พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2560

tie yellow ribbon round the ole oak tree


ชายคนหนึ่งต้องติดคุกเพราะความผิ ดพลาดทางธุรกิจ  เมื่อครบกำหนดที่เขาจะออกจากคุก  เขาไม่แน่ใจว่าคนในครอบครัวคือภรรยาและลูกจะยังคงต้องการเขาอยู่หรือไม่?  เพราะไม่มีใครติดต่อกับเขาเลยตั้งแต่ที่เขาอยู่ในคุก  ดังนั้นเขาจึงเขียนจดหมายไปถึงภรรยา บอกว่า ถ้าหากคุณยังต้องการผม  ขอให้คุณผูกริบบิ้นสีเหลืองหนึ่งเส้นไว้รอบต้นโอ๊กเก่าๆต้นนั้น  เมื่อผมออกจากคุกผมจะจับรถบัสผ่านไปที่บ้าน ถ้าผมเห็นริบบิ้นสีเหลืองผูกอยู่ต้นโอ๊ก ผมก็จะลงจากรถไปหาคุณและลูก  แต่ถ้าผมไม่เห็นริบบิ้นสีเหลือง ผมก็จะนั่งในรถและผ่านเลยไปยังเมืองอื่นและจะไม่มารบกวนพวกคุณอีกต่อไป  เมื่อวันสำคัญมาถึง  ชายผู้นี้ก็นั่งรถบัสไปยังบ้านของเขา เมื่อใกล้ถึงบ้าน เขารู้สึกตื่นเต้นและกังวล  เมื่อรถบัสเลี้ยวเข้าสู่ถนนหน้าบ้าน  เขาก็แทบไม่เชื่อสายตาของเขา เพราะมีริบบิ้นสีเหลืองผูกอยู่รอบต้นโอ๊ก แต่ไม่ได้มีเส้นเดียวแต่มีมากมายเต็มต้น  เขารู้สึกสะเทือนใจมากและร้องไห้ออกมา  เมื่อลงจากรถเขาก็ได้เห็นภรรยาและลูกมายืนต้อนรับเขา

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560

ฉลองการรับพิธีล้างของพระเยซูเจ้า

ให้เรา “สวมใส่พระคริสตเยซู” (โรม 13:14) ไม่เพียงแค่วันนี้เท่านั้น แต่ทุกๆวัน  ให้เราไปและกระทำเหมือนที่พระองค์ทรงกระทำ (ลก. 10:37)
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2560

สาส์นแม่พระจากซานนิโคลัส

“ในช่วงเวลาเหล่านี้มนุษยชาติกำลังถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย  ถ้าหากเส้นด้ายขาดลง หลายคนจะเป็นผู้ที่ไปไม่ถึงความรอดพ้น  เพราะเหตุนี้แม่จึงขอให้ลูกไตร่ตรอง  จงรีบเร่งเถิดเพราะเวลาเริ่มเดินแล้ว  จะไม่มีที่สำหรับคนที่รีรอที่จะมา"
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2560

ละเลิกการใช้พลังงานจากฟอสซิล


            
หลายคนคงลืมเรื่องของการพิทักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม ตามสมณสาส์น Laudato Si ของพระสันตปาปาฟรังซิสไปแล้ว  จึงขอนำข่าวเก่าจากปีที่แล้วมาเสนอเพื่อเตือนความจำกันหน่อย
>>>อ่านต่อ
 

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2560

สารคดีเมดจูกอเรจ์



สารคดีจาก BBC ที่ถ่ายทำในปี 1986 ซึ่งทำขึ้นในระยะเวลา 5 ปี หลังจากแม่พระทรงประจักษ์มาที่เมดจูกอเรจ์ครั้งแรก และในเวลานั้นประเทศยูโกสลาเวียยังอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลคอมมิวนิสต์

วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2560

โลกถูกปีศาจโจมตี


California Network  - คุณพ่อ วินเซนโซ ทาทาโบเรลลี่( Fr. Vincenzo Tataborelli )พระสงฆ์ผู้ประกอบพิธีขับไล่ปีศาจชาวอิตาลีได้ให้สัมภาษณ์กับทาง BBC เมื่อไม่นานมานี้  ท่านบอกว่าประชาชนหนึ่งใน 30 คนต่อวันที่ท่านเห็นนั้น  จำเป็นต้องได้รับการทำพิธีขับไล่ปีศาจ  ท่านเล่าว่า ท่านเคยเห็นคนที่ถูกปีศาจสิง  และเขาอาเจียนออกมาเป็นก้อนหินและเศษไม้พร้อมกับเลือด
ท่านกล่าวกับ BBC ว่า “ผมบอกพระสังฆราชว่า  ผมไม่สามารถหาใครที่ปรารถนาจะมาเป็นพระสงฆ์ที่ประกอบพิธีขับไล่ปีศาจได้  พระสงฆ์เดี๋ยวนี้กลัวที่จะเป็น เพราะมันเป็นชีวิตที่ลำบาก”
การทำพิธีขับไล่ปีศาจช่วยคนได้มากมาย  แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ช่วยเหลือได้
พระสงฆ์ใหม่กลัวเกินไปที่จะเรียนรู้พิธีกรรมและประกอบพิธีขับไล่ปีศาจ  และความจริงอีกประการหนึ่งก็คือ การทำพิธีขับไล่ปีศาจต้องใช้เวลา  บางครั้งอาจเป็นปี  มันไม่สามารถเกิดผลได้ในทันทีทันใด  และพระสงฆ์บางองค์ก็ไม่เห็นความสำคัญของพิธีนี้ด้วย
การถูกปีศาจสิงเป็นการที่ปีศาจเข้าไปในร่างกายของคุณ  และเหยื่อของปีศาจหลายรายมีปีศาจเข้าสิงหลายตน
จุดประสงค์ของปีศาจก็คือลากดึงวิญญาณของคุณไปสู่นรกเมื่อคุณสิ้นชีวิต  มันทำโดยล่อลวงคุณ  ทำให้คุณหันหลังให้กับพระเจ้า  ทำให้คุณอยู่ห่างไกลจากโบสถ์  ด้วยสารพัดวิธีเท่าที่มันจะทำได้
โลกกำลังถูกซาตานโจมตี มันต้องการดึงวิญญาณทุกดวงให้ไปสู่นรก รวมทั้งตัวคุณด้วย  มันล่อลวงด้วยวิธีที่เราคาดไม่ถึง  ด้วยวิธีที่เราคิดว่าไม่สำคัญ เช่น ความบันเทิง ความสนุกสนาน สิ่งที่ทำให้เราพอใจต่างๆ
เรามีชีวิตอยู่ในโลกของวิทยาศาสตร์  วิทยาศาสตร์เป็นสิ่งที่ดี มันทำให้เรามีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ยาที่ทันสมัย  แต่เราอาจลืมไปว่าเราอยู่ในโลกฝ่ายจิตวิญญาณด้วย  และโลกฝ่ายจิตวิญญาณนี้เป็นความจริงเช่นเดียวกับโลกทางกายภาพ  และโลกทางจิตวิญญาณนี้ก็มีบางสิ่งที่ดีและบางสิ่งไม่ดีเช่นเดียวกัน
              ช่างโชคร้าย  เรากำลังถูกหันเหให้ออกจากโลกฝ่ายจิตวิญญาณ  เราไม่รู้สึกถึงภัยอันตรายหรือไม่เราก็ไม่สนใจในอันตรายของโลกทางกายภาพเลย  อุปมาเหมือนกับเรากำลังเดินข้ามถนนโดยไม่หันมองทางซ้ายหรือขวาว่ามีรถผ่านมาให้ดีเสียก่อน  และเราขอเตือนคุณให้คุณตระหนักในเวลานี้  เพราะผลลัพท์ที่เกิดในตอนสุดท้ายอาจเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2560

ประกอบพิธีขับไล่ปีศาจในระดับชาติ


Vatican City- ประเทศที่เป็นคริสตชนอย่างเม็กซิโกจะกลายเป็นแหล่งอาศัยของปีศาจได้หรือ? โบสถ์บางแห่งในเม็กซิโกขอให้มีการประกอบพิธีขับไล่ปีศาจในระดับชาติ( nation-wide exorcism of Mexico )และได้ประกอบพิธีนี้อย่างเงียบๆในอาสนวิหารแห่งซานลุยส์โปโตซี( cathedral of San Luis Potosí)
ความรุนแรงที่มากขึ้นอาทิเช่น ยาเสพติดและการทำแท้งในประเทศเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดพิธีกรรมพิเศษที่เรียกว่า “Exorcismo Magno.”
พระคาร์ดินัล Juan Sandoval Íñiguez อัครสังฆราชแห่งกรุงกัวดาลาจาราเป็นประธานในพิธีกรรมประวัติศาสตร์นี้ซึ่งเป็นครั้งแรกของที่นี่  โดยมีพระอัครสังฆราช(Jesús Carlos Cabrero of San Luis Potos) , คุณพ่อ José Antonio Fortea พระสงฆ์ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจชาวสเปน และพระสงฆ์กลุ่มเล็กๆพร้อมด้วยประชาชนบางคนเข้าร่วมในพิธีด้วย
เหตุการณ์นี้ไม่ได้บอกต่อสาธารณชนไว้ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดของผู้คนต่อพิธีกรรมนี้ แต่ประเทศได้กลายเป็นแหล่งชุมนุมและการปฏิบัติการของปีศาจไปได้อย่างไร? จนต้องประกอบพิธี  Exorcismo Magno นี้ขึ้น
คุณพ่อฟอร์ทีกล่าวว่า “บาปหนักที่เพิ่มทวีมากขึ้นในประเทศ ทำให้ปีศาจหลอกลวงประชาชนได้ง่ายขึ้น”
พระสงฆ์ชาวสเปนเตือนว่า “มีบาปมากขึ้น ลัทธิพ่อมดหมอผีและลัทธิซาตานมีมากขึ้นจึงทำให้ปีศาจมีอำนาจมากขึ้นเป็นพิเศษ”
            “จึงมีการประกอบพิธีขับไล่ปีศาจที่ซานลุยส์โปโตซีเป็นครั้งแรกในเม็กซิโก โดยที่ผู้ประกอบพิธีมาจากประเทศอื่น เพื่อขับไล่อำนาจของความมืดมิดซึ่งครอบงำไม่ใช่อยู่ในคนใดคนหนึ่ง แต่อยู่ในประเทศทั้งประเทศเลย”