พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ปัญญาของโลกคือความโง่เขลา


ผู้น่าเคารพยอห์น แห่งอาวีลา เปรียบเทียบโลกว่าเป็นเหมือนคุก และท่านแบ่งโลกออกเป็นคุกสองคุก คุกหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่เชื่อพระเจ้า และอีกคุกหนึ่งสำหรับคริสตชนที่อยู่ในบาป,ห่างไกลจากพระเจ้า คุกอย่างหลังนี้เขาเรียกว่าคุกของคนเขลา แต่ความน่าสมเพชและความร้ายแรงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุกนี้คือ คนที่น่าสมเพชเหล่านี้คิดว่าตนเองฉลาดและสุขุม ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนโง่เขลาและไร้ความรอบคอบที่สุดในบรรดามนุษย์ทั้งหลายก็ตาม บางคนโง่เขลาเพราะรักเกียรติยศ, บางคนเพราะแสวงหาความสุขจากโลก,จากการยึดติดกับวัตถุสิ่งของที่น่าสังเวชของโลกนี้ พวกเขาคิดว่าเป็นการโง่เขลาที่จะยอมรับการดูถูกและการให้อภัยหรือยอมรับความเจ็บไข้ เขาถือว่าเป็นความเขลาถ้าหากเว้นจากกามราคะ เป็นความเขลาถ้าควบคุมตนเองด้วยการทำพลีกรรม เป็นความเขลาถ้ายอมสละเกียรติยศและทรัพย์สมบัติ เป็นความเขลาในการรักความสันโดษ และใช้ชีวิตสมถะและซ่อนเร้น 
ปัญญาของโลกคือความโง่เขลาในสายพระเนตรของพระเจ้า  
#Catholic 4 Life

วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

เราจะฟื้นฟูพระศาสนจักรของเรา


ภายใต้การสอนนี้,ท่านจะได้เห็นสวรรค์ใหม่และโลกใหม่ เรา,พระเจ้า,จะสร้างกำแพงพระวิหารของเราขึ้นมาใหม่
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

การบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระเจ้า


พระเจ้าทรงอยู่สูงสุด แต่ทรงพอพระทัยที่จะถ่อมพระองค์ลงมาเป็นมนุษย์ ทำงานท่ามกลางมนุษย์และอาศัยอยู่ท่ามกลางมนุษย์
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

การช่วยวิญญาณให้รอด


คันไถของชาวนาเป็นพระวาจาของพระเจ้า และผืนดินที่เขาไถก็เป็นจิตวิญญาณของมนุษย์
>>>อ่านต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

สาส์นแม่พระ 25 ก.ค. 2023

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 ก.ค. 2023
ลูกที่รักทั้งหลาย
          ในช่วงเวลาแห่งพระหรรษทานนี้,ช่วงเวลาที่องค์พระผู้สูงสุดทรงส่งแม่มาหาพวกลูกเพื่อที่จะรักพวกลูกและนำทางพวกลูกไปบนหนทางแห่งการกลับใจ จงมอบคำภาวนาและการพลีกรรมของลูกเพื่อคนเหล่านั้นทั้งหมดที่อยู่ห่างไกลและยังไม่มารู้จักความรักของพระเจ้าเถิด ลูกน้อยทั้งหลาย,จงเป็นพยานแห่งความรักและสันติภาพเพื่อหัวใจของผู้ที่ไร้ซึ่งสันติภาพทั้งมวลเถิด     

          ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่

วันอังคารที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

วันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

คำสัญญาเพื่อช่วยเหลือวิญญาณในไฟชำระ


การช่วยเหลือวิญญาณในไฟชำระเป็นกิจการแห่งความรัก การสวดภาวนาเพื่อผู้ตายเป็นงานศักดิ์สิทธิ์
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ในพระหัตถ์ของพระเจ้า


ลูกเป็นของพระองค์ เพราะลูกเกิดมาเพื่อพระองค์
พระองค์ประสงค์สิ่งใดจากลูก?

วันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

อัศจรรย์ศีลมหาสนิทที่โซโคลกา,โปแลนด์


เหตุการณ์ Sokolka ไม่ได้ขัดแย้งกับความเชื่อและคำสอนของพระศาสนจักร แต่เป็นการยืนยัน
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

เข้าสู่ชีวิตนิรันดร


ปฏิมากรรมนี้แสดงให้เห็นหญิงชราคนหนึ่งกำลังยืนอยู่เบื้องหน้าประตูแห่งความตาย และทันทีที่เธอเดินจากชีวิตในโลกนี้ผ่านประตูไปสู่โลกหน้า,เธอก็ไม่เจ็บป่วยหรือแก่ชราอีกและไม่ต้องแบกภาระหนักในชีวิตบนโลก 
เธอได้รับการต้อนรับจากองค์พระผู้ไถ่ในชีวิตนิรันดรและมีความสุขตลอดไปในสวรรค์ 
ความยินดีปรีดามากล้นจนไม่อาจพรรณนาได้.....อาแมน 

วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

โดโลเรส ฮาร์ท ดาราฮอลลีวูด


ตอนอายุ 18 ปี โดโลเรส ฮาร์ท(Dolores Hart)ได้ร่วมแสดงบทรักกับเอลวิส เพรสลีย์ในภาพยนตร์เรื่อง Loving You ในปี 1957 
เธอยังเล่นเป็นตัวเอกในภาพยนตร์อีก 9 เรื่องในช่วง 5 ปีต่อมา โดยแสดงประกบสตีเฟน บอยด์, มอนต์โกเมอรี่ คลิฟ, จอร์จ แฮมิลตันและโรเบิร์ต วากเนอร์ เธอหมั้นหมายที่จะแต่งงานและมีบทบาทที่เธอเลือกเอง 
เมื่อเธอมีอายุ 24 ปี เธอได้หมั้นหมายเพื่อแต่งงานและเป็นดาราฮอลลีวูดที่กำลังมาแรง แต่แล้วจู่ๆเธอก็ประกาศว่าจะละทิ้งทุกอย่างเพื่อไปเป็นแม่ชี 
เธออธิบายในภายหลังว่าเธอมีจุดเปลี่ยนขณะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ฟรังซิสแห่งอัสซีซี ซึ่งเธอรับบทเป็นนักบุญแคลร์แห่งอัสซีซี 
เธอได้พบกับนักบุญพระสันตะปาปาจอห์นที่ 23 ในอิตาลีระหว่างการถ่ายทำ และเมื่อเธอแนะนำตัวเองว่า “ดิฉันชื่อโดโลเรส ฮาร์ต นักแสดงหญิงที่เล่นเป็นแคลร์” พระองค์ตอบเธอว่า “ไม่ใช่ ลูกคือนักบุญแคลร์แห่งอัสซีซี!” 
แฟนคลับ และเพื่อนๆของเธอต่างตกใจและโกรธมากเมื่อทราบข่าว 
“แม้แต่เพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน” ฮาร์ตเล่าในอีกหลายปีต่อมา “ซึ่งเป็นพระสงฆ์,คุณพ่อ ดูดี้,พูดว่า 'คุณบ้าไปแล้ว มันบ้ามากที่จะทำสิ่งนี้ ' 
เพื่อนคนหนึ่งเขียนจดหมายถึงเธอด้วยความโกรธเป็นเวลาหลายปีหลังจากที่เธอเข้าสู่คอนแวนต์, โดยพยายามพูดให้เธอเลิกเสีย “ทิ้งชีวิตแบบนี้ไปซะ” 
ฮาร์ตตอบอย่างไร? 
“ถ้าคุณได้ยินอย่างที่ฉันได้ยิน” เธอบอกเพื่อนของเธอ “คุณก็จะมาด้วย” 

วันพุธที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

นักบุญแอนโทนีกับเศรษฐี


วันหนึ่งเศรษฐีที่หากำไรจากการให้ยืมเงินในเมืองฟลอเรนซ์(อิตาลี)เสียชีวิต และแอนโทนีได้รับเชิญให้พูดในงานศพของเขา เศรษฐีผู้นี้,ด้วยความรักในเงินและความมั่งคั่ง,เขาใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าไปในทางโลก เขาไม่เคยแบ่งเวลาสักนิดเพื่อไปโบสถ์หรือหาเวลาสวดภาวนาที่บ้าน เขาใช้เวลาทั้งหมดไปกับการสะสมทรัพย์สมบัติและเงินทอง และความรักที่มีต่อกำไรทำให้เขาไปสู่เส้นทางที่ปราศจากพระเจ้า 
เมื่อไรก็ตามที่ลูกหนี้ของเขาไม่คืนเงินที่ยืมมาตามวันที่สัญญาไว้ เขาจะทรมานและเฆี่ยนตีลูกหนี้เหล่านั้น ความโลภของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาเติมยุ้งฉางด้วยผลิตผลและพูดกับตัวเองว่าเจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมาย, กินดีอยู่ดี, และมีความสุขแล้ว แอนโทนี่พยายามอย่างหนักที่จะทำให้เขากลับใจ โดยแนะนำเขาว่า: "เมื่อเราตาย สิ่งที่ติดตัวเราไปมีแต่พระหรรษทานของพระเจ้าซึ่งเราได้มาจากการกระทำที่ดีของเรา เราควรจะสงสารคนยากจนและควรช่วยพวกเขา เพื่อที่เราจะได้รอดพ้นจากการพิพากษาของพระเจ้าในเวลาที่เราตาย" แต่หัวใจที่แข็งเป็นเหล็กของเขานั้นแข็งเกินไปที่จะละลายและในที่สุดเขาก็ตาย 
แอนโทนีลังเลใจที่จะไปร่วมงานศพของเขา แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ แอนโทนีคัดเลือกพระวาจาจากพระวรสารที่กล่าวว่า “ทรัพย์สมบัติของเขาอยู่ที่ไหน,หัวใจของเขาก็อยู่ที่นั่น” แล้วแอนโทนีก็หยุดกะทันหัน แอนโทนีมองเห็นวิญญาณของผู้ตายอยู่ในเปลวเพลิงแห่งนรก "เศรษฐีคนนี้ตาย" แอนโทนีพูดด้วยน้ำเสียงช้าๆและเคร่งขรึม "และเขาอยู่ในนรก พวกท่านไม่ควรฝังร่างเขาไว้ในผืนดินศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ หัวใจของเขาไม่อยู่ในร่างกายของเขาอีกต่อไป ตามที่พระวรสารได้กล่าวไว้ ไปเปิดกล่องเก็บทรัพย์สมบัติของเขา แล้วพวกคุณจะพบหัวใจของเขาอยู่ในนั้น" 
ญาติและเพื่อนๆของผู้ตายรีบไปที่บ้านของชายที่เสียชีวิต และพบตามที่แอนโทนีกล่าวไว้, หัวใจที่ยังอบอุ่นของเศรษฐีอยู่ท่ามกลางเศษเหรียญทองคำของเขา ภาพของเหตุการณ์นั้นน่าเศร้าและน่าสังเวช ความคิดของทุกคนมุ่งไปที่นิรันดรภาพ
 

วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ความไร้สาระ


พ่อรู้สึกเจ็บปวดใจเพียงใดที่ต้องปิดหน้าต่างใส่คนพวกนั้น
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ปีงแห่งสวรรค์ 2


เราไม่ต้องกลัวเพราะพระองค์เป็นผู้เชื้อเชิญเรา พระองค์คือผู้ที่ปรารถนาที่จะรวมเป็นหนึ่งกับเราเพื่อให้เราเป็นเหมือนพระองค์
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ปังแห่งสวรรค์


เหล่าทูตสวรรค์ก็พร้อมที่จะเก็บศีลนั้นและนำกลับไปที่ผอบ ciborium
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ความบริสุทธิ์


คำปฏิญาณแห่งพรหมจรรย์รวมถึงความบริสุทธิ์ของร่างกายและจิตวิญญาณนี้จะสูญเสียไปได้ง่าย และบางครั้งมันเป็นไปได้ยากที่จะซ่อมแซมแก้ไขได้. สมบัติอันยิ่งใหญ่นี้ฝากไว้ในปราสาทซึ่งมีประตูและช่องเปิดมากมาย และหากสิ่งเหล่านี้ไม่ได้รับการปกป้องและป้องกันอย่างดี,สมบัตินี้ก็จะปราศจากการรักษาความปลอดภัย ลูกสาวทั้งหลาย,เพื่อที่จะรักษาคำปฏิญาณนี้อย่างสมบูรณ์,จำเป็นต้องมีมาตรการกับประสาทสัมผัสของลูก โดยการไม่ใช้มัน ยกเว้นแต่ใช้เพื่อสิ่งที่เป็นไปตามเหตุผลและเพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของพระผู้สร้าง หลังจากที่ประสาทสัมผัสถูกควบคุมด้วยการทรมานแล้ว, มันก็จะง่ายขึ้นที่จะเอาชนะศัตรูของลูก เพราะโดยการกระทำนี้เท่านั้นที่จะพิชิตตัวลูกได้ เพราะไม่มีความคิดใดๆเกิดขึ้นหรือถูกปลุกให้ตื่นขึ้นได้ เว้นแต่จะถูกกระตุ้นและได้รับความตื่นเต้นจากภาพและความประทับใจที่รับรู้ผ่านประสาทสัมผัสภายนอก
 
-ที่มา: City of God โดย บุญราศีมารีแห่งอะกรีดา
 

วันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

พระเยซูเจ้าตรัสแก่นักบุญมาร์กาเร็ต มารีย์


      นักบุญมาร์กาเร็ตมารีย์เริ่มเขียนชีวิตของเธอโดยผ่านการนบนอบเชื่อฟัง เธอบ่นต่อพระเยซูเจ้าถึงความยากลำบากในการที่จะจดจำเรื่องราวต่างๆที่เคยเกิดขึ้นเมื่อยี่สิบห้าปีที่ผ่านมา. พระเยซูเจ้าตรัสตอบเธอว่า: "ลูกไม่รู้หรือว่าเราคือความทรงจำชั่วนิรันดร์ของพระบิดาบนสวรรค์ของเรา ผู้ไม่มีสิ่งใดถูกลืมโดยพระองค์ และเรื่องที่อยู่เบื้องหน้าของบุคคลใด,อันได้แก่อดีตและอนาคตก็เป็นเหมือนปัจจุบันสำหรับเรา ดังนั้น, จงเขียนไปเถิด,โดยไม่ต้องกลัว เพราะเราจะบอกให้ลูกเขียน และเราสัญญาจะประทานพระหรรษทานแก่ลูกในเรื่องนี้เพื่อที่เราจะได้รับเกียรติ 
           พระอาจารย์เจ้าแห่งสวรรค์ทรงประทานบทเรียนแก่ฉันดังนี้: "จงเรียนรู้ว่าเราเป็นอาจารย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์,และเป็นผู้สอนความศักดิ์สิทธิ์,เราเป็นผู้บริสุทธิ์,และไม่สามารถทนต่อรอยแปดเปื้อนแม้เพียงน้อยนิดได้ เพราะฉะนั้น,ลูกต้องปฏิบัติต่อหน้าเราด้วยหัวใจที่เรียบง่ายและด้วยความตั้งใจอันเที่ยงตรงและบริสุทธิ์ จงรู้ว่าเราไม่สามารถทนต่อความต้องการที่ตรงไปตรงมาได้แม้แต่น้อย,และเราจะทำให้ลูกเข้าใจเช่นนี้ว่าถ้าความรักอันมากล้นของเราทำให้เราสถาปนาตัวเราเป็นอาจารย์ของลูก นั่นก็เพื่อที่จะสอนลูกและทำให้ลูกเป็นเช่นเดียวกับเรา,ตามแบบฉบับของเรา อย่างไรก็ตาม,เราไม่สามารถทนต่อวิญญาณที่เย็นชาและขี้ขลาดได้ ถึงแม้เราอดทนต่อความอ่อนแอของลูกอย่างอ่อนโยน,แต่เราก็จะไม่ลดการเขี้ยวเข็ญและความแน่วแน่ในการแก้ไขและลงโทษความไม่ซื่อสัตย์ของลูก" 
          "ถ้าหากลูกยังคงสัตย์ซื่อต่อเรา,เราจะไม่ทอดทิ้งลูก... เราจะยกโทษให้กับความไม่รู้ของลูก, เพราะลูกยังไม่รู้จักเรา แต่เราจะสอนให้ลูกรู้จักเรา และเราจะเปิดเผยตัวเราแก่ลูก" 

          ที่มา: Thoughts and Sayings of Saint Margaret Mary

วันพุธที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

การเอาชนะเนื้อหนัง


         ให้เรามาพิจารณาถึงศัตรูตัวที่สาม,ซึ่งก็คือเนื้อหนังของเราเอง, ซึ่งเลวร้ายที่สุดในบรรดาศัตรูทั้งหมด มาดูกันว่าเราจะต้องป้องกันตัวเองอย่างไรจากการโจมตีของมัน วิธีแรกคือการสวดภาวนา แต่สิ่งนี้เราได้พิจารณากันไปแล้ว ประการที่สองคือการหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะทำบาป และตอนนี้ให้เราไตร่ตรองให้ดีเกี่ยวกับวิธีการเอาชนะเนื้อหนัง 
         นักบุญเบอร์นาดีนกล่าวว่าคำแนะนำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาคำแนะนำทั้งหมด และคำแนะนำที่เป็นรากฐานของคำสอนทางศาสนา ก็คือการหลีกหนีจากโอกาสบาป เมื่อถูกบังคับในพิธีขับไล่ปีศาจ, ปีศาจเคยสารภาพว่าในบรรดาคำเทศน์ทั้งหมด ที่ทำให้มันไม่พอใจมากที่สุดคือคำเทศน์ที่เกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงโอกาสบาป เพราะปีศาจหัวเราะเยาะความตั้งใจและคำสัญญาของคนบาปที่สำนึกผิด,ผู้ซึ่งยังคงดำรงตนอยู่ในโอกาสบาป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง,โอกาสบาปของเนื้อหนัง,มันจะเป็นเหมือนม่านที่ปิดไว้ต่อหน้าต่อตาของเขา, ซึ่งป้องกันไม่ให้วิญญาณมองเห็นความตั้งใจของเขาหรือได้รับแสงที่มาจากพระเจ้า,หรือตระหนักถึงความจริงของนิรันดร กล่าวอีกนัยหนึ่งคือทำให้เขาลืมทุกอย่างและเกือบจะทำให้ตาบอด การละเลยที่จะหลีกเลี่ยงโอกาสบาปเป็นสาเหตุของการล่มสลายของบิดามารดาคู่แรกของเรา 
         ผู้ใดก็ตามที่นำตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์อันตรายโดยสมัครใจจะพินาศในนั้น นักบุญเปโตรบอกเราว่าปีศาจแสวงหาผู้ที่จะล่อลวงได้ และอะไรนะ,นักบุญซีเปรียนกล่าว,เขาทำเช่นนั้นเพื่อนำสิ่งที่เขาเคยขับออกไปให้กลับเข้าสู่วิญญาณของเขาอีกครั้งหรือ? เขาแสวงหามันและนำตัวเข้าสู่โอกาสบาป ถ้าวิญญาณยอมให้เขานำมันเข้าสู่โอกาสบาปอีกครั้ง, เขาจะเข้าไปอีกและจะทำบาปอย่างแน่นอน ดังนั้น, ผู้ประสงค์จะได้รับความรอดจะต้องละทิ้งบาปทั้งหมด,ไม่เพียงเท่านั้น,แต่รวมถึงละทิ้งโอกาสบาปด้วย อันได้แก่ เพื่อนชั่ว,สถานที่ไม่ดี,ความสัมพันธ์ที่นำไปสู่บาป 
           #Catholic 4 Life

วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

จดหมายของอเล็กซานโดร


อเล็กซานโดร เสียชีวิตวันที่ 6 พ.ค. 1970 ที่คอนแวนต์คาปูชินใน Macerata เขาได้เขียนจดหมายเพื่อเป็นหลักฐานเกี่ยวกับชีวิตจิตของเขาไว้ 
 จดหมายลงวันที่ 5 พ.ค. 1961 
ผมอายุใกล้ 80 ปีแล้ว ผมกำลังจะจากไป เมื่อมองย้อนไปในอดีตของผม ผมเห็นว่าในวัยแรกรุ่นของผม ผมเลือกทางเดินที่ผิดซึ่งนำไปสู่การทำลายตัวเอง 
ความประพฤติของผมได้รับอิทธิพลมาจากหนังสือ จากสื่อต่างๆ และตัวอย่างที่เลวซึ่งส่งผลต่อวัยรุ่นส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยยั้งคิด และผมก็เป็นเช่นนั้น ผมไม่เคยคิดถึงคนดีซึ่งมีอยู่มากมายและอยู่รอบๆตัวผม ผมไม่สนใจพวกเขา เพราะพลังที่รุนแรงทำให้ผมตาบอดและผลักดันผมให้มุ่งไปสู่หนทางชีวิตที่ผิดพลาด 
เมื่อผมอายุ 20 ปี ผมประกอบอาชญากรรม เวลานี้ ความทรงจำนั้นเป็นสิ่งน่าขนพองสยองเกล้าสำหรับผม มาเรีย กอเรตตี ขณะนี้เป็นนักบุญแล้ว เธอเป็นเทวดาของผม เธอถูกส่งมาหาผมโดยพระญาณเอื้ออาทรเพื่อนำทางผมและช่วยผมให้รอด ผมยังคงประทับใจในคำพูดตำหนิและให้อภัยของเธอ เธอสวดภาวนาเพื่อผม เธอได้ช่วยเหลือฆาตกรที่ฆ่าเธอ ผมต้องติดคุก 30 ปี 
ผมยินดีที่จะติดคุกตลอดชีวิต ผมยอมรับการพิพากษาเพราะมันเป็นความผิดของผมเอง 
มาเรียน้อยๆเป็นแสงสว่างของผมอย่างแท้จริง เธอเป็นผู้ปกป้องผม ด้วยความช่วยเหลือของเธอ ผมประพฤติดีในระหว่างที่ติดคุก 27 ปีและผมพยายามใช้ชีวิตอย่างสัตย์ซื่อ เมื่อผมได้รับการยอมรับจากสังคมอีกครั้งหนึ่ง พี่น้องของฟรังซิส คาปูชินจากมาร์เช่ ได้ต้อนรับผมอย่างเต็มใจดุจเทวดา พวกท่านอนุญาตให้ผมอยู่กับท่านในอารามเหมือนพี่น้อง ไม่ใช่ในฐานะคนรับใช้ แล้วผมก็อาศัยอยู่กับพวกท่านเป็นเวลานานถึง 24 ปี และเวลานี้ผมกำลังรอคอยวันที่จะไปยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเป็นเจ้า เพื่อกอดคนที่ผมรักอีกครั้งหนึ่ง และเพื่อยืนอยู่เคียงข้างอารักขเทวดาของผมและมารดาของเธอ-อัสซุนตา 
ผมหวังว่าจดหมายที่ผมเขียนขึ้นนี้จะได้เป็นบทเรียนให้แก่ผู้อื่นให้หลีกหนีความชั่วและเดินในหนทางที่ถูกต้องเสมอ เหมือนดังเด็กเล็กๆ ผมรู้สึกว่าศาสนาเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชีวิตของเรา แต่ศาสนาเป็นสิ่งที่ให้ความปลอบประโลม ให้พลังที่เข้มแข็งในชีวิตและเป็นหนทางที่ปลอดภัยในทุกกรณีแม้แต่ในเวลาที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต 
ลายเซ็น อเล็กซานโดร เซเรเนลลี 

วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

นักบุญมาเรีย กอเรตติ


นี่เป็นเพียงรูปภาพเดียวที่มีของนักบุญมาเรีย กอเรตติ ถ่ายเมื่อปี 1902 ทางซ้ายมือคือ Giuseppe Brovelli-Soffredini 
วันฉลอของนักบุญมาเรีย กอเรตติ คือวันที่ 6 กรกฏาคม 
ท่านเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของผู้มีใจเมตตา,สตรีผู้ถูกข่มขืน,เด็กหญิง,เยาวชน,วัยรุ่นหญิง,คนยากจน,ความบริสุทธิ์,และการให้อภัย 
ข้าแต่ท่านนักบุญมาเรีย กอเรตติ โปรดภาวนาเพื่อเราด้วยเทอญ
 

วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

คำแนะนำของคุณพ่อบอสโก-การสารภาพบาป


จงกล้าหาญที่จะเปิดใจอย่างเต็มที่ต่อพระสงฆ์ผู้ฟังสารภาพบาปของลูกเถิด แทนที่จะไปหาคนอื่น,แทนที่จะไปทำบาป
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

วันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

จดหมายของ มารี โลลิและยาชินทา


การาบังดัล
23 มิถุนายน 1962 
“แม่พระบอกเราว่าโลกยังคงเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงเลย จะมีเพียงน้อยคนที่จะได้เห็นพระเจ้า มีน้อยมากซึ่งทำให้แม่พระเสียใจมากที่เห็นว่าไม่เปลี่ยนแปลง แม่พระได้บอกเราว่า การลงโทษกำลังมา[ในขณะที่]โลกไม่เปลี่ยนแปลง ถ้วยเต็มแล้ว พระแม่มารีย์ช่างเศร้าพระทัยจริงๆ ถึงแม้ว่าพระนางจะไม่ให้เราเห็น,เพราะพระแม่มารีย์ทรงรักเรามาก และพระนางต้องทนทุกข์อยู่คนเดียวเนื่องจากพระนางช่างแสนดี จงทำดีเถิดทุกคน เพื่อพระแม่มารีย์จะได้มีความสุข พระนางบอกเราว่า เราผู้เป็นคนดีควรสวดภาวนาเพื่อคนชั่ว เราควรสวดภาวนาต่อพระเจ้าเพื่อชาวโลก เพื่อคนที่ไม่รู้จักพระองค์ เป็นคนดีเถิด,เป็นคนดีมากๆ" 
Maria Dolores Mazon, อายุ 13 ปี 
 Jacinta Gonzalez, อายุ 13 ปี 
นำมาจาก “The Vigil “ special issue 2002
 

วันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

การเทศน์ด้วยAI


ChatGPT ของ OpenAI แสดงการเทศน์ที่โบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ในเยอรมนี โดยดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้หลายร้อยคน มีผู้เข้าร่วมพิธีกว่า 300 คน ซึ่งกินเวลา 40 นาที โดยมีการสวดภาวนาและขับร้องนอกเหนือจากการเทศน์ 
แชทบ็อตที่แสดงเป็นชายผิวดำมีเครา พูดที่โบสถ์เซนต์ปอลในเมืองเฟือร์ท รัฐบาวาเรีย(Fürth, Bavaria,) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Deutscher Evangelischer Kirchentag 
สร้างขึ้นโดยนักศาสนศาสตร์ Jonas Simmerlein โดยใช้ ChatGPT พิธีนี้มีทั้งการสวดภาวนา, ขับร้อง และการเทศน์ในหัวข้อ "บัดนี้ถึงเวลาแล้ว"( Now is the time) 
Jonas Simmerlein สังเกตว่าประมาณ 98% ของเนื้อหาบทเทศน์มาจากแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI ส่งผลให้การอภิบาลรับใช้ของคริสตจักรได้รับการตอบรับอย่างดี 

วันพุธที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

กับดักของปีศาจ


ในปี ค.ศ. 1847 คุณพ่อบอสโกพูดกับบรรดาเด็กชายในความดูแลของท่านอย่างอบอุ่นเพื่อเตือนพวกเขาถึงกลอุบายของปีศาจ 
“มีกับดักสองอย่างที่ปีศาจใช้เพื่อกีดกันเด็กผู้ชายจากการพยายามเป็นคนดี: 
กับดักแรกคือการทำให้เขาคิดว่าการเชื่อฟังและปฏิบัติตามพระบัญญัตของพระเจ้าเป็นเรื่องน่าเบื่อ ไม่สนุกเลย 
แล้วคุณพ่อบอสโกนำหนังสือสวดภาวนาของท่านออกมา ท่านกล่าวว่า "นี่คือจุดประสงค์ของหนังสือเล่มเล็กนี้ เพื่อสอนวิธีรับใช้พระเจ้าและมีความสุขอยู่เสมอ 
กับดักข้อที่สองคือทำให้พวกเขามีความหวังที่จะมีชีวิตที่ยืนยาว โดยคิดว่าพวกเขาสามารถแก้ไขความผิดของตัวเองได้ในยามชราหรือเมื่อความตายใกล้ตัว 
จงระวังให้ดี,ลูกทั้งหลาย,เพราะหลายคนถูกหลอกในลักษณะนี้ ใครจะรับประกันได้ว่าลูกจะมีอายุยืนยาวจนถึงวัยชรา? เราสามารถตกลงกับความตายเพื่อยืดอายุจนแก่เฒ่าได้หรือ? ชีวิตและความตายอยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้า และพระองค์ทรงให้เวลาแก่พวกเราตามที่ทรงเห็นสมควร 
อย่าปล่อยให้ปีศาจมาจูงจมูกของลูกเป็นอันขาด”
 
- นักบุญยอห์น บอสโก
 

วันอังคารที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

คุณพ่อปีโอช่วยเด็กที่ถูกปีศาจเข้าสิง


คนที่ชอบพูดสาปแช่งจะเต็มไปด้วยความชั่ว(บาป) และการเฆี่ยนตีจะไม่พรากไปจากบ้านของเขา
>>>อ่านต่อ

วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

วันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ความลับของการเป็นนักบุญ


คุณพ่อบอสโกชมความตั้งใจของโดมินิกและแสดงให้เขาเห็นว่าสิ่งแรกที่พระเจ้าต้องการจากเขาคือความร่าเริงอยู่เสมอ
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ความทุกข์ทรมานในนรก


พวกเขาสาปแช่งด้วยคำพูดที่ร้ายกาจที่สุดไปทั่วทั้งจักรวาล ในสถานะอันน่าสมเพชของพวกเขา
>>>อ่านต่อ