พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนใบ้หูหนวก

           พระองค์เสด็จออกจากเขตเมืองไทระผ่านเมืองไซดอน ไปยังทะเลสาบกาลิลีกลางดินแดนทศบุรี มีผู้นำคนใบ้หูหนวกคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์ ทูลขอร้องให้พระองค์ทรงปกพระหัตถ์ พระองค์ทรงแยกคนใบ้หูหนวกคนนั้นไปจากกลุ่มชน ทรงใช้นิ้วพระหัตถ์ยอนหูของเขา ทรงใช้พระเขฬะแตะลิ้นของเขา ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นเบื้องบน ถอนพระทัย แล้วตรัสว่า “เอฟฟาธา” แปลว่า “จงเปิดเถิด” ทันใดนั้นหูของเขากลับได้ยิน สิ่งที่ขัดลิ้นอยู่ก็หลุด เขาพูดได้ชัดเจน พระเยซูเจ้าทรงห้ามประชาชนเหล่านั้นมิให้พูดเรื่องนี้กับผู้ใด แต่ยิ่งห้าม ก็ยิ่งเล่าลือกันมากขึ้น ต่างก็ประหลาดใจมาก กล่าวว่า “คนคนนี้ทำสิ่งใดดีทั้งนั้น เขาทำให้คนหูหนวกกลับได้ยิน และคนใบ้กลับพูดได้”
(มาระโก 7:1-8,14-15,21-23)








วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

การแปลความหมายในพระคัมภีร์


ข้อความหนึ่งของพระวาจาในพระคัมภีร์ที่มีการแปลความหมายอย่างไม่ถูกต้องก็คือ “ถ้ามีใครตบแก้มขวาของท่าน ก็จงยื่นอีกข้างให้เขาด้วย” (ลูกา 6:29) 

โดยทั่วไปมักแปลพระวาจานี้ว่า อย่าตอบโต้ผู้ที่ทำร้ายเรา หรือไม่ให้เราป้องกันตัวเอง แต่อันที่จริง,ข้อความนี้ไม่ได้พูดถึงประเด็นเรื่องการตบแก้ม ผมอยากอธิบายให้ฟังเกี่ยวกับความหมายที่แท้จริงของข้อความนี้ซึ่งน่าสนใจมากและจะทำให้คุณประหลาดใจในตอนท้าย เมื่อพระเยซูตรัสว่าข้างขวา ภาษากรีกใช้คำว่า DEXIA คำนี้แปลได้ว่า ให้เกียรติ (place of honor) หรือ อำนาจหน้าที่(Authority) ดังนี้ข้อความดังกล่าวจึงพูดเกี่ยวกับการที่บางคนพยายามทำลายเกียรติของคุณหรืออำนาจของคุณ สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อพระเยซูตรัส ว่าจงให้อีกข้างหนึ่งแก่เขา ซึ่งคำในภาษากรีกใช้ ESTRESFO ซึ่งมีความหมายว่า หันหลังให้ (Turn your back) ดังนั้นเมื่อแปลข้อความทั้งหมดที่พระเยซูตรัสก็จะเป็นว่า เมื่อบางคนพยายามจะทำลายเกียรติของคุณหรืออำนาจของคุณ ก็จงหันหลังของคุณให้เขา จุดประสงค์หลักของพระวาจานี้คือเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง หลีกเลี่ยงข้อพิพาท,เมื่อมีใครบางคนพยายามทำลายเกียรติของคุณ,ซึ่งอาจทำให้คุณมีความรู้สึกโกรธแค้น   

#Catholic 4 Life

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น