VATICAN CITY (CNS) – พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงรับรองให้สตรีสามคนได้รับการประกาศเป็นนักบุญและทรงรับรองการเป็นมรณะสักขีของซิสเตอร์ 14 คนที่ถูกฆ่าตายในช่วงสงครามกลางเมืองสเปน
พระสันตะปาปาทรงรับรองอย่างเป็นทางการอัศจรรย์ที่จำเป็นสำหรับการประกาศให้เป็นนักบุญของมาร์เกอริต เบย์ซึ่งเป็นฆราวาสจากสวิตเซอร์แลนด์ เธอเป็นที่รู้จักทางด้านชีวิตจิตวิญญาณของเธอในการเผชิญกับความทุกข์ทรมานทางกายจากรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ของพระคริสต์ที่เธอได้รับบนร่างกายของเธอ
เธอเกิดในปี 1815 เมื่อเติบโตขึ้นเธอได้คอยช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาในหมู่บ้านเล็กๆของเธอและกลายเป็นสมาชิกที่มีชื่อเสียงของคณะฟรังซิสกันฆราวาส เธอเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1879 และพระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 ทรงสถาปนาเธอในปี 1995
พระสันตะปาปาฟรังซิสยังทรงลงพระนามรับรองมรณะสักขีของซิสเตอร์อิสซาเบลลา ลาบาบาอันเดีย ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามคุณแม่ มารี เดล คาร์เมน พร้อมด้วยซิสเตอร์อีก 13 คนซึ่งเป็นสหายของเธอ พวกเขาถูกฆ่า "ในสมัยที่มีความเกลียดชังต่อความเชื่อในพระคริสต์" ที่สเปนในปี 1936 จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้บรรดาซิสเตอร์เหล่านี้ได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญ
นอกจากนี้ พระสันตะปาปาฟรังซิสยังทรงรับรองความกล้าหาญเยี่ยงวีรชนของคุณแม่ Soledad Sanjurjo Santos ผู้อยู่ในคณะ the Servants of Mary เธอเกิดที่อาเรซิโบ,เปอร์โตริโกในปี 1892 เธอเป็นที่รู้จักในนาม "ไข่มุกแห่งแอนทิลลิส" เพราะเธอดำรงตำแหน่งอธิการแห่งแอนทิลลิสและขยายงานของคณะในการดูแลคนป่วยทั่วประเทศคิวบา , สาธารณรัฐโดมินิกัน และเปอร์โตริโก เธอเสียชีวิตในปี 1973
ซิสเตอร์ชาวโปแลนด์ Anna Kaworek เป็นอีกผู้หนึ่งที่พระสันตะปาปาทรงประกาศให้เป็นนักบุญในคราวเดียวกันนี้ เธอมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1872-1936 และได้ร่วมก่อตั้งคณะซิสเตอร์แห่งนักบุญอัครเทวดามีคาแอล
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2025 งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา
  สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใด เวลาของเรายังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้” พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์
(ยอห์น 2:1-11)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2025 งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา
  สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใด เวลาของเรายังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้” พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์
(ยอห์น 2:1-11)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น