วันหนึ่งเศรษฐีที่หากำไรจากการให้ยืมเงินในเมืองฟลอเรนซ์(อิตาลี)เสียชีวิต และแอนโทนีได้รับเชิญให้พูดในงานศพของเขา เศรษฐีผู้นี้,ด้วยความรักในเงินและความมั่งคั่ง,เขาใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าไปในทางโลก เขาไม่เคยแบ่งเวลาสักนิดเพื่อไปโบสถ์หรือหาเวลาสวดภาวนาที่บ้าน เขาใช้เวลาทั้งหมดไปกับการสะสมทรัพย์สมบัติและเงินทอง และความรักที่มีต่อกำไรทำให้เขาไปสู่เส้นทางที่ปราศจากพระเจ้า
เมื่อไรก็ตามที่ลูกหนี้ของเขาไม่คืนเงินที่ยืมมาตามวันที่สัญญาไว้ เขาจะทรมานและเฆี่ยนตีลูกหนี้เหล่านั้น ความโลภของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาเติมยุ้งฉางด้วยผลิตผลและพูดกับตัวเองว่าเจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมาย, กินดีอยู่ดี, และมีความสุขแล้ว แอนโทนี่พยายามอย่างหนักที่จะทำให้เขากลับใจ โดยแนะนำเขาว่า: "เมื่อเราตาย สิ่งที่ติดตัวเราไปมีแต่พระหรรษทานของพระเจ้าซึ่งเราได้มาจากการกระทำที่ดีของเรา เราควรจะสงสารคนยากจนและควรช่วยพวกเขา เพื่อที่เราจะได้รอดพ้นจากการพิพากษาของพระเจ้าในเวลาที่เราตาย" แต่หัวใจที่แข็งเป็นเหล็กของเขานั้นแข็งเกินไปที่จะละลายและในที่สุดเขาก็ตาย
แอนโทนีลังเลใจที่จะไปร่วมงานศพของเขา แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ แอนโทนีคัดเลือกพระวาจาจากพระวรสารที่กล่าวว่า “ทรัพย์สมบัติของเขาอยู่ที่ไหน,หัวใจของเขาก็อยู่ที่นั่น” แล้วแอนโทนีก็หยุดกะทันหัน แอนโทนีมองเห็นวิญญาณของผู้ตายอยู่ในเปลวเพลิงแห่งนรก "เศรษฐีคนนี้ตาย" แอนโทนีพูดด้วยน้ำเสียงช้าๆและเคร่งขรึม "และเขาอยู่ในนรก พวกท่านไม่ควรฝังร่างเขาไว้ในผืนดินศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ หัวใจของเขาไม่อยู่ในร่างกายของเขาอีกต่อไป ตามที่พระวรสารได้กล่าวไว้ ไปเปิดกล่องเก็บทรัพย์สมบัติของเขา แล้วพวกคุณจะพบหัวใจของเขาอยู่ในนั้น"
ญาติและเพื่อนๆของผู้ตายรีบไปที่บ้านของชายที่เสียชีวิต และพบตามที่แอนโทนีกล่าวไว้, หัวใจที่ยังอบอุ่นของเศรษฐีอยู่ท่ามกลางเศษเหรียญทองคำของเขา ภาพของเหตุการณ์นั้นน่าเศร้าและน่าสังเวช ความคิดของทุกคนมุ่งไปที่นิรันดรภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น