โรม,อิตาลี,
21 เม.ย. 2015(CNA/EWTN News) – พระสังฆราช โอลีเวอร์ ดาเช โดมี
แห่งไนจีเรียเล่าว่า ท่านได้เห็นพระคริสต์ในนิมิต
และเดี๋ยวนี้ท่านตระหนักแล้วว่า
สายประคำคือกุญแจสำคัญในการกำจัดกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮารามที่กำลังรุกรานประเทศอยู่ในเวลานี้
พระสังฆราชกล่าวว่า
พระเป็นเจ้าทรงชี้แนะแก่ท่านให้เป็นผู้นำประชาชนในการสวดสายประคำจนกว่ากลุ่มก่อการร้ายจะสูญหายไป
“เมื่อปลายปีที่แล้ว
ผมอยู่ในโบสถ์น้อยและอยู่เบื้องหน้าศีลมหาสนิท...ผมสวดสายประคำ และทันทีทันใด พระเยซูเจ้าก็ทรงปรากฏมา”
พระสังฆราชเล่าให้ทาง CAN เมื่อ 8 เม.ย. 2015
ท่านเล่าต่อไปว่า ในนิมิตนั้น พระเยซูเจ้ามิได้ตรัสอะไร แต่ทรงยื่นดาบมาให้ท่าน และท่านก็รับดาบนั้น
“ทันทีที่ผมรับดาบ ดาบก็กลายเป็นสายประคำ” พระสังฆราชเล่า และพระเยซูเจ้าตรัสกับท่านสามครั้งว่า
“โบโกฮารามจะสูญสิ้นไป”
“ผมไม่ต้องการประกาศกเพื่อให้คำอธิบาย มันชัดเจนว่า ด้วยสายประคำ เราจะสามารถขับไล่โบโกฮารามได้”
พระสังฆราชไม่ประสงค์จะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง แต่ท่านรู้สึกว่าพระจิตเจ้าทรงผลักดันท่านให้ต้องเล่า
ท่านเริ่มต้นกับพระสงฆ์ในสังฆมณฑลของท่านก่อน
แล้วจึงบอกเล่าให้ผู้ที่มาร่วมประชุม N2015
ซึ่งจัดประชุมในกรุงแมดริดของสเปน วันที่
17-19 เม.ย. 2015
การประชุมจัดขึ้นในหัวข้อว่า
จะช่วยให้คริสตชนดำเนินชีวิตในประเทศที่มีการเบียดเบียนได้อย่างไร
พระสังฆราชปกครองสังฆมณฑล
Maiduguri
อยู่ทางตอนเหนือของไนจีเรีย
ซึ่งมีคาทอลิกประมาณ 125,000 คน
หลังจากกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮารามเริ่มรุกรานคริสตชน ทุกวันนี้มีคริสตชนเหลือเพียง 50,000 – 60,000
คน
หลายคนหลบหนีไปสู่ที่ปลอดภัยในส่วนอื่นของไนจีเรีย
ในปี
2014 โบโกฮาราม เริ่มเป็นที่รู้จักในประชาคมโลก
จากการลักพาตัวเด็กนักเรียนหญิง 300 คน
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2015
และต่อมาได้มีการระเบิดฆ่าตัวตาย 5 ครั้งในเมืองหลวงมาดากูรี กลุ่มก่อการร้ายยังได้สังหารคน 1,000
คนในระยะเวลาสามเดือน ทาง Human
Rights Watch ได้รายงานว่า
มีประชาชน 6,000 คนที่ถูกกลุ่มนี้สังหารตั้งแต่ปี 2009
พระสังฆราชเชื่อว่า
พระเยซูเจ้าทรงขอให้ท่านเผยแพร่ความศรัทธาในการสวดสายประคำเพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
และท่านก็ทำเช่นนั้น
ไม่เพียงแต่พระสังฆราชดาเช่
เท่านั้นที่มีความศรัทธาในพระมารดาของพระคริสตเจ้าและมอบอนาคตของประเทศไว้ในพระหัตถ์ของพระนางมารีย์
ในการประชุมพระสังฆราชของไนจีเรียก็ได้มีการมอบถวายประเทศแด่พระนางถึงสองครั้งด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น