พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2567

วิธีกำจัดบาป


คุณพ่อบอสโก,หลังจากที่เล่าเรื่องพระเยซูทรงรักษาคนโรคเรื้อนให้หายแล้ว,ท่านได้แสดงความคิดเห็นดังนี้ 

“ตอนนี้, ลูกที่รัก, จงฟังความหมายของเรื่องนี้ โรคเรื้อนคือภาพลักษณ์ของบาป บาปซึ่งทำให้วิญญาณของเราน่ารังเกียจจนพระเจ้าไม่ทรงทอดพระเนตรว่าเราเป็นของพระองค์อีกต่อไป พระองค์ต้องเนรเทศเรา, แยกเราออกจากลูกคนอื่นๆของพระองค์ วิญญาณที่อยู่ในบาปหนักนั้นน่าขยะแขยงและน่าสะพรึงกลัวในสายพระเนตรของพระองค์จริงๆ แล้วเราจะหลุดพ้นจากโรคเรื้อนนี้ได้อย่างไร “จงไปแสดงตัวต่อสมณะเถิด” พระเยซูเจ้าตรัส ถ้าเราประสงค์จะพ้นจากบาปและหายจากโรคนี้ โรคร้ายที่น่ารังเกียจที่สุดในวิญญาณ เราต้องไปหาพระสงฆ์ซึ่งพระเจ้าประทานอำนาจการชำระล้างวิญญาณให้สะอาด พระเยซูเจ้าจะตรัสกับชายผู้นั้นแต่เพียงว่า "จงหายเถิด" โดยไม่บอกให้เขาไปแสดงตัวต่อสมณะด้วยไม่ได้หรือ? ได้อย่างแน่นอน , แต่พระองค์มิได้ทำเช่นนั้น,เพื่อแสดงให้เราเห็นว่าถึงแม้พระองค์จะสามารถอภัยบาปแก่เราได้โดยที่เราไม่ต้องไปพบพระสงฆ์,แต่พระองค์ก็ไม่ทรงทำเช่นนั้นเว้นแต่เราจะไปหาพระสงฆ์และสารภาพบาปของเราอย่างจริงใจ . พ่อขอรับรองกับลูกว่าถ้าลูกต้องการกำจัดบาปของลูก วิธีเดียวคือการไปสารภาพบาป พระเจ้าจะทรงอภัยบาปใดๆให้กับลูก ตราบเท่าที่ลูกเป็นทุกข์ถึงบาปอย่างสมบูรณ์และสารภาพอย่างถ่อมใจต่อพระสงฆ์ที่พระองค์ทรงแต่งตั้งไว้” 
ที่มา: Don Bosco Horror of Sin   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น