Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2024 พระเยซูเจ้ากับเศรษฐีหนุ่ม
  ขณะที่พระองค์กำลังทรงพระดำเนินอยู่ระหว่างทาง ชายคนหนึ่งรีบเข้ามาคุกเข่าลง ทูลถามว่า “พระอาจารย์ผู้ทรงความดี ข้าพเจ้าต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ทำไมเรียกเราว่าผู้ทรงความดี ไม่มีใครทรงความดีนอกจากพระเจ้าเท่านั้น ท่านรู้จักบทบัญญัติแล้ว คือ อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณี อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าฉ้อโกง จงนับถือบิดามารดา” ชายผู้นั้นทูลว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติเหล่านี้ทุกข้อมาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเขาด้วยพระทัยเอ็นดู ตรัสกับเขาว่า “ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด” เมื่อได้ฟังพระวาจานี้ ชายผู้นั้นหน้าสลดลงเพราะเขามีทรัพย์สมบัติมากมาย จึงจากไปด้วยความทุกข์
  พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรโดยรอบ แล้วตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “ยากจริงหนอที่คนมั่งมีจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” บรรดาศิษย์แปลกใจกับพระวาจานี้ พระเยซูเจ้าจึงตรัสอีกว่า “ลูกเอ๋ย ยากจริงหนอที่จะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า อูฐจะลอดรูเข็มยังง่ายกว่าคนมั่งมีเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” บรรดาศิษย์ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น พูดกันว่า “ดังนี้ ใครเล่าจะรอดพ้นได้” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรบรรดาศิษย์แล้วตรัสว่า “สำหรับมนุษย์เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้าเป็นเช่นนั้นได้ เพราะพระองค์ทรงทำได้ทุกสิ่ง”
  เปโตรทูลพระเยซูเจ้าว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สละทุกสิ่งและติดตามพระองค์แล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ไม่มีใครที่ละทิ้งบ้านเรือน พี่น้องชายหญิง บิดามารดา บุตรหรือไร่นาเพราะเห็นแก่เรา และเพราะเห็นแก่ข่าวดี จะไม่ได้รับการตอบแทนร้อยเท่าในโลกนี้ เขาจะได้บ้านเรือน พี่น้องชายหญิง มารดา บุตร ไร่นา พร้อมกับการเบียดเบียนและในโลกหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร
(มาระโก 10:17-30)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2024 พระเยซูเจ้ากับเศรษฐีหนุ่ม
  ขณะที่พระองค์กำลังทรงพระดำเนินอยู่ระหว่างทาง ชายคนหนึ่งรีบเข้ามาคุกเข่าลง ทูลถามว่า “พระอาจารย์ผู้ทรงความดี ข้าพเจ้าต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ทำไมเรียกเราว่าผู้ทรงความดี ไม่มีใครทรงความดีนอกจากพระเจ้าเท่านั้น ท่านรู้จักบทบัญญัติแล้ว คือ อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณี อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าฉ้อโกง จงนับถือบิดามารดา” ชายผู้นั้นทูลว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติเหล่านี้ทุกข้อมาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเขาด้วยพระทัยเอ็นดู ตรัสกับเขาว่า “ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด” เมื่อได้ฟังพระวาจานี้ ชายผู้นั้นหน้าสลดลงเพราะเขามีทรัพย์สมบัติมากมาย จึงจากไปด้วยความทุกข์
  พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรโดยรอบ แล้วตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “ยากจริงหนอที่คนมั่งมีจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” บรรดาศิษย์แปลกใจกับพระวาจานี้ พระเยซูเจ้าจึงตรัสอีกว่า “ลูกเอ๋ย ยากจริงหนอที่จะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า อูฐจะลอดรูเข็มยังง่ายกว่าคนมั่งมีเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” บรรดาศิษย์ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น พูดกันว่า “ดังนี้ ใครเล่าจะรอดพ้นได้” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรบรรดาศิษย์แล้วตรัสว่า “สำหรับมนุษย์เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้าเป็นเช่นนั้นได้ เพราะพระองค์ทรงทำได้ทุกสิ่ง”
  เปโตรทูลพระเยซูเจ้าว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สละทุกสิ่งและติดตามพระองค์แล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ไม่มีใครที่ละทิ้งบ้านเรือน พี่น้องชายหญิง บิดามารดา บุตรหรือไร่นาเพราะเห็นแก่เรา และเพราะเห็นแก่ข่าวดี จะไม่ได้รับการตอบแทนร้อยเท่าในโลกนี้ เขาจะได้บ้านเรือน พี่น้องชายหญิง มารดา บุตร ไร่นา พร้อมกับการเบียดเบียนและในโลกหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร
(มาระโก 10:17-30)
วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2562
สง่าราศีของผู้ที่อยู่ในสวรรค์
ผู้ที่ได้รับการไถ่กู้ทั้งหมดจะได้รับชีวิตจากเราและได้รับสง่าราศีและความงดงามจากแสงสว่างของเรา แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเท่าเทียมกันในความสวยงามและความยิ่งใหญ่
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2562
วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2562
พระสันตะปาปาไม่อนุญาติให้ฆราวาสจูบพระธำมรงค์
วันที่ 27 มี.ค. 2019 พระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จไปที่เมืองโลเรตโต , อิตาลี และทรงทักทายประชาชนมากกว่า 100 คน ในการพบประชาชนครั้งนี้ พระองค์ทรงพบกับพระสงฆ์ นักบวช และซิสเตอร์ รวมทังฆราวาส เมื่อมีการจูบพระธำมรงค์ พระองค์อนุญาตให้เฉพาะพระสงฆ์ นักบวชและซิสเตอร์จูบเท่านั้น แต่ไม่อนุญาตให้ฆราวาสจูบพระธำมรงค์
หลังจากคลิปวีดีโอนี้เผยแพร่ออกไป ทำให้ผู้ที่รับชมต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ไม่เฉพาะแต่ชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเท่านั้น เพราะเป็นที่ทราบกันว่าธรรมเนียมการจุมพิตที่พระธำมรงค์เป็นภาพที่เจนตาชาวโลกมานานหลายร้อยปี
รัสเซล โพลิตต์ บาทหลวงในคณะเยสุอิต โพสต์ทวิตเตอร์ในแอคเคาท์ @rpollittsj สนับสนุนการกระทำของโป๊ป กล่าวว่าการจุมพิตที่แหวนพระธำมรงค์ประจำตำแหน่งบิชอปและพระสันตะปาปา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธรรมเนียมทางศาสนา เป็นการหยิบยืมมาจากธรรมเนียมการจุมพิตพระธำมรงค์ของกษัตริย์ ผู้นำศาสนาจึงควรเลิกการปฏิบัติแบบนี้เสีย
ด้านออสเตน ไอวีเรจ์ ผู้เขียนชีวประวัติสมเด็จพระสันตะปาปาและผู้สนับสนุนโป๊ฟรานซิส กล่าวทางทวิตเตอร์ว่า "พระองค์ต้องการให้ศาสนิกเข้าถึงพระองค์ ไม่ใช่ปฏิบัติกับพระองค์เหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระองค์คือตัวแทนของพระเยซู ไม่ใช่จักรพรรดิโรมัน"
วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2562
วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2562
วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2562
สาส์นแม่พระ 2+25 มี.ค.2019
ลูกที่รักทั้งหลาย
เวลานี้เป็นเวลาแห่งพระหรรษทาน ขณะที่ธรรมชาติได้ฟื้นฟูชีวิตขึ้นมาใหม่(เปลี่ยนเป็นฤดูใบไม้ผลิ) พวกลูกก็เช่นเดียวกัน, ได้รับการเรียกให้กลับใจ จงตัดสินใจเลือกพระเจ้าเถิด, ลูกน้อยทั้งหลาย, จิตใจของพวกลูกอ้างว้างและไม่มีความชื่นชมยินดี เพราะพวกลูกไม่มีพระเจ้า เพราะฉะนั้น จงสวดภาวนาจนกระทั่งการสวดภาวนานั้นกลายเป็นชีวิตของลูก จากธรรมชาติ, จงแสวงหาพระเจ้าผู้ทรงสร้างพวกลูก เพราะธรรมชาติต่อสู้และยืนหยัดเพื่อชีวิตไม่ใช่ความตาย สงครามกำลังครอบงำหัวใจผู้คนและนานาชาติ เพราะพวกลูกไม่มีสันติภาพและลูกไม่เห็นพี่น้องในเพื่อนบ้านของลูก เพราะฉะนั้น, จงหันกลับมาหาพระเจ้าและสวดภาวนาเถิด ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
สาส์นแม่พระประทานแก่ มีรยานา 2 มี.ค. 2019
ลูกที่รักทั้งหลาย
แม่เรียกพวกลูกว่า “อัครสาวกแห่งความรักของแม่” แม่แสดงให้ลูกเห็นองค์พระบุตรของแม่ ผู้ทรงเป็นสันติสุขและความรักอันแท้จริง
ในฐานะมารดา, โดยอาศัยพระเมตตาของพระเจ้า, แม่ปรารถนาที่จะนำพวกลูกไปหาพระองค์
ลูกทั้งหลายของแม่, ด้วยเหตุนี้แม่จึงขอให้พวกลูกคิดทบทวนตัวเอง โดยเริ่มต้นจากองค์พระบุตร, แม่ขอให้ลูกมองดูพระองค์ด้วยหัวใจ เพื่อที่ลูกจะได้เห็นด้วยหัวใจว่าลูกอยู่ที่ไหนและชีวิตของลูกกำลังจะไปไหน
ลูกทั้งหลายของแม่, แม่ขอให้ลูกตระหนักว่าลูกมีชีวิตอยู่ได้ก็โดยอาศัยความรักและยัญบูชาขององค์พระบุตร – ขอขอบพระคุณพระองค์
ลูกควรวอนขอพระองค์ให้ทรงพระเมตตาต่อลูก และแม่ขอให้ลูกมีความเมตตาด้วย
ลูกควรวอนขอให้พระองค์ทรงพระทัยดีต่อลูกและให้อภัยลูก
และแม่เองได้อ้อนวอนต่อพวกลูกนานเท่าไรแล้ว ขอให้ลูกรักและให้อภัยต่อผู้คนที่ลูกได้พบ?
เมื่อลูกตระหนักถึงคำพูดของแม่ด้วยหัวใจ ลูกจะเข้าใจและรู้จักความรักที่แท้จริง
แล้วลูกจะเป็นอัครสาวกแห่งความรักนั้น
เป็นอัครสาวกของแม่
เป็นลูกสุดที่รักของแม่
ขอขอบใจพวกลูก
วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2562
สตรี 17 คนได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญในปีนี้
VATICAN CITY (CNS) – พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงรับรองให้สตรีสามคนได้รับการประกาศเป็นนักบุญและทรงรับรองการเป็นมรณะสักขีของซิสเตอร์ 14 คนที่ถูกฆ่าตายในช่วงสงครามกลางเมืองสเปน
พระสันตะปาปาทรงรับรองอย่างเป็นทางการอัศจรรย์ที่จำเป็นสำหรับการประกาศให้เป็นนักบุญของมาร์เกอริต เบย์ซึ่งเป็นฆราวาสจากสวิตเซอร์แลนด์ เธอเป็นที่รู้จักทางด้านชีวิตจิตวิญญาณของเธอในการเผชิญกับความทุกข์ทรมานทางกายจากรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ของพระคริสต์ที่เธอได้รับบนร่างกายของเธอ
เธอเกิดในปี 1815 เมื่อเติบโตขึ้นเธอได้คอยช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาในหมู่บ้านเล็กๆของเธอและกลายเป็นสมาชิกที่มีชื่อเสียงของคณะฟรังซิสกันฆราวาส เธอเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1879 และพระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 ทรงสถาปนาเธอในปี 1995
พระสันตะปาปาฟรังซิสยังทรงลงพระนามรับรองมรณะสักขีของซิสเตอร์อิสซาเบลลา ลาบาบาอันเดีย ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามคุณแม่ มารี เดล คาร์เมน พร้อมด้วยซิสเตอร์อีก 13 คนซึ่งเป็นสหายของเธอ พวกเขาถูกฆ่า "ในสมัยที่มีความเกลียดชังต่อความเชื่อในพระคริสต์" ที่สเปนในปี 1936 จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้บรรดาซิสเตอร์เหล่านี้ได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญ
นอกจากนี้ พระสันตะปาปาฟรังซิสยังทรงรับรองความกล้าหาญเยี่ยงวีรชนของคุณแม่ Soledad Sanjurjo Santos ผู้อยู่ในคณะ the Servants of Mary เธอเกิดที่อาเรซิโบ,เปอร์โตริโกในปี 1892 เธอเป็นที่รู้จักในนาม "ไข่มุกแห่งแอนทิลลิส" เพราะเธอดำรงตำแหน่งอธิการแห่งแอนทิลลิสและขยายงานของคณะในการดูแลคนป่วยทั่วประเทศคิวบา , สาธารณรัฐโดมินิกัน และเปอร์โตริโก เธอเสียชีวิตในปี 1973
ซิสเตอร์ชาวโปแลนด์ Anna Kaworek เป็นอีกผู้หนึ่งที่พระสันตะปาปาทรงประกาศให้เป็นนักบุญในคราวเดียวกันนี้ เธอมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1872-1936 และได้ร่วมก่อตั้งคณะซิสเตอร์แห่งนักบุญอัครเทวดามีคาแอล
พระสันตะปาปาทรงรับรองอย่างเป็นทางการอัศจรรย์ที่จำเป็นสำหรับการประกาศให้เป็นนักบุญของมาร์เกอริต เบย์ซึ่งเป็นฆราวาสจากสวิตเซอร์แลนด์ เธอเป็นที่รู้จักทางด้านชีวิตจิตวิญญาณของเธอในการเผชิญกับความทุกข์ทรมานทางกายจากรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ของพระคริสต์ที่เธอได้รับบนร่างกายของเธอ
เธอเกิดในปี 1815 เมื่อเติบโตขึ้นเธอได้คอยช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาในหมู่บ้านเล็กๆของเธอและกลายเป็นสมาชิกที่มีชื่อเสียงของคณะฟรังซิสกันฆราวาส เธอเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1879 และพระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 ทรงสถาปนาเธอในปี 1995
พระสันตะปาปาฟรังซิสยังทรงลงพระนามรับรองมรณะสักขีของซิสเตอร์อิสซาเบลลา ลาบาบาอันเดีย ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามคุณแม่ มารี เดล คาร์เมน พร้อมด้วยซิสเตอร์อีก 13 คนซึ่งเป็นสหายของเธอ พวกเขาถูกฆ่า "ในสมัยที่มีความเกลียดชังต่อความเชื่อในพระคริสต์" ที่สเปนในปี 1936 จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้บรรดาซิสเตอร์เหล่านี้ได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญ
นอกจากนี้ พระสันตะปาปาฟรังซิสยังทรงรับรองความกล้าหาญเยี่ยงวีรชนของคุณแม่ Soledad Sanjurjo Santos ผู้อยู่ในคณะ the Servants of Mary เธอเกิดที่อาเรซิโบ,เปอร์โตริโกในปี 1892 เธอเป็นที่รู้จักในนาม "ไข่มุกแห่งแอนทิลลิส" เพราะเธอดำรงตำแหน่งอธิการแห่งแอนทิลลิสและขยายงานของคณะในการดูแลคนป่วยทั่วประเทศคิวบา , สาธารณรัฐโดมินิกัน และเปอร์โตริโก เธอเสียชีวิตในปี 1973
ซิสเตอร์ชาวโปแลนด์ Anna Kaworek เป็นอีกผู้หนึ่งที่พระสันตะปาปาทรงประกาศให้เป็นนักบุญในคราวเดียวกันนี้ เธอมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1872-1936 และได้ร่วมก่อตั้งคณะซิสเตอร์แห่งนักบุญอัครเทวดามีคาแอล
วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562
พระศาสนจักรยุคที่ห้า
นี่คือเวลาที่ชั่วร้าย ศตวรรษที่เต็มไปด้วยอันตรายและภัยพิบัติ เริ่มต้นจากการกำเนิดของโปรแตสแตนท์
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2562
แม่พระทรงอำนาจเหนือปีศาจ
ถ้าหากอ่านหนังสือนี้แล้วเราจะรู้เหตุผลว่าทำไมและอย่างไรปีศาจจึงมาอยู่ที่นั่น ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกกลัวจนถึงขั้วหัวใจเลยทีเดียว
>>>อ่านต่อ
วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2562
วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562
ขั้นบันได้ศักดิ์สิทธิ์ที่กรุงโรม
ใครที่เคยไปวาคิกันที่อยู่ในกรุงโรมอาจเคยไปแสวงบุญที่ขั้นบันได้ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอยู่ที่ Pontifical Sanctuary of the Holy Stairs ที่อยู่ในกรุงโรม ขั้นบันได้นี้เป็นขั้นบันไดหน้าเฉลียงที่ปอนติอัส ปิลาตใช้พิพากษาพระเยซูเจ้า กล่าวกันว่าพระเยซูเจ้าทรงหกล้มที่ขั้นบันไดนี้ ผู้ที่มาแสวงบุญที่นี่จะคุกเข่าขึ้นไปตามขั้นบันไดแต่ละขั้นพร้อมกับสวดภาวนาเพื่อเป็นการใช้โทษบาปของตน ขั้นบันไดทำด้วยหินอ่อนอยู่ระหว่างผนังที่ประดับลวดลายเฟรสโก ตั้งแต่ครั้งแรกที่นำมาไว้ที่วาติกันมีการใช้แผ่นไม้ปิดทับไว้ด้านบนหินอ่อนเพื่อเป็นการรักษาสภาพไว้ แต่ในเทศกาลมหาพรตปีนี้จะเป็นปีแรกที่เจ้าหน้าที่จะนำแผ่นไม้ออก นับว่าเป็นครั้งแรกใน 300 ปีนับตั้งแต่ปี 1723 ที่มีการเปิดแผ่นไม้ออก ดังนั้นผู้ไปแสวงบุญในปีนี้จะได้สัมผัสกับหินอ่อนของขั้นบันไดในเวลาที่คุกเข่าขึ้นไป จะเริ่มเปิดใช้ในวันที่ 11 เมษายนนี้ และจะเปิดทิ้งไว้ประมาณหนึ่งเดือน
ในรูป Mei Wen of Perth, ชาวออสเตรเลีย สัมผัสกับขั้นบันไดศักดิ์สิทธิ์ในระหว่างการบูรณะศาสนสถาน Pontifical Sanctuary of the Holy Stairs ในกรุงโรม Mei Wen เป็นผู้บริจาครายใหญ่เพื่อช่วยเหลือในการบูรณะครั้งนี้
ในรูป Mei Wen of Perth, ชาวออสเตรเลีย สัมผัสกับขั้นบันไดศักดิ์สิทธิ์ในระหว่างการบูรณะศาสนสถาน Pontifical Sanctuary of the Holy Stairs ในกรุงโรม Mei Wen เป็นผู้บริจาครายใหญ่เพื่อช่วยเหลือในการบูรณะครั้งนี้
วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2562
สาส์นแม่พระวันที่ 18 มีนาคม 2019
วันที่ 18 มีนาคม เป็นวันครบรอบวันเกิดของมีรยานา แม่พระสัญญาว่าจะมาหามีรยานาทุกวันเกิดของเธอ และแม่พระทรงประทานสาส์นไว้ดังนี้ >>>อ่านต่อ
วันนี้อากาศมืดครึ้ม ขณะที่มีรยานารอคอยการประจักษ์มาของแม่พระ ฝูงชนนับพันอยู่ที่นั่นด้วย ก่อนแม่พระประจักษ์ท้องฟ้ามืดครึ้ม แต่ขณะที่แม่พระเสด็จมาและการประจักษ์เริ่มต้นขึ้น มีแสงสว่างส่องมาที่มีรยานาและประชาชนที่นั่นชั่วขณะหนึ่ง
วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562
คุณจะเลือกหมาป่าตัวไหน
นักรบเฒ่าชาวอินเดียนแดงแห่งเผ่าเชอโรกีคนหนึ่งพูดกับหลานชาย
“มีการต่อสู้อยู่ในตัวของปู่ เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างหมาป่าสองตัว
ตัวหนึ่งคือความชั่ว - มันคือ ความโกรธ อิจฉา ซึมเศร้า ตะกละ เสียใจ หยิ่งจองหอง เห็นแก่ตัว แก้แค้น ไสยศาสตร์ การโกหก ภาคภูมิใจในสิ่งที่ผิด ลุแก่อำนาจ และการเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง.
ส่วนอีกตัวคือความดี – มันคือ ความยินดี สันติภาพ ความรัก ความหวัง ความสงบ ความถ่อมตน ความเมตตากรุณา การทำบุญให้ทาน ความเห็นอกเห็นใจ ความสง่า ความจริง และความเชื่อ. การต่อสู้ดำเนินอยู่ในตัวของปู่ และในตัวของมนุษย์ทุกคนด้วย”
หลานชายครุ่นคิดถึงเรื่องนี้สักพักหนึ่งแล้วจึงถามปู่
“หมาป่าตัวไหนเป็นฝ่ายชนะครับคุณปู่?”
นักรบเฒ่าเชอโรกีตอบ
“ตัวที่เราให้อาหารมันนั่นแหละ”
ตัวหนึ่งคือความชั่ว - มันคือ ความโกรธ อิจฉา ซึมเศร้า ตะกละ เสียใจ หยิ่งจองหอง เห็นแก่ตัว แก้แค้น ไสยศาสตร์ การโกหก ภาคภูมิใจในสิ่งที่ผิด ลุแก่อำนาจ และการเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง.
ส่วนอีกตัวคือความดี – มันคือ ความยินดี สันติภาพ ความรัก ความหวัง ความสงบ ความถ่อมตน ความเมตตากรุณา การทำบุญให้ทาน ความเห็นอกเห็นใจ ความสง่า ความจริง และความเชื่อ. การต่อสู้ดำเนินอยู่ในตัวของปู่ และในตัวของมนุษย์ทุกคนด้วย”
หลานชายครุ่นคิดถึงเรื่องนี้สักพักหนึ่งแล้วจึงถามปู่
“หมาป่าตัวไหนเป็นฝ่ายชนะครับคุณปู่?”
นักรบเฒ่าเชอโรกีตอบ
“ตัวที่เราให้อาหารมันนั่นแหละ”
วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2562
วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2562
ผู้น่าเคารพ คอนชีต้าและสาส์นของพระเยซูเจ้า
พระเจ้าทรงเชื้อเชิญสตรีทั้งหลายให้ทำงานเพื่อให้กำเนิดชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ,เพื่อให้เกิดพระหรรษทานในวิญญาณพระสงฆ์และในพันธกิจของพระสงฆ์ทั้งหลายที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระคริสต์
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2562
คำพิพากษา
เราทุกคนต่างเกี่ยวเนื่องกัน หากคนหนึ่งทุกข์ คนอื่นๆ ก็จะทุกข์ตาม เราจะต้องคอยเป็นหูเป็นตาให้กัน เพื่อมิให้มีใครคนใดคนหนึ่งถูกลืมไปจากสังคม
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2562
ปีศาจประจญล่อลวงพระเยซูเจ้า
“มวลมนุษย์กลายเป็นคนบาปเพราะความไม่เชื่อฟังของมนุษย์คนเดียวฉันใด มวลมนุษย์ก็จะเป็นผู้ชอบธรรมkเพราะความเชื่อฟังของมนุษย์คนเดียวฉันนั้น” (โรม 5:19)
พระวรสารโดยนักบุญลูกา บทที่ 4 1-13
พระเยซูเจ้าทรงได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยมทรงพระดำเนินจากแม่น้ำจอร์แดน พระจิตเจ้าทรงนำพระองค์ไปยังถิ่นทุรกันดาร ทรงถูกปีศาจผจญเป็นเวลาสี่สิบวัน ตลอดเวลานั้นพระองค์มิได้เสวยสิ่งใดเลย ในที่สุด ทรงหิว ปีศาจจึงทูลพระองค์ว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรพระเจ้า จงสั่งให้หินก้อนนี้กลายเป็นขนมปังเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่ามนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้น”
ปีศาจจึงนำพระองค์ไปยังที่สูงแห่งหนึ่ง แสดงให้พระองค์ทอดพระเนตรอาณาจักรต่าง ๆ ของโลกทั้งหมดในคราวเดียว และทูลพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าจะให้อำนาจและความรุ่งเรืองของอาณาจักรเหล่านี้ทั้งหมดแก่ท่าน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะให้ผู้ใดก็ได้ตามความปรารถนา ดังนั้น ถ้าท่านกราบนมัสการข้าพเจ้า ทุกสิ่งจะเป็นของท่าน”
พระเยซูเจ้าตรัสตอบปีศาจว่า
“มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ‘จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผู้เดียวเท่านั้น’”
ปีศาจนำพระองค์ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม วางพระองค์ลงที่ยอดพระวิหาร แล้วทูลว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้า จงกระโจนลงไปเบื้องล่างเถิด เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ‘พระเจ้าจะทรงสั่งทูตสวรรค์ให้พิทักษ์รักษาท่าน’ และยังมีเขียนอีกว่า ‘ทูตสวรรค์จะคอยพยุงท่านไว้มิให้เท้ากระทบหิน’” แต่พระเยซูเจ้าตรัสตอบปีศาจว่า
"มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเลย” เมื่อปีศาจทดลองพระองค์ทุกวิถีทางแล้วd จึงแยกจากพระองค์ไป รอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม
วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2562
เหตุผลที่ห้ามทานเนื้อในเทศกาลมหาพรต
พระศาสนจักรได้กำหนดกฏเกณฑ์ในเรื่องการอดเนื้อในวันศุกร์ตลอดปีและเป็นพิเศษในวันพุธรับเถ้าและวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ในระหว่างมหาพรต
>>>อ่านต่อ
วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2562
วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2562
ชายมุสลิมติดคุกเพราะวาดรูปแม่พระ
Khalifa el-Khoder ถูกขังเป็นเวลาเจ็ดเดือนในคุก jihadi เพราะวาดรูปแม่พระบนกำแพงในเมืองอาเลปโป เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ เขาบอกว่ามัสยิดถูกเปลี่ยนเป็นเรือนจำที่แออัดไปด้วยผู้คนที่ถูกขังและมีการทรมานทุกวัน
คริสตชนส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงความเคารพนับถือของชาวมุสลิมต่อพระแม่มารีย์ ในคัมภีร์อัลกุรอาน ของอิสลามบทที่ 24 ถึง 34 อ้างอิงถึงมารียัม (Maryam) พระนางถูกระบุว่าเป็นแม่ของพระเยซูเจ้า ในอัลกุรอานไม่มีการเอ่ยชื่อของผู้หญิงคนไหนเลยนอกจากพระนางมารีย์ผู้เดียวเท่านั้น บทหนึ่งของอัลกุรอาน (สุระ 19) เอ่ยชื่อที่ชัดเจนของพระแม่มารีย์ว่า “Maryam” และบรรยายเหตุการณ์การที่ทูตสวรรค์แจ้งสารต่อพระนางมารีย์และกล่าวถึงการบังเกิดของพระเยซูเจ้า นอกจากนี้ชาวมุสลิมเรียกว่าพระแม่มารีย์ว่า Sitti Maryam โดยที่ Sitti หมายถึงบุคคลอันเป็นที่รัก เพราะพระนางได้รับเอกสิทธิ์ให้เป็นพระมารดาของพระเยซูเจ้า
วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2562
วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2562
ซิสเตอร์ แวนด้า - ผู้ได้รับพระพรพิเศษที่ซ่อนเร้น
ถ้าหากสังคายนาวาติกันครั้งที่
2 สอนเรา ย่อมสอนเราเกี่ยวกับการเรียกให้มาสู่ความศักดิ์สิทธิ์ การเรียกที่เรายังหละหลวมไม่ได้ทำตาม
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2562
ทำไม่จึงมีเทศกาลมหาพรต
เทศกาลมหาพรตเป็นระยะเวลาแห่งการชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ และถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช้ผู้ที่เตรียมตัวสำหรับรับศีลล้างบาป เทศกาลนี้ช่วยให้เราสำรวจจิตใจว่าเราพร้อมที่จะดำเนินชีวิตในความเชื่อคริสตชนอย่างเต็มที่หรือไม่
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2562
"สึนามิน้ำแข็ง"
สึนามิน้ำแข็งเกิดจากพายุที่ทำให้น้ำแข็งเคลื่อนตัวไปตามทะเลสาบอีรี, ลมแรงที่ทำให้เกิดความโกลาหลทั่วภาคตะวันออกของประเทศ กระแสไฟฟ้าขัดข้องและความล่าช้าในการเดินทางได้สร้างปัญหาอื่นๆ: เกิดกำแพงน้ำแข็ง วาตภัยได้สร้าง "สึนามิน้ำแข็ง" เมื่อวันอาทิตย์ที่24 ก.พ. เคลื่อนตัวผ่านบางส่วนของนิวยอร์กไปตามทะเลสาบอีรีผลักก้อนน้ำแข็งก้อนใหญ่ไปตามบริเวณทะเลสาบ กรมตำรวจไนแอการาได้โพสต์วิดีโอลงใน Twitter เพื่อแสดงก้อนน้ำแข็งที่เรียงซ้อนกันตามแนวแม่น้ำไนแอการา
วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2562
วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2562
สาส์นมหาพรตปี 2019
พระสันตะปาปาฟรานซิสได้เลือกหัวข้อที่เกี่ยวกับระบบนิเวศวิทยาในสาส์นมหาพรตปีนี้ พระองค์เรียกร้องให้คริสตชนกลับใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อม
พระองค์ตรัสว่า “ เมื่อเราอยู่ในฐานะบุตรของพระเจ้า เรายังได้รับประโยชน์จากสิ่งสร้างโดยอาศัยการร่วมมือในการไถ่กู้ของสิ่งเหล่านั้นด้วย นั่นคือเหตุผลที่ทำไมนักบุญเปาโลจึงกล่าวว่าสิ่งสร้างกำลังรอคอยอย่างกระวนกระวายเพื่อพระเจ้าจะได้ทรงบันดาลให้บรรดาบุตรของพระองค์ปรากฏมาในพระสิริรุ่งโรจน์”
สาส์นนี้มีชื่อว่า “เพราะสรรพสิ่งทั้งหลายต่างกำลังรอคอยอย่างกระวนกระวายเพื่อพระเจ้าจะได้ทรงบันดาลให้บรรดาบุตรของพระองค์ปรากฏมาในพระสิริรุ่งโรจน์” ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2018 วันฉลองนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี
“บาปทำลายความเป็นหนึ่งเดียวของเรากับพระเจ้า กับคนอื่น และกับสิ่งสร้าง การขาดสะบั้นในความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้านี้ทำลายความสัมพันธ์แห่งความสมานฉันท์ของเรากับธรรมชาติ”
“บาปทำให้มนุษย์ถือว่าตนเองเป็นพระเจ้าแห่งการสร้าง เห็นตนเองเป็นเจ้านายสูงสุดที่จะใช้มันไม่ใช่ตามพระประสงค์ของพระผู้สร้าง แต่เพื่อผลประโยชน์ฝ่ายตนทำให้เกิดความเสียหายให้กับสรรพสัตว์อื่นๆ”
วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2562
วินัยของคณะเบเนดิกติน-6
ดังนั้นพระเจ้าจึงตรัสในพระวรสารว่า
“ผู้ใดฟังพระวาจาเหล่านี้ของเราและนำไปปฏิบัติ
เราจะเปรียบเขาได้กับคนฉลาด
ซึ่งสร้างบ้านบนศิลา
เมื่อเกิดน้ำท่วม ลมแรงปะทะบ้าน
บ้านก็จะไม่พังทลาย
เพราะว่ามันสร้างอยู่บนศิลา (มธ. 7: 24-25)
เมื่อทรงสร้างความมั่นใจให้กับเราเช่นนี้แล้ว
พระเจ้าทรงรอเราทุกวัน
เพื่อที่เราจะได้ตอบสนองด้วยการกระทำต่อคำเตือนของพระองค์
วันเวลาแห่งชีวิตนี้ถูกทำให้ยืดยาวออกไป
เหมือนกับเป็นเหตุผลที่ทรงประทานเวลาให้เรา
เพื่อที่เราจะได้จัดการแก้ไขวิถีชั่วร้ายของเรา
ดังที่อัครสาวกเปาโลกล่าวว่า
“ท่านไม่รู้หรือว่าความอดทนของพระเจ้ากำลังเชื้อเชิญให้ท่านเสียใจในบาป (รม. 2: 4)
เพราะพระเจ้าผู้ทรงเมตตาบอกเราว่า
“เราไม่ปรารถนาความตายของคนบาป
แต่ต้องการให้คนบาปกลับใจและมีชีวิต” (อสค. 33: 11)
“ผู้ใดฟังพระวาจาเหล่านี้ของเราและนำไปปฏิบัติ
เราจะเปรียบเขาได้กับคนฉลาด
ซึ่งสร้างบ้านบนศิลา
เมื่อเกิดน้ำท่วม ลมแรงปะทะบ้าน
บ้านก็จะไม่พังทลาย
เพราะว่ามันสร้างอยู่บนศิลา (มธ. 7: 24-25)
เมื่อทรงสร้างความมั่นใจให้กับเราเช่นนี้แล้ว
พระเจ้าทรงรอเราทุกวัน
เพื่อที่เราจะได้ตอบสนองด้วยการกระทำต่อคำเตือนของพระองค์
วันเวลาแห่งชีวิตนี้ถูกทำให้ยืดยาวออกไป
เหมือนกับเป็นเหตุผลที่ทรงประทานเวลาให้เรา
เพื่อที่เราจะได้จัดการแก้ไขวิถีชั่วร้ายของเรา
ดังที่อัครสาวกเปาโลกล่าวว่า
“ท่านไม่รู้หรือว่าความอดทนของพระเจ้ากำลังเชื้อเชิญให้ท่านเสียใจในบาป (รม. 2: 4)
เพราะพระเจ้าผู้ทรงเมตตาบอกเราว่า
“เราไม่ปรารถนาความตายของคนบาป
แต่ต้องการให้คนบาปกลับใจและมีชีวิต” (อสค. 33: 11)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)