัสอีกว่า “ลูกเอ๋ย ยากจริงหนอที่จะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า อูฐจะลอดรูเข็มยังง่ายกว่าคนมั่งมีเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” บรรดาศิษย์ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น พูดกันว่า “ดังนี้ ใครเล่าจะรอดพ้นได้” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรบรรดาศิษย์แล้วตรัสว่า “สำหรับมนุษย์เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้าเป็นเช่นนั้นได้ เพราะพระองค์ทรงทำได้ทุกสิ่ง”
  เปโตรทูลพระเยซูเจ้าว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สละทุกสิ่งและติดตามพระองค์แล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ไม่มีใครที่ละทิ้งบ้านเรือน พี่น้องชายหญิง บิดามารดา บุตรหรือไร่นาเพราะเห็นแก่เรา และเพราะเห็นแก่ข่าวดี จะไม่ได้รับการตอบแทนร้อยเท่าในโลกนี้ เขาจะได้บ้านเรือน พี่น้องชายหญิง มารดา บุตร ไร่นา พร้อมกับการเบียดเบียนและในโลกหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร
(มาระโก 10:17-30)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2024 พระเยซูเจ้ากับเศรษฐีหนุ่ม
  ขณะที่พระองค์กำลังทรงพระดำเนินอยู่ระหว่างทาง ชายคนหนึ่งรีบเข้ามาคุกเข่าลง ทูลถามว่า “พระอาจารย์ผู้ทรงความดี ข้าพเจ้าต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ทำไมเรียกเราว่าผู้ทรงความดี ไม่มีใครทรงความดีนอกจากพระเจ้าเท่านั้น ท่านรู้จักบทบัญญัติแล้ว คือ อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณี อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าฉ้อโกง จงนับถือบิดามารดา” ชายผู้นั้นทูลว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติเหล่านี้ทุกข้อมาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเขาด้วยพระทัยเอ็นดู ตรัสกับเขาว่า “ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด” เมื่อได้ฟังพระวาจานี้ ชายผู้นั้นหน้าสลดลงเพราะเขามีทรัพย์สมบัติมากมาย จึงจากไปด้วยความทุกข์
  พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรโดยรอบ แล้วตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “ยากจริงหนอที่คนมั่งมีจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” บรรดาศิษย์แปลกใจกับพระวาจานี้ พระเยซูเจ้าจึงตรัสอีกว่า “ลูกเอ๋ย ยากจริงหนอที่จะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า อูฐจะลอดรูเข็มยังง่ายกว่าคนมั่งมีเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” บรรดาศิษย์ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น พูดกันว่า “ดังนี้ ใครเล่าจะรอดพ้นได้” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรบรรดาศิษย์แล้วตรัสว่า “สำหรับมนุษย์เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้าเป็นเช่นนั้นได้ เพราะพระองค์ทรงทำได้ทุกสิ่ง”
  เปโตรทูลพระเยซูเจ้าว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สละทุกสิ่งและติดตามพระองค์แล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ไม่มีใครที่ละทิ้งบ้านเรือน พี่น้องชายหญิง บิดามารดา บุตรหรือไร่นาเพราะเห็นแก่เรา และเพราะเห็นแก่ข่าวดี จะไม่ได้รับการตอบแทนร้อยเท่าในโลกนี้ เขาจะได้บ้านเรือน พี่น้องชายหญิง มารดา บุตร ไร่นา พร้อมกับการเบียดเบียนและในโลกหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร
(มาระโก 10:17-30)
วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
สาส์นแม่พระ 25 ก.พ.2023
ลูกที่รักทั้งหลาย
จงกลับใจและสวมอาภรณ์แห่งความสำนึกผิด สวดภาวนาอย่างสุดจิตใจเป็นส่วนตัวและด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน จงแสวงหาสันติภาพจากองค์พระผู้สูงสุด ในช่วงเวลาแห่งพระหรรษทานนี้,ซาตานต้องการที่จะล่อลวงพวกลูก
แต่ลูกนัอยทั้งหลาย,ลูกจงเฝ้าดูองค์พระบุตรของแม่และติดตามพระองค์ไปสู่กัลวารีด้วยการพลีกรรมและจำศีลอดอาหาร แม่มาอยู่กับพวกลูกเพราะองค์พระผู้สูงสุดทรงอนุญาตให้แม่รักพวกลูกและนำทางลูกไปสู่ความชื่นชมยินดีในหัวใจ ในความเชื่อที่เจริญเติบโตขึ้นสำหรับทุกคนที่รักพระเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด
ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
เดินทางพร้อมกับนักบุญในช่วงเวลามหาพรต
ขอบพระคุณพระเยซูเจ้าที่ทรงส่องแสงแก่การเดินทางในช่วงเวลามหาพรตของเราด้วยการช่วยเหลือของบรรดานักบุญ
>>>อ่านต่อ
วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
แผ่นดินไหวที่ตุรกี-การช่วยเหลืออย่างอัศจรรย
แผ่นดินไหวที่ตุรกีและซีเรียเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023 ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 45,000 ราย และยังมีผู้สูญหายและคนไร้ที่อยู่อาศัยอีกหลายล้านคน
การทำงานของหน่วยกู้ภัยและอาสาสมัครจากหลายประเทศ,เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก,แต่ก็ยังคงมีความหวังว่าจะมีผู้ได้รับการช่วยเหลือ
หลังจากใช้เวลากว่า 192 ชั่วโมงภายใต้ซากปรักหักพัง, เด็กชายวัย 5 ขวบได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัยโดยทีมอาสาสมัครจากตุรกี,ซึ่งต่างประหลาดใจกับสภาพที่ดีของเด็ก
“มีคนสวมชุดสีขาวมาหาผมเป็นประจำ, เขาให้อาหารและให้น้ำแก่ผม จากนั้นเขาก็จะหายตัวไป” เด็กชายกล่าวต่อหน้าอาสาสมัครที่เฝ้าดู
รายงานข่าวจากสื่อ alNas,โดยดึงข้อมูลจากช่อง aHaber ของโทรทัศน์ตุรกี
วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
นักบุญเกมมา กัลกานี กับ วิญญาณในไฟชำระ
ฉันเห็นซิสเตอร์มาเรีย เทเรซา เดินเข้ามาหาฉันในชุดแม่ชีแพสชั่นนิสต์ พร้อมด้วยอารักขเทวดาของเธอและพระเยซู
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
พระนามแม่พระองค์อุปถัมภ์ของคริสตชน
จากธรรมนูญของสมาคมแม่พระองค์อุปถัมภ์ของคริสตชน (Association of the Clients of Mary Help of Christians) เขียนโดยนักบุญยอห์นบอสโก(Opere edite, XXI, Rome 1976, 343-347)
พระนามของแม่พระในฐานะองค์อุปถัมภ์ของคริสตชน,เป็นพระนามที่ใช้คู่กับพระนามมารดาพระผู้ไถ่ซึ่งฉลองในเดือนสิงหาคม,สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในหนังสือศรัทธามีการกล่าวถึงพระนางมารีย์ในฐานะราชินีผู้ประทับยืนอยู่เบื้องขวาองค์พระบุตรของพระนาง,ทรงสวมอาภรณ์ทองคำและห้อมล้อมด้วยสิ่งต่างๆหลากหลายมากมาย เสื้อคลุมสีทองและล้อมรอบด้วยแสงอันเจิดจรัสนี้,ตามคำอธิบายของพระศาสนจักร,คืออัญมณีและเพชรจำนวนมากอันหมายถึงพระนามอันยิ่งใหญ่ที่เราคุ้นเคยในการพูดถึงพระนางมารีย์ ดังนั้น,เมื่อเราเรียกพระมารดามารีย์พรหมจารีย์ว่า "องค์อุปถัมภ์ของคริสตชน" เราเพียงแต่เรียกพระนามพิเศษที่เหมาะสมกับพระนาง,ซึ่งเปรียบเสมือนเพชรเม็ดหนึ่งบนอาภรณ์สีทองของพระนาง ในพระนามนี้,พระนางมารีย์ทรงได้รับการยกย่องในฐานะองค์อุปถัมภ์ของชาติพันธ์มนุษย์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของโลก เมื่ออาดัม,หลังจากตกสู่บาป,ท่านได้รับพระสัญญาว่าจะมีผู้มาปลดปล่อย,ผู้กำเนิดจากสตรีผู้หนึ่งซึ่งจะบดขยี้หัวของงูร้าย,ด้วยเท้าที่บริสุทธิ์ไร้มลทินของพระนาง
วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
รูปแม่พระปรากฏให้เห็นที่อาร์เจนตินา?
นำมาจาก ACI Prensa
สัตบุรุษที่ไปเยี่ยมโบสถ์น้อยของ Santuario Nuestra Señora de Lourdes de Alta Gracia ในจังหวัดคอร์โดบา (อาร์เจนตินา) เป็นสักขีพยานถึงข้อเท็จจริงที่ยังอธิบายไม่ได้: ในช่องว่างด้านหลังของพระแท่นบูชา มีรูปพระแม่มารีย์ปรากฏขึ้นมาให้เห็นแม้จะเป็นที่ว่างเปล่า
จากข้อมูลของ AICA รูปนี้ไม่ใช่รูปภาพแบนๆ แต่เป็นภาพสามมิติ,มีรอยพับที่อาภรณ์ และไม่ใช่ภาพลวงตาทางจิตใจ แม้แต่ผู้ที่ไม่มีความเชื่อก็มองเห็นได้ และสามารถถ่ายภาพเป็นหลักฐาน
แหล่งข่าวจาก Sanctuary of Our Lady of Lourdes de Alta Gracia กล่าวกับทาง ACI Prensa ว่าแม้ว่าจะยังไม่มีแถลงการณ์เฉพาะจากอาร์คบิชอป แต่ “ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ภาพยังคงเหมือนกับวันแรกหรือมากกว่านั้นเล็กน้อย ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม,ประชาชน,ผู้แสวงบุญยังคงเข้ามาเฝ้าชม”
“มันผ่านมาเกือบ 13 ปีแล้ว และแม่พระก็ยังคงอยู่”
พวกเขากล่าวเสริม
ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร? โบสถ์น้อยแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นและได้รับการเสกในปี 1927 และเป็นเวลาหลายปีที่มีรูปปั้นของพระนางพรหมจารีย์มารีย์แห่งลูรดส์(Virgin of Lourdes) อยู่ตรงกลางพระแท่นบูชา ในช่วงกลางปี 2011 รูปปั้นนั้นถูกนำออกไปเพื่อบูรณะ และปัจจุบันรูปปั้นนี้ถูกย้ายมาไว้ที่ด้านข้างพระแท่น
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อพระสงฆ์ท่านหนึ่งของสถานที่นี้กำลังจะปิดโบสถ์น้อย,และจากประตูใหญ่,ท่านเห็นรูปภาพเหมือนทำด้วยปูนตั้งอยู่ในที่เดิมซึ่งพระรูปแม่พระแห่งลูรดส์เคยวางไว้
พระสงฆ์เข้าไปดูใกล้ๆหลายครั้ง และทุกครั้ง,ท่านก็พบว่าภาพที่เห็นจากระยะไกลนั้นได้หายไป,ไม่มีภาพเลย
ในมุมมองนี้,คณะนักบวชคาร์เมไลต์ที่ดูแลสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ออกแถลงการณ์ว่า: "การปรากฏรูปภาพของพระแม่มารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์นั้นยังไม่มีคำอธิบายที่สมเหตุสมผล"
“ผู้ที่เป็นคนของพระเจ้าต้องแปลความหมายของสิ่งนี้ว่าเป็นสัญญาณหรือเครื่องหมายเพื่อเพิ่มพูนความเชื่อของคริสตชน และเป็นการปลุกเร้าจิตใจของมนุษย์ให้กลับใจหันมาสู่ความรักของพระเจ้าและมีส่วนร่วมในชีวิตของพระศาสนจักร” พวกเขากล่าวเสริม
วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
การเบียดเบียนในนิการากัว
วาติกันนิวส์ - 12/02/2023
พระสันตะปาปาฟรังซิสเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทรงเรียกร้องให้ผู้นำทางการเมืองในนิการากัวเปิดใจต่อการแสวงหาสันติภาพอย่างจริงใจและมีส่วนร่วมในการสนทนา
พระสังฆราชทั่วโลกประณามการข่มเหงพระศาสนจักรในนิการากัวอย่างไม่ยุติธรรมจากทางรัฐบาล
พระสันตปาปาฟรังซิสทรงเรียกร้องหลังจากมีข่าวการพิพากษาตัดสินให้จำคุกพระสังฆราชโรลันโด อัลวาเรซ,แห่งมาตากัลปา และการเนรเทศประชาชน 222 คนด้วยเหตุผลทางการเมือง ซึ่งรวมถึงพระสงฆ์และสามเณรหลายคนที่ถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดกันต่อต้านรัฐบาล
พระสันตะปาปาทรงแสดงความโศกเศร้าอย่างยิ่งเมื่อได้รับข่าวจากประเทศนิการากัว โดยทรงคิดถึงพระสังฆราชอัลวาเรซ “ผู้ที่ข้าพเจ้ารักมาก” ซึ่งถูกพิพากษาจำคุก 26 ปีอย่างอยุติธรรม
พระสันตะปาปาตรัสว่าพระองค์กำลังอธิษฐานภาวนาเพื่อพระสังฆราชอัลวาเรซ และเพื่อผู้ที่ถูกเนรเทศไปยังสหรัฐอเมริกา และสำหรับทุกคนที่ทนทุกข์ในประเทศนิการากัวอันเป็นที่รัก
พระองค์ทรงเชื้อเชิญผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมในการสวดภาวนาวอนขอต่อพระเจ้าและทรงขอให้พระมารดามารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมลได้เข้ามาแทรกแซงช่วยเหลือในเรื่องนี้
“ขอให้พระนางทรงเปิดหัวใจของผู้นำทางการเมืองและประชาชนทุกคนให้แสวงหาสันติภาพอย่างจริงใจ สันติภาพซึ่งเกิดจากความจริง,ความยุติธรรม,เสรีภาพ,และความรัก และจะบรรลุผลได้โดยผ่านการสนทนาร่วมกันอย่างอดทน”
จากนั้น พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงนำสัตบุรุษสวดบทวันทามารีย์
วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
ไดอารี่ของพระสงฆ์ผู้ขับไล่ปีศาจ#225
หญิงสาวสองสามคนถูกปีศาจทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าในตอนกลางคืนและระหว่างพิธีในขั้นตอนการขับไล่ปีศาจ
>>>อ่านต่อ
วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
นักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขน
ฉลองวันที่ 14 ธ.ค.
บิดาของนักบุญยอห์นถูกบรรดาญาติของเขาตีตัวออกห่าง เพราะเขาไปแต่งงานกับหญิงกำพร้าที่ยากจน และนักบุญยอห์นซึ่งเกิดจากหญิงผู้นี้และได้รับการเลี้ยงดูมาด้วยความยากจนจึงเลือกความยากจนนี้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของท่าน ท่านไม่สามารถเรียนรู้เรื่องการค้าขาย ท่านกลายเป็นผู้รับใช้ของคนยากจนในโรงพยาบาล Medina ในขณะที่ยังคงเล่าเรียนศึกษาอยู่(โดยดูแลคนวิกลจริต) ในปี ค.ศ. 1563 เมื่ออายุได้21ปี ,ด้วยความถ่อมตน,ท่านได้ถวายตัวเป็นบราเดอร์ฆราวาสในคณะนักพรตคาร์เมไลต์(ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงที่คณะกำลังประสบปัญหานักบวชประพฤติหย่อนยาน ไม่เคร่งครัดในวินัย) อย่างไรก็ตาม,ด้วยความรู้ความสามารถของท่าน,ท่านได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์ ตอนนี้ท่านคิดจะเปลี่ยนไปเป็นพระสงฆ์ในคณะคาร์ทูเซียนที่เคร่งครัด นักบุญเทเรซาแห่งอาวิลา,ด้วยสัญชาตญาณของนักบุญ,ได้ชักชวนให้ยอห์นคงอยู่ในคาร์เมไลท์และช่วยเธอในการปฏิรูประเบียบวินัยของคณะที่ยอห์นอยู่ ท่านตอบรับเข้าร่วมการปฏิรูป และได้ช่วยก่อตั้งอารามหลายแห่งในสเปน อย่างไรก็ตาม ท่านกลับถูกต่อต้านจากเพื่อนภราดาในคณะ เพราะเห็นว่าแนวทางการปฏิรูปของท่านเคร่งครัดเกินไป ท่านถูกอัคราธิการของคณะสั่งขังอยู่นานถึง 9 เดือน จึงหนีออกมาได้ ตลอดช่วงเวลาที่ถูกขังท่านได้เขียนวรรณกรรมเชิงรหัสยะหลายชิ้นซึ่งได้รับยกย่องมากในปัจจุบัน
ท่านยังดำเนินการปฏิรูปคณะต่อจนส่งผลให้ภราดาคณะคาร์เมไลท์ในกลุ่มของท่านได้แยกตัวออกมาจากคณะเดิมและได้รับอนุมัติจากพระสันตะปาปาให้มีสิทธิปกครองตนเองโดยไม่ขึ้นกับคณะเดิม คณะใหม่นี้มีชื่อเรียกโดยทั่วไปว่าคณะคาร์เมไลท์ไม่สวมรองเท้า ก่อนที่ยอห์นจะเสียชีวิต,ท่านยังถูกนักพรตพี่น้องร่วมคณะเบียดเบียนข่มเหงและถูกทำให้อับอายขายหน้าถึงสองครั้ง แต่การถูกละทิ้งจากผู้คนอย่างสมบูรณ์ทำให้สันติสุขภายในของยอห์นลึกซึ้งยิ่งขึ้นและมีความปรารถนาเพื่อสวรรค์เท่านั้น
พิจารณาไตร่ตรอง—"การมีชีวิตอยู่ในโลก" นักบุญยอห์นกล่าว "จงทำราวกับว่าพระเจ้าและวิญญาณของท่านเท่านั้นที่อยู่ในโลก แล้วหัวใจของท่านจะไม่มีวันถูกจับจองโดยสิ่งของทางโลก"
นำมาจากหนังสือ “Lives of the Saints “
วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
พระบิดาและพระบุตร
พระองค์ทรงเป็นพระวจนาตถ์ อันหมายถึง พระองค์ทรงเป็นแสงรัศมีแห่งพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดา,ทรงกระทำทุกสิ่งตามน้ำพระทัยของพระองค์,ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ทรงเป็นพระฉายาลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ทรงเป็นความอุดมบริบูรณ์ของพระองค์ผู้ทรงเปี่ยมล้นด้วยความอุดมบริบุรณ์ ทรงเป็นพระปรีชาญาณของพระองค์ผู้ทรงปรีชาญาณ ทรงเป็นฤทธานุภาพของพระผู้ทรงสรรพานุภาพ ทรงเป็นสัจจะของพระองค์ผู้ทรงสัจจะ ทรงเป็นชีวิตของพระองค์ผู้ทรงชีวิต
ดังนั้น,ด้วยความเห็นพ้องต้องกัน,คุณลักษณะของพระบิดาและพระบุตร คือไม่มีความแตกแยกหรือความขัดแย้งใดๆทั้งสิ้น,แต่ทรงฤทธิ์ยิ่งใหญ่เป็นหนึ่งเดียวกัน
- นักบุญอัมโบรส
วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
รางวัลของผู้ใจบุญ
นักบุญวินเซนต์ เฟร์เรอร์ ได้เล่าเรื่องต่อไปนี้ ซึ่งเราจะได้พบว่านักบุญโยเซฟได้เข้ามาบรรเทาช่วยเหลือคนหนึ่งที่กำลังจะสิ้นใจ ท่านได้มาพร้อมกับพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์
พ่อค้าผู้หนึ่งซึ่งเป็นผู้มีใจศรัทธาแห่งบาเลนเซียในสเปน มีนิสัยชอบเชิญคนยากจนสามคน ซึ่งประกอบด้วยชายชรา,ผู้หญิง,และเด็ก,มารับประทานอาหารในวันคริสต์มาสเพื่อเป็นเกียรติแก่ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ เขานึกถึงพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ตรัสว่า "สิ่งใดก็ตามที่ท่านกระทำต่อพี่น้องที่ต่ำต้อยที่สุดของเรา ท่านได้กระทำต่อเราเอง" ด้วยเหตุนี้,เขาจึงมองบุคคลทั้งสามที่เชิญมาด้วยสายตาแห่งศรัทธา,และปรนนิบัติรับใช้พวกเขาด้วยความห่วงใยและด้วยความรักอย่างสูงสุด หลังจากพ่อค้าคนนี้ได้ตายไป,วิญญาณของพ่อค้าผู้ใจบุญปรากฏตัวต่อคนใจศรัทธาบางคนที่กำลังสวดภาวนาเพื่อเขา เขาบอกกับคนเหล่านี้ว่า ขณะที่เขากำลังจะสิ้นลมหายใจ พระเยซูเจ้า,แม่พระ,และนักบุญโยเซฟได้ประจักษ์แก่เขา และได้พูดกับเขาด้วยถ้อยคำที่ปลอบประโลมใจต่อไปนี้: "บัดนี้เรามาเพื่อเชิญท่านให้อาศัยอยู่กับเราตลอดไปในพลับพลานิรันดร์ของเรา เพื่อตอบแทนการต้อนรับด้วยความรักซึ่งท่านให้แก่เราขณะที่ท่านอยู่ในโลกนี้" จากนั้นพ่อค้าก็เล่าต่อไปว่า ทั้งสามบุคคลได้นำวิญญาณของเขาไปยังงานเลี้ยงนิรันดร์ในสวรรค์ในทันที โอ,พ่อค้าผู้โชคดี!ที่ได้มีส่วนร่วมในการเดินทางอันน่ายินดี เพราะเขาได้สะสมทรัพย์สมบัติของเขาไว้ในพระหัตถ์ของพระเยซู,มารีย์,และโยเซฟ
Source:A Manual of Practical Devotion to St. Joseph
วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
คุณพ่อปีโอและอัศจรรย์สายฝน
ชายซึ่งเป็นเจ้าของฟาร์มผู้หนึ่งออกจากอารามในรอตตอนโดในเวลาเย็นมาก และเมื่อเขากำลังจะออกไป,เขาสังเกตเห็นว่าฝนกำลังตก เขาพูดกับคุณพ่อปีโอว่า “ผมไม่มีร่ม ผมขออยู่ที่นี่จนถึงเช้าได้ไหม ถ้าผมไปในตอนนี้ผมจะต้องเปียกฝน" “ขอโทษนะ,มันเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่ต้องกังวลหรอก พ่อจะไปกับคุณด้วย!” คุณพ่อปีโอตอบ ชายคนนั้นคิดว่าให้ถือว่านี่เป็นการใช้โทษบาปอย่างหนึ่ง แต่ด้วยความช่วยเหลือจากคุณพ่อปีโอ การเดินทางอาจลำบากน้อยลง ดังนั้นเขาจึงสวมหมวกและออกเดินทางไปเป็นระยะทางสองไมล์ระหว่างอารามกับหมู่บ้านของเขา แต่ทันทีที่เขาออกไป,เขาก็พบด้วยความประหลาดใจว่าฝนไม่ตกแล้ว เมื่อถึงบ้านก็มีแต่ฝนปรอยๆ “พระเจ้า!” ภรรยาของเขาอุทานขณะที่เปิดประตู “คุณต้องเปียกไปถึงกระดูกแน่!” “ไม่มีอะไรหรอก” เจ้าของฟาร์มตอบ “ฝนไม่ตก” คนงานที่เป็นชาวนาที่อยู่ที่นั่นมองหน้ากันและงุนงงพูดว่า: "อะไรนะ! ฝนไม่ตกแล้วเหรอ? ฝนตกหนักมากนะ! ฟังสิ!". พวกเขาเปิดประตูอีกครั้งและฝนกำลังตก พวกเขาบอกว่าฝนตกนานกว่าหนึ่งชั่วโมงโดยไม่หยุดเลย “คุณมาที่นี่โดยไม่เปียกได้ยังไง?” พวกเขาถาม เจ้าของฟาร์มตอบว่า: “คุณพ่อปีโอบอกว่าท่านจะมากับผมด้วย” ดังนั้นชาวนาจึงตระหนักว่านี่เป็นอัศจรรย์อีกครั้งจากคุณพ่อปีโอ และพวกเขาแสดงความคิดเห็นว่า: "ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่างแจ้งแล้ว" พวกเขามุ่งหน้าไปยังห้องครัวอย่างสงบเพื่อรับประทานอาหารเย็น ภรรยาของเขาพูดว่า: “ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การมีคุณพ่อปีโอมาด้วย ดีกว่ามีร่ม!”
วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
พ่อแม่ควรให้พรแก่ลูกๆของตน
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์เล่าประสบการณ์ในวัยเด็กของพระองค์เมื่อได้รับพรจากพ่อแม่:
“ข้าพเจ้าจะไม่ลืมความศรัทธาและความห่วงใยจากหัวใจของพ่อและแม่เลย ท่านทำเครื่องหมายกางเขนที่หน้าผาก, ปาก,และหน้าอกของพวกเราที่เป็นลูก,เมื่อเวลาที่เราจะออกจากบ้าน โดยเฉพาะเวลาที่พวกเราต้องอยู่ห่างเหินกันนานๆ เครื่องหมายแห่งการให้พรนี้เปรียบเสมือนการคุ้มครองป้องกันที่เรารู้ว่าจะนำทางเราไปในการเดินทางของเรา มันเป็นคำภาวนาที่มองเห็นได้ของพ่อแม่ของเราซึ่งไปกับพวกเรา และทำให้พวกเรามั่นใจว่าคำภาวนานี้ได้รับการสนับสนุนจากการอวยพรของพระผู้ไถ่ของเรา...ข้าพเจ้าเชื่อว่านี้คือการอวยพร,ซึ่งพวกท่านแสดงตนอย่างชัดเจนในฐานะพระสงฆ์ผู้โปรดศีลล้างบาป สิ่งนี้ควรทำให้ชีวิตประจำวันของเราเข้มแข็งมากขึ้น"**
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)