พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559

Away in a Manger



Away in a manger, no crib for a bed,
The little Lord Jesus laid down His sweet head.
The stars in the bright sky looked down where He lay,
The little Lord Jesus asleep in the hay.
The cattle are lowing, the baby awakes,
But little Lord Jesus no crying He makes.
I love Thee, Lord Jesus, look down from the sky
And stay by my cradle til morning is nigh. (or: And stay by my side until morning is nigh.)
Be near me, Lord Jesus, I ask Thee to stay
Close by me forever, and love me, I pray.
Bless all the dear children in thy tender care,
And fit us for heaven, to live with Thee there

วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เพลง“Txichochi Conetzintle”



เพลง“Txichochi Conetzintle,” เป็นเพลงสรรเสริญแม่พระแห่งกัวดาลูเปในภาษานาวาต ซึ่งเป็นภาษาดั้งเดิมของชาวแอสเท็กประพันธ์โดย Gaspar Fernandes ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เป็นเพลงที่มีอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมของนาวาตที่อยู่ในเมโซอเมริกาในยุคอาณานิคมสเปน
มีการร้องเพลงนี้ในมิสซาตอนเย็นที่อาสนวิหารนักบุญเปโตร
เนื้อเพลงมีใจความว่า
หลับเถิด ,หลับ
หลับเถิด ,หลับ
นอนหลับเถิด ลูกรักของแม่
นอนหลับเถิด ลูกรักของแม่
แล้วเทวดาจะมาหาลูก(บนโลกนี้)
แล้วเทวดาจะมาหาลูก(บนโลกนี้)
แล้วเทวดาจะมาหาลูก(บนโลกนี้)
อัลเลลูยา,อัลเลลูยา

วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เลือดของนักบุญจานูเรียสไม่กลายเป็นของเหลว

วันที่ 16 ธันวาคม (วันครบรอบการระเบิดของภูเขาไฟวิซูเวียสในปี 1631 ลาวาไหลมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเมืองเนเปิล เป็นอัศจรรย์ที่นักบุญเข้าช่วยเหลือชาวเมืองที่วอนขอท่าน)
แต่วันที่ 16 ธ.ค. ปีนี้ เลือดของนักบุญไม่กลายเป็นของเหลว  นี่เป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึงบางอย่างที่จะเกิดขึ้นหรือ?
>>>อ่านต่อ

วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ท่านเปี่ยมด้วยพระหรรษทาน

           :ตามที่อัครเทวดากาเบรียลได้กล่าวทักทายพระนางมารีย์ใน ลูกา 1:28 “ขอวันทา  ท่านผู้เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน”  ในภาษากรีก คำว่า “เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน” คือคำว่า kecharitomene" ซึ่งมีความหมายว่า “ท่านคือผู้ถูกเติมเต็มจนเปี่ยมล้นด้วยพระหรรษทาน”  แม่พระทรงตกพระทัยในคำทักทายนี้  พระนางทรงได้รับการทักทายจากทูตสวรรค์ด้วยคำว่า “ขอวันทา” "Hail (“Hail” ภาษาไทยแปลว่า “ขอวันทา” เป็นคำที่ใช้กับราชสำนัก เช่น “Hail Caesar,” or “Hail King of the Jews”)  พระนางมารีย์ทรงได้รับเลือกให้เป็นมารดาของพระเจ้า  เพราะพระนางทรงเปี่ยมล้นด้วยพระหรรษทาน  ขอให้เราทำเช่นเดียวกับอัครเทวดากาเบรียลด้วยการขานเรียกพระนางมารีย์ว่า “วันทามารีย์” ทุกวัน  เพราะพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า “ชนทุกยุคทุกสมัยจะเรียกข้าพเจ้าว่าเป็นผู้ได้รับพระพร” (ลก.1:48) และทำให้คำทำนายให้บทสดุดี 45:17 สำเร็จไป  นักบุญหลุยส์  มารีย์  เดอมงฟอร์ต กล่าวว่า  พระเยซูเสด็จมาสู่โลกครั้งแรกโดยผ่านทางพระนางมารีย์ พระองค์ก็จะเสด็จมาสู่โลกครั้งที่สองโดยผ่านทางพระนางมารีย์ด้วยเช่นเดียวกัน  และนี่ยืนยันได้จากการประจักษ์มาของพระนางมารีย์มากมายหลายครั้งในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา 

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559

พระสัญญา

“พระองค์ทรงสัญญาประทานความรอดนิรันดรแก่เรา  เป็นชีวิตในพระพรอันไม่มีที่สิ้นสุดพร้อมกับเหล่านิกรเทวดาทั้งมวล  พระองค์จะทรงประทานมรดกที่ไม่เสื่อมสลาย  เราจะมีความชื่นชมยินดีที่ได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์  ได้อยู่กับพระองค์ในสวรรค์  ความกลัวในความตายจะถูกกำจัดออกไปจากพวกเราโดยอาศัยการกลับคืนพระชนม์ชีพ  นี่คือสิ่งที่พระองค์ทรงสัญญาไว้  เรามุ่งหน้าไปสู่สิ่งนี้  และเมื่อเราถึงที่หมายแล้ว เราจะไม่ต้องการอะไรอีกเลย”
(คำอธิบายบทสดุดี 109 ของนักบุญออกัสติน)
กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เราหันเหออกจากจุดมุ่งหมายดังกล่าวนี้  การหันเหอาจเกิดขึ้นกับเราได้ในหลายรูปแบบ  บางครั้งก็เป็นเพียงชั่วคราวและบางครั้งก็อาจทำให้เราหลงไปเลยก็ได้  คำถามก็คือ เราจะควบคุมจิตใจไม่ให้หันเหความคิดและป้องกันได้อย่างไร  พระเป็นเจ้าทรงสร้างมนุษย์เพื่อพระองค์และประทานศักดิ์ศรีอันสูงส่งแก่มนุษย์และยังประทานพระสัญญาอันยิ่งใหญ่นี้ให้แก่มนุษย์ด้วย...นั่นคือชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ตลอดนิรันดรในสวรรค์ 

ในเทศกาลพระคริสตสมภพนี้  ให้เราพิจารณาถึงพระสัญญาอันน่ามหัศจรรย์ของพระเป็นเจ้าในแต่ละวัน

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สาส์นแม่พระ2+25ธ.ค.2016

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 ธ.ค. 2016
ลูกที่รักทั้งหลาย
ในวันนี้ ด้วยความยินดียิ่งนัก แม่ได้มอบองค์พระบุตรของแม่แก่ลูก
เพื่อที่พระองค์จะทรงประทานสันติสุขของพระองค์แก่พวกลูก
ลูกน้อยทั้งหลาย จงเปิดดวงใจของลูกเถิด แล้วลูกจะปิติยินดีที่ได้รับสันติสุขนี้
สวรรค์อยู่กับพวกลูกและกำลังต่อสู้เพื่อสันติสุขในดวงใจของพวกลูก  ภายในครอบครัวและในโลก
ส่วนลูก, ลูกน้อยทั้งหลาย โปรดช่วยเหลือแม่ด้วยการสวดภาวนาเพื่อที่จะได้เป็นไปดังนั้น
แม่ขออวยพรพวกลูกด้วยองค์พระบุตรของแม่และแม่ขอให้ลูกอย่าได้สูญเสียความหวัง
ขอให้ดวงตาของลูกและหัวใจของลูกมุ่งไปสู่สวรรค์นิรันดรเสมอเถิด
ด้วยวิถีทางนี้ ลูกจะได้สัมผัสพระเป็นเจ้าและแผนการณ์ของพระองค์

 
ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
 
สาส์นแม่พระประทานแก่ มีรยานา 2 ธ.ค. 2016
ลูกที่รักทั้งหลาย
หัวใจของแม่กำลังร่ำไห้ ขณะที่แม่มองดูสิ่งที่บรรดาลูกของแม่กำลังกระทำ 
บาปทวีจำนวนเพิ่มขึ้นมากมาย 
ความบริสุทธิ์ของวิญญาณเป็นสิ่งที่มีความสำคัญน้อยมาก 
องค์พระบุตรของแม่ถูกลืมไปเสีย ไม่ได้รับความเคารพนับถือ 
และบรรดาลูกจำนวนมากของแม่กำลังถูกเบียดเบียนทำร้าย 
นี่คือสาเหตุ, ลูกทั้งหลายของแม่, อัครสาวกแห่งความรักของแม่,
ด้วยวิญญาณและหัวใจที่คารวะต่อพระนามขององค์พระบุตรของแม่ 
พระองค์จะทรงประทานพระวาจาแห่งความสว่างสำหรับพวกลูก 
พระองค์จะทรงแสดงพระองค์เองแก่ลูก
พระองค์จะทรงหักปังกับพวกลูกและประทานพระวาจาแห่งความรักแก่พวกลูก
เพื่อที่ลูกจะเปลี่ยนพระวาจานั้นให้กลายเป็นกิจการแห่งความเมตตา
ดังนั้น จงเป็นพยานของความจริง
นั่นคือสาเหตุ  ลูกทั้งหลายของแม่ จงอย่ากลัว
จงยอมให้องค์พระบุตรของแม่ดำรงอยู่ในตัวลูก
พระองค์จะทรงใช้ลูกเพื่อดูแลบาดแผลและทำให้วิญญาณที่สูญเสียกลับใจ
เพราะฉะนั้น ลูกทั้งหลายของแม่ จงกลับมาสู่การสวดสายประคำ
จงสวดด้วยความรู้สึกของความดี การเสียสละและความเมตตา
สวดภาวนา มิใช่เพียงด้วยคำพูดเท่านั้น  แต่ด้วยกิจการแห่งความเมตตาด้วย
สวดภาวนาด้วยความรักต่อมนุษย์ทุกคน
องค์พระบุตรของแม่  ด้วยยัญบูชาของพระองค์ ทรงปลื้มปิติยินดีในความรักยิ่งนัก
เพราะฉะนั้น  จงดำเนินชีวิตอยู่กับพระองค์ เพื่อที่ลูกจักได้มีพละกำลังและความหวัง
เพื่อที่ลูกจักได้มีความรักซึ่งเป็นชีวิตและนำลูกไปสู่ชีวิตนิรันดร
โดยความรักของพระเป็นเจ้า  แม่จะอยู่กับลูก และจะนำทางลูกด้วยหัวใจรักเยี่ยงมารดาของแม่
ขอขอบใจลูก
มีรยานาบอกว่า แม่พระทรงเศร้ามาก

วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สุขสันต์วันคริสต์มาส


สุขสันต์วันคริสต์มาส โอ้วันที่แสนชื่นบาน
เชิญมาขับเพลงประสาน สรรเสริญองค์พระกุมาร
ผู้ประสูติมา ท่ามกลาง ความมืดมนบนหนทางแห่งราตรีกาล
ในรางหญ้า มีเพียงฝูงชุมพาเคียงข้างกายาพระองค์
จะมีใครสักคน ตื่นเฝ้ารอคอยชื่นชม จุดไฟในกมลตื่นเฝ้ารอ


พี่น้องที่รัก ขอให้เราทุกคนกลับกลายเป็นเบธเลเฮมเถิด
 
เบธเลเฮม  ดินแดน  แสนต่ำต้อย
แม้เล็กน้อย  ในบรรดา  ถิ่นทั้งหลาย
แต่ได้รับ  พระพร   อย่างมากมาย
พระผู้ไถ่  ประสูติแล้ว  ตามสัญญา
            เบธเลเฮม  แม้เล็กน้อย  แต่ยิ่งใหญ่
พระองค์พอ  พระทัย  เจ้าหนักหนา
ไม่ประสงค์  ที่พัก  อันโอฬา(ร)
แต่ทรงมา  อยู่ในใจ  ผู้ถ่อมตน
 
                เบธเลเฮมทีเล็กน้อยที่สุด เป็นหมายสำคัญบ่งบอกถึงผู้มีใจยากจนและถ่อมตน เขาไม่ใส่ใจในสิ่งต่างๆที่เป็นของโลก เขาเปิดใจแด่พระเป็นเจ้าให้ทรงมาประทับอยู่กับเขา  ในช่วงเวลาแห่งพระคริสตสมภพที่แสนยินดีนี้ ให้เรามองดูองค์พระกุมารน้อยที่ประทับนอนอยู่ในรางหญ้า ในถ้ำเลี้ยงสัตว์ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้างจักรวาลและสรรพสิ่งทั้งหลายทรงถ่อมพระองค์ยิ่งนัก พระองค์ทรงสอนเราให้ถ่อมตนปล่อยวางละทิ้งสิ่งทั้งหลายทั้งปวงของโลกนี้ ให้เรามองดูพระแม่มารีย์  นักบุญโยเซฟ และบรรดานายชุมพาบาล  พวกท่านเป็นผู้มีใจยากจนและถ่อมตนอย่างแท้จริง จึงได้รับพระพรได้ต้อนรับพระกุมารน้อยองค์พระเจ้าผู้บังเกิดมาในท่ามกลางความมืดแห่งราตรีกาล บันดาลให้ท่านเกิดความสุขปิติยินดีเหลือล้น.....

“องค์พระวจนาตถ์ทรงรับเอาธรรมชาติมนุษย์ และมาประทับอยู่ท่ามกลางเรา” 
“พวกเขาเดินทางมาจากบูรพาทิศเพื่อมานมัสการกษัตริย์ที่เพิ่งประสูติ
โดยมีดวงดาวส่องสว่างนำทางพวกเขา”
“พระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่พระเป็นเจ้าในสรวงสวรรค์
และมนุษย์ที่พระองค์ทรงโปรดปรานจงประสบสันติสุขบนแผ่นดิน”
-------------------------------------------------
ท่องเที่ยวเบธเลเฮม

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559

อิมมานูเอล

การบังเกิดของพระเยซูเจ้าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจ  เมื่อพระเป็นเจ้าทรงเข้ามาในประวัติศาสตร์มนุษยชาติเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ด้วยพระอานุภาพ  บันดาลให้เกิดความรอดพ้นโดยพระผู้ไถ่ผู้ทรงบังเกิดมาเป็นทารกน้อยบริสุทธิ์และทรงมีชัยชนะต่อศัตรูที่ภูเขากัลวารีโอ  เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่มีจุดเริ่มต้นที่การบังเกิดของพระคริสต์ในค่ำคืนวันคริสต์มาสนี้เอง
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ผมต้องการให้คุณรู้ว่าแม่พระทรงรักคุณ..

ทำไมพวกคุณจึงไม่ต้องการจะไปล่ะ? ถ้าผมเลือกได้ผมจะไปเสียเดี๋ยวนี้เลย  พระนางสวยงามยิ่งนัก

>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2559

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559

Angels We Have Heard on High



ต้นฉบับของเพลงนี้เป็นเพลงภาษาฝรั่งเศส และได้มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษโอย James Chadwick ถูกแปลเป็นภาษาไทยในชื่อ เห็นดาวทอง
ชมภาพวาดพระคริสตสมภพ จากศิลปินหลายคน http://www.catholichousehold.com/birth-of-jesus-in-art-20-paintings-of-the-nativity/


วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559

การเปิดไฟต้นคริสต์มาสที่วาติกัน



วันที่ 12 ธ.ค. 2016 เวลา 16.30 น. มีการเปิดไฟต้นคริสต์มาสที่จัตุรัสนักบุญเปโตรอย่างเป็นทางการ  ถ้ำพระกุมารเป็นของขวัญจากนายกเทศมนตรีแห่งเมืองมอลตา ตามธรรมเนียมของชาวมอลทิสในถ้ำจะมีเรือท้องถิ่นของมอลทิส "luzzu,”  ผู้ออกแบบคือ Manwel Grech เรือยังเป็นสัญญลักษณ์หมายถึงผู้อพยพลี้ภัยจากสงครามและความยากจนที่ข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมายังอิตาลีด้วย
ถ้ำพระกุมารจะคงอยู่จนถึงวันที่ 8 ม.ค. 2017 ต้นคริสต์มาสสูง 80 ฟุตนำมาจากทางตอนเหนือของอิตาลีบริเวณ Trentino

วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ผู้หญิงที่อายุยืนที่สุดในโลก


เอมม่า โมราโน Emma Morano ผู้หญิงที่มีอายุมากที่สุดในโลก
เธอเกิดเมื่อ 29 พ.ย. 1899 เวลานั้นสถานการณ์ของโลกไม่ค่อยดี มีการเริ่มต้นของสงครามลวง (Second Boer War เป็นช่วงต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง ตั้งแต่เดือนกันยายน ค.ศ. 1939
            เอมม่า เป็นชาวอิตาลีที่ “มีอายุมากที่สุดในโลก” เป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่มีชีวิตอยู่ถึงสามศตวรรษ (19 , 20 และศตวรรษที่ 21)  วันอังคารที่ 6 ธันวาคม 2016 นี้เธอมีอายุครบ 117 ปี  เธออาศัยอยู่คนเดียวในอพาตเมนท์ในเมือง  Verbania  ผู้หญิงที่มีอายุมากที่สุดอีกคนหนึ่งเป็นชาวอเมริกัน ชื่อ Susannah Mushatt Jones แต่ได้เสียชีวิตไปแล้วด้วยวัย 116 ปี (ตามรายงานข่าวของ CBS News)
อะไรที่ทำให้เธอมีอายุยืนยาวได้ถึงสามศตวรรษ? แน่นอน กรรมพันธุ์ก็มีส่วนด้วย  แม่ของเธอมีอายุ 91 ปี พี่สาวน้องสาวสองคนของเธอก็มีอายุยืนเกิน 100 ปี
ประการที่สอง คือเรื่องของอาหารที่เธอทานประกอบด้วยไข่สดสองฟองและไข่ปรุงสุกหนึ่งฟองทุกวัน
ประการที่สาม คือเรื่องชีวิตส่วนตัวของเธอ  เธอเคยแต่งงานและมีลูกชายซึ่งเสียชีวิตในปี 1938  หลังจากนั้นเธอก็อยู่เป็นโสดเรื่อยมา เธอกล่าวในปี 2015 ว่า “ฉันไม่ต้องการอยู่ใต้อำนาจของใคร”
แต่แพทย์ประจำตัวของเธอ Dr Carlo Bava บอกว่า “การมีอายุยืนของเธอมาจากกรรมพันธุ์ล้วนๆ ไม่มีเรื่องอื่น  ตั้งแต่ยังวัยเยาว์เธอมีชีวิตที่ยากลำบากซึ่งคงจะลดทอนพลังของใครก็ได้”
            เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เธอได้รับสาส์นอวยพรวันเกิดจากประธานาธิบดีของอิตาลี  ทำให้เธอมีความสุขมาก หลานสาวสองคนของเธอมาร่วมฉลองวันเกิด และยังมีคนดูแลสองคนและ ดร.บาวา ด้วย เธอเปิดกล่องของขวัญและเป่าเทียนจากเค้กวันเกิด
แต่เธอบอกว่า “ฉันหวังว่าคงไม่ต้องตัดเค้กนะ  ฉันมีความสุขมากที่มีอายุ 117 ปี”
แพทย์ประจำตัวพูดกับเธอว่า “ใครนะที่พูด? เมื่อตอนที่คุณยังสาว  ทุกๆคนพากันบอกว่าคุณอ่อนแอและเจ็บป่วย”
เอมม่าตอบรับ “ใช่ ใช่”

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559

อย่ายอมให้ซาตานล่อลวง


              แม่พระตรัสกับเราว่า....”แม่ต้องการให้ลูกเชื่อฟังแม่และอย่ายอมให้ซาตานล่อลวงลูก  ลูกที่รักทั้งหลาย ซาตานแข็งแรงมาก  เพราะฉะนั้น แม่จึงขอให้ลูกอุทิศคำสวดภาวนาของลูกแก่แม่เพื่อที่คนเหล่านั้นที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของมันจะได้รับการช่วยให้รอดพ้น จงเป็นพยานด้วยชีวิตของลูก และแม่จะรู้สึกขอบคุณต่อลูก  ในสวรรค์ลูกจะได้รับรางวัลตอบแทนจากพระบิดาสวรรค์ตามที่พระองค์ทรงสัญญาไว้  เพราะฉะนั้น  ลูกที่รักทั้งหลาย จงอย่ากลัว  ถ้าลูกสวดภาวนา ซาตานจะไม่สามารถทำร้ายลูกได้แม้แต่น้อย  เพราะลูกเป็นลูกของพระเจ้าและพระองค์ทรงเฝ้ามองดูลูก  จงสวดภาวนาและให้สายประคำอยู่ในมือของลูกเสมอเพื่อเป็นเครื่องหมายให้ซาตานรู้ว่าลูกเป็นของแม่แล้ว” (25 ก.พ. 1988)

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2559

วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2559

การถวายประเทศแด่ดวงหทัยนิรมล

พระศาสนจักรคาทอลิกในโปรตุเกสได้รับการชุบชูชีวิตใหม่ มีกระแสเรียกเป็นพระสงฆ์ทวีขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ กระแสเรียกเป็นนักบวชก็มากขึ้นเป็น 4 เท่า ชีวิตคริสตชนก็พัฒนาขึ้นอย่างผิดหูผิดตา มีศูนย์เข้าเงียบมากมาย ขบวนการกลุ่มกิจการคาทอลิกในสังฆมณฑล ในวัด โรงพิมพ์คาทอลิก สถานีวิทยุคาทอลิก และจาริกแสวงบุญ
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2559

หน่อจากตอของเจสสี


สัปดาห์ก่อนที่จะถึงวันคริสต์มาส เราคิดถึงประวัติศาสตร์ที่นำไปสู่การบังเกิดของพระเมสสิยาห์
เจสสีไม่ได้มีลักษณะหรือกระทำกิจการที่โดดเด่นในพระธรรมเก่า  มีเรื่องราวของท่านเพียงเล็กน้อยที่เขียนอยู่พระคัมภีร์ไบเบิล  ท่านเป็นเพียงคนธรรมดาและมีบทบาทอยู่เบื้องหลังเท่านั้น
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ศาลฝรั่งเศสตัดสินเรื่องถ้ำพระกุมาร


ศาลสูงฝรั่งเศสได้ตัดสินแล้วว่า การตั้งแสดงถ้ำพระกุมารไม่ขัดกฎหมายจากนโยบาย อศาสนาของประเทศ  มีการถกเถียงกันนานหลายปีว่า “ถ้ำพระกุมาร” ถือเป็นภาพทางศาสนานั้นสามารถตั้งแสดงในที่สาธารณะได้หรือไม่

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เทศบาลเมืองสั่งเคลื่อนย้ายพระรูปแม่พระ


December 4, 2016 by sd 
เมือง Publier อยู่ทางตะวันออกของฝรั่งเศสติดกับสวิทเซอร์แลนด์ นาย Gaston Lacroix นายกเทศมนตรีของเมืองกำลังหาทางเคลื่อนย้ายพระรูปแม่พระออกจากที่สาธารณะไปยังที่ดินของเอกชนบางราย  ทั้งนี้เพื่อปฏิบัติตามกฏหมายว่าด้วยการไม่อนุญาติให้มีสัญญลักษณ์ทางศาสนาใดๆแสดงในที่สาธารณะนั่นเอง
พระรูปแม่พระนี้ทำด้วยหินอ่อนตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะใกล้กับสระน้ำเจนีวา ตั้งแต่ปี 2011  ที่ใต้พระรูปมีอักษรจารึกว่า Notre Dame du Léman veille sur tes enfants (แม่พระแห่งสระน้ำเจนีวาเฝ้ามองดูบรรดาลูกของพระนาง)
เคยมีการถกเถียงกันเกี่ยวกับพระรูปนี้มานานหลายปี  เพราะทางสภาเทศบาลต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา
ฝรั่งเศสมีกฎหมายที่เข้มงวดในการนำเอาศาสนาภัณฑ์ทุกอย่างออกจากสถานที่สาธารณะ ทำให้ประเทศฝรั่งเศสถูกระบุว่าเป็นประเทศ “ไร้ศาสนา” 
ฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ไม่อนุญาตให้สวมผ้าคลุมศีรษะสตรีของชาวมุสลิมในที่สาธารณะตั้งแต่ปี 2011

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ราวันดาฉลองครบรอบ35ปี


ผู้แสวงบุญพากันมาสวดภาวนาและเฉลิมฉลองแม่พระแห่งราวันดาเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2016 ครบรอบปีที่ 35 นับจากการประจักษ์ครั้งแรกแก่อัลฟองซีน ในวันที่ 28 พ.ย. 1981 เด็กนักเรียนหญิงในเมื่องกีเบโฮ
ผู้แสวงบุญเดินทางด้วยรถบัส หรือขี่จักรยาน  หรือเดินด้วยเท้า บางคนมาจากประเทศข้างเคียง
ผู้แสวงบุญบางคนนอนที่พื้นหญ้าด้านหน้าของโบสถ์ เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องในโรงแรมซึ่งเต็มไปเรียบร้อยแล้ว
โบสถ์ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา และที่เชิงเนินเขานี้มีบ่อน้ำพุที่เรียกว่า “น้ำพุของแม่พระ” ที่มีอัศจรรย์การรักษาโรคได้  คาริตัส นิยีบีกีร่า อายุ 47 ปีเล่าว่า “ในอดีต ฉันมีปัญหาเท้าบวมและหายใจติดขัดแต่ต้องขอบคุณน้ำจากน้ำพุนี้ที่ช่วยรักษาฉันให้หาย”  เกรซ มอร์ริส สตรีวัย 31 ปีจากอูกันดา เล่าว่าเมื่อต้นปีนี้  เธอเห็นเด็กชายคนหนึ่งที่ขาพิการ ได้หายจากอาการพิการหลังจากที่ถูกนำเข้าไปในโบสถ์น้อยแห่งการประจักษ์ “เราเห็นเด็กคนนี้วิ่งออกมาจากโบสถ์และร้องตะโกนด้วยความยินดี”  มอร์ริสเล่า

การขอมิสซาให้วิญญาณคนต่างศาสนา

เห็นว่าเรื่องนี้น่าสนใจ  และตรงกับความสงสัยของพี่น้องที่ชอบสงสัยว่า  ขอมิสซาให้คนต่างศาสนาได้หรือป่าว 
>>>อ่านต่อ

วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ช่างบังเอิญ


วันที่27-28 พ.ย. 2016 :  มลรัฐเทนเนสซี่ประสบกับไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุด ไฟไหม้ลามถึงบ้านเรือนของชาวบ้านแถบนั้น  ทางรัฐต้องประกาศอพยพผู้คนราว 10,000 คนไปอยู่ยังที่พักชั่วคราว
ไอแซค แมคคอร์ด Isaac McCord จากมหาวิทยาลัยเทนเนสซี่ ซึ่งทำงานเป็นผู้ฝึกสอนด้านทรัพยากรมนุษย์ที่ดอลลี่วูดกล่าวว่า  เขาไม่คิดว่ากระดาษที่ถูกไฟไหม้แล้วจะสามารถอ่านได้  แต่มีกระดาษแผ่นหนึ่งที่ตกอยู่ทำให้เขาเกิดความสนใจ
“เมื่อผมก้มลงไปเก็บสิ่งของบนพื้นดิน  ผมสังเกตเห็นว่าในกระดาษที่ไหม้เกรียมนั้นเป็นประโยคในพระคัมภีร์ไบเบิล” ไอแซค พูดกับผมในโทรศัพท์ “และประโยคนั้นเขียนไว้ตรงกับเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้  มันเขียนว่า”

“O Lord, to thee will I cry: For the fire hath devoured the pastures of the wilderness, and the flame hath burned all the trees of the field,”  
“ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าร้องหาพระองค์  เพราะไฟเผาผลาญทุ่งหญ้าแห่งถิ่นทุรกันดาร  และเปลวไฟได้เผาผลาญต้นไม้ทุกต้นในทุ่งหญ้า”

(เนื้อหานำมาจากเฟสบุ๊คของไอแซค และมีภาพประกอบดังที่แสดงข้างบนเลข 19 )


บ้านที่ถูกไฟเผาหลังนี้ มีพระรูปพระเยซูเจ้าซึ่งเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ปรากฏอยู่ หลังจากบ้านถูกไฟเผาผลาญจนเหลือแต่ซาก
  

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เวเนซูเอล่ารอดจากหายนะได้อย่างไร?

พระสันตปาปาฟรังซิสทรงช่วยให้ประเทศเวเนซูเอล่ารอดพ้นจากหายนะได้อย่างไร?โดยการทำตามคำแนะนำของพระสันตปาปาฟรังซิส  ทีละขั้นทีละตอน  ก็ทำให้เวเนซูเอล่ารอดพ้นจากวิกฤตการณ์ไปได้  โดยมีอดีตประธานาธิบดีของสเปน นาย Zapatero เป็นคนกลาง
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2559

You Raise Me Up by sister Indonesia



You Raise Me Up - Instrumental
When I am down and, oh, my soul, so weary;
When troubles come and my heart burdened be;
Then I am still and wait here in the silence,
Until you come and sit awhile with me.
You raise me up, so I can stand on mountains;
You raise me up to walk on stormy seas;
I am strong when I am on your shoulders;
You raise me up to more than I can be

วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559

น. แอนดรู ดุง แลค


น. แอนดรู ดุง แลค - พระสงฆ์ และเพื่อน ฉลองวันที่ 24 พ.ย.
ในการแพร่ธรรมมายังประเทศทางตะวันออกของมิชชันนารีชาวยุโรป ต้องประสบอุปสรรคมากมาย  และหลายครั้งที่ต้องพลีชีพเป็นมรณะสักขี  ที่เวียตนามมีมรณะสักขีหลายคนเป็นพระสงฆ์ในคณะโดมินิกัน และ คณะพระสงฆ์มิชชันนารีแห่งกรุงปารีส  และ แอนดรู ดุง แลค เป็นพระสงฆ์ชาวเวียตนามที่ได้ยอมตายเพื่อยืนยันความเชื่อในพระเยซูคริสต์  ในระหว่างปี 1745-1862
ในปี 1843 Paul Le-Bao-Tinh ซึ่งเป็นสามเณรชาวเวียตนามได้เขียนจดหมายสั้นๆก่อนที่เขาจะเสียชีวิตเป็นมรณะสักขีว่า
“ข้าพเจ้า เปาโล ผู้ถูกใส่โซ่ตรวนในพระนามของพระคริสต์  ปรารถนาจะเล่าให้ท่านฟังเกี่ยวกับความทุกข์ทรมานที่ข้าพเจ้าได้รับในทุกๆวัน  เพื่อที่ท่านผู้เร่าร้อนด้วยความรักในพระเป็นเจ้า  จักได้เงยหน้าขึ้นสรรเสริญพระเป็นเจ้า  “เพราะพระเมตตาของพระองค์คงอยู่นิรันดร”   ในคุกนี้เป็นภาพลักษณ์ของนรกชั่วนิรันดรอย่างแท้จริง  มีการทรมานที่โหดร้ายที่สุดทุกชนิด  อย่างเช่น  โซ่ตรวน, โซ่เหล็กและเครื่องพันธนาการที่เพิ่มความเกลียดชังพยาบาท, คำพูดใส่ร้าย  คำพูดหยาบคายอนาจาร  การสอบสวนที่โหดเหี้ยมอำมหิต  การบังคับให้สาบาน  คำสาปแช่งและในที่สุดความยากลำบากและความเศร้าโศก  แต่พระเป็นเจ้า ผู้ทรงเคยทำให้ชายหนุ่มสามคนรอดพันจากการถูกเผาย่างในเตาไฟ (ดาเนียลและเพื่อน) ทรงประทับอยู่กับข้าพเจ้าเสมอและทรงช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากความทุกข์ทรมานเหล่านี้และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นความอ่อนหวาน “เพราะพระเมตตาของพระองค์คงอยู่นิรันดร
"โปรดช่วยข้าพเจ้าด้วยการสวดภาวนาของท่าน  เพื่อที่ข้าพเจ้าปฏิบัติตามพระบัญญัติ  และจะได้ “ต่อสู้เพื่อความดี”  และเพื่อที่ข้าพเจ้าจะได้มีคุณค่าที่จะต่อสู้จนถึงที่สุดและจบชีวิตอย่างมีความสุข  ถ้าหากพวกเราไม่ได้พบกันอีกในชีวิตนี้  ในอนาคต  อย่างไรก็ตาม  นี่จะเป็นความยินดีของพวกเรา เมื่อเรายืนอยู่เบื้องหน้าพระบัลลังก์ของพระชุมพาน้อยบริสุทธิ์  เราจะเปล่งเสียงร้องเพลงสรรเสริญพระองค์  และมีความชื่นชมยินดีในชัยชนะนิรันดร  อาแมน”