พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2566

พระนางมารีย์รับเกียรติขึ้นสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ


"เพราะฉะนั้น,พระแม่มารีย์จึงทรงมีชีวิตนิรันดรตราบจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากพระผู้สถิตในพระนางได้พาพระนางไปยังดินแดนแห่งชัยชนะของพระนาง" (Timothy of Jerusalem Homily on Simeon and Anna; 400 AD) 
"และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกคนก็รู้ว่าร่างกายที่ไร้มลทินและทรงคุณค่านี้ได้ถูกย้ายไปยังสรวงสวรรค์แล้ว" (John the Theologian, The Falling Asleep of Mary; 400 AD) 
“บรรดาอัครสาวกนำร่างของพระนางไว้บนคานหามและนำไปวางไว้ในพระคูหา และพวกเขาเฝ้ายามป้องกันไว้,โดยคาดหวังว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมา และดูเถิด, องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประทับยืนอยู่ข้างพวกเขา และทรงรับร่างอันบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ของพระนางมารีย์ไว้ พระองค์ทรงบัญชาให้นำร่างของพระนางขึ้นไปในเมฆสู่สรวงสวรรค์ ที่ซึ่งเวลานี้,ร่างพระนางมารีย์ได้เข้าร่วมกับวิญญาณอีกครั้งและชื่นชมยินดีกับเหล่าผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร..." (Gregory of Tours, Eight Books of Miracles, 1:4; 575-593 A.D.) 
“ในฐานะพระมารดาผู้รุ่งโรจน์ที่สุดของพระคริสต์, พระผู้ช่วยให้รอดและพระเจ้าของเรา, และผู้ทรงประทานชีวิตและความเป็นอมตะ, พระนางทรงได้รับชีวิตจากพระองค์ พระนางได้รับพระวรกายที่ไม่เน่าเปื่อยชั่วนิรันดร์และประทับอยู่พร้อมกับพระองค์ผู้ทรงชุบพระนางขึ้นมาจากพระคูหาและ ได้พาพระนางขึ้นมาหาพระองค์เองในลักษณะที่มีแต่เพียงพระองค์เท่านั้นที่ทรงทราบ" (Modestus of Jerusalem, Encomium in dormitionnem Sanctissimae Dominae nostrae Deiparae semperque Virginis Mariae (PG 86-II,3306 ก่อน ค.ศ. 634)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น