พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2024 สมโภชพระเยซูจะกษัตริย์แห่งสากลจักรวาล

           ปีลาตกลับเข้าไปในจวน และเรียกพระเยซูเจ้ามาถามว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของชาวยิวหรือ” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านถามดังนี้ด้วยตนเอง หรือผู้อื่นบอกท่านถึงเรื่องของเรา” ปีลาตตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นชาวยิวหรือ ชนชาติของท่าน และบรรดาหัวหน้าสมณะมอบท่านให้ข้าพเจ้า ท่านทำผิดสิ่งใด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “อาณาจักรของเรามิได้มาจากโลกนี้ ถ้าอาณาจักรของเรามาจากโลกนี้ ผู้รับใช้ของเราก็คงจะต่อสู้เพื่อมิให้เราถูกมอบให้ชาวยิว แต่อาณาจักรของเราไม่ได้เป็นของโลกนี้” ปีลาตจึงถามพระองค์ว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านเป็นกษัตริย์ใช่ไหม” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านพูดว่าเราเป็นกษัตริย์นั้นถูกต้องแล้ว เราเกิดมาเพื่อเป็นกษัตริย์ เรามาในโลกนี้เพื่อเป็นพยานถึงความจริง ผู้ใดอยู่ฝ่ายความจริงก็ฟังเรา”
(ยอห์น 18:33ข-37)








วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2566

นักบุญแห่งปาดัว


นักบุญแอนโทนีมีความกระตือรือร้นตลอดชีวิตในการไถ่กู้วิญญาณให้พ้นจากคำสาปแช่งชั่วนิรันดร์ ประชาชนหลายคนที่ตระหนักถึงอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์ของการสารภาพบาปกับนักบุญแอนโทนี แอนโทนีปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะโปรดศีลอภัยบาปแก่พวกเขา
ครั้งหนึ่งชายคนหนึ่งซึ่งดำเนินชีวิตในบาปได้มาพบกับแอนโทนีและขอคำแนะนำจากท่านนักบุญ วิญญาณชั่วร้ายหลายดวงมีอิทธิพลต่อชายผู้นี้และพวกมันควบคุมเขาอย่างเต็มที่ เขารู้สึกว่าตนกำลังอยู่ในนรกบนผ่นดิน เขาห่างไกลจากพระเจ้าและพระศาสนจักรมากแล้ว ใบหน้าของเขาจึงดูซีดเซียวและมืดมน เขาเปิดใจกับแอนโทนี ในขณะที่สารภาพบาป,เขาสำนึกผิดถึงระดับที่ไม่สามารถสารภาพบาปต่อไปได้ แอนโทนีแนะนำให้เขาเขียนบาปของเขาและนำมาให้ท่าน ชายผู้นี้จึงนำรายชื่อบาปที่เขาเขียนขึ้นไปให้แอนโทนี แอนโทนีปลอบโยนเขาว่า "พระเจ้าไม่ทรงระลึกถึงอดีตอันเลวร้ายของมนุษย์ พระองค์จะลงโทษเฉพาะคนบาปที่ไม่กลับใจและยังคงทำบาปต่อไป" แอนโทนี่อ่านบาปทีละข้อ และชายคนนั้นก็พยักหน้ายืนยัน ขณะที่กระบวนการนี้ดำเนินอยู่ บาปที่แอนโทนีกำลังอ่านอยู่ก็หายไปจากกระดาษ และแผ่นกระดาษก็กลับกลายเป็นแผ่นกระดาษว่างเปล่า ชายผู้นั้นได้รับการอวยพรจากแอนโทนีและกลับบ้านในสภาพคนใหม่ 
เมื่อใดก็ตามที่แอนโทนีเทศน์, เขาจะถือไม้กางเขนขนาดเล็กไว้ในมือ เขารักเมืองปาดัวและทำงานเพื่อความก้าวหน้าทางวัตถุและจิตวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงถูกเรียกด้วยความรักจากผู้คนว่า "นักบุญแห่งปาดัว"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น