พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2024 สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์

           พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีให้มนุษย์ทั้งปวง ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น ผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินลงโทษ ผู้ที่เชื่อจะทำอัศจรรย์เหล่านี้ได้ คือจะขับไล่ปีศาจในนามของเรา จะพูดภาษาใหม่ ๆ ได้ จะจับงูได้ และถ้าดื่มยาพิษก็จะไม่ได้รับอันตราย เขาจะปกมือเหนือคนเจ็บ คนเจ็บเหล่านั้นก็จะหายจากโรคภัย” เมื่อพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้แล้ว พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นสู่สวรรค์ ให้ประทับ ณ เบื้องขวา บรรดาศิษย์ก็แยกย้ายกันออกไปเทศนาสั่งสอนทั่วทุกแห่งหน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำงานร่วมกับเขา และทรงรับรองคำสั่งสอนโดยอัศจรรย์ที่ติดตามมา
(มาระโก 16:15-20)








วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

วันฉลองมรณสักขีรุ่นแรกแห่งกรุงโรม

                "พระเจ้าข้า, ข้าพเจ้าทั้งหลายขอถวายผลแรกแห่งพระศาสนจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยโลหิตแห่งมรณสักขี ข้าพเจ้าทั้งหลายวอนขอต่อพระองค์ โดยอาศัยความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของบรรดามรณสักขีเหล่านี้, ขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลายมีความเข้มแข็งต่อการเบียดเบียนและต่ออุปสรรคในชีวิตและได้ชื่นชมยินดีในชัยชนะของผู้สัตย์ซื่อในความรักต่อพระองค์ ข้าพเจ้าวอนขอทั้งนี้, โดยอาศัยพระเยซูคริสตเจ้า, องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย, พระบุตรของพระองค์, ผู้ทรงดำรงชีพและเสวยราชย์ร่วมกับพระองค์, พร้อมกับพระจิต, พระเจ้าหนึ่งเดียวเป็นนิจกาล"
                – รูปภาพของบรรดามรณสักขีกำลังเดินเข้าสู่ลานกีฬาโคโลเซี่ยม  และคำภาวนาเนื่องในวันฉลองบรรดามรณสักขีรุ่นแรกของพระศาสนจักรแห่งกรุงโรม (30 มิถุนายน) ภาพนี้วาดโดย Léon-François Benouville เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1855 เวลานี้ถูกตั้งแสดงใน Musée d'Orsay ในกรุงปารีส ผมรู้สึกประทับใจกับภาพวาดนี้มาก และยืนอยู่ต่อหน้ามันสักครู่เพื่อไตร่ตรองถึงความเข้มแข็งของมรณสักขีผู้ยอมพลีชีพของตนเพื่อยืนยันความเชื่อต่อพระเยซูเจ้า และคิดถึงความกล้าหาญและความรักความเมตตาที่พวกเราต้องมีในฐานะคริสตชนที่อยู่ในโลกนี้ ซึ่งบ่อยครั้งได้รับการเบียดเบียนเนื่องจากพระวรสาร

วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

พระศาสนจักรกับประสบการณ์ใกล้ตาย

ข้าพเจ้าเองก็ไม่สามารถบอกคุณถึงความสุขและความอภิรมย์ยินดีที่หวานชื่นที่ข้าพเจ้าได้มีประสบการณ์ณ.ที่นั้น
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

คุณพ่อบอสโกพูดกับเยาวชนเกี่ยวกับพระแม่มารีย์


เมื่อใดก็ตามที่ลูกต้องการได้รับพระหรรษทาน ให้ลูกสวดภาวนาซ้ำๆหลายครั้งว่า: "พระแม่มารีย์องค์อุปถัมภ์ของคริสตชน, โปรดภาวนาเพื่อเราเทอญ”
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

แม่พระช่วยชายหนุ่มให้รอดพ้นจากปีศาจ

“ผู้ใดก็ตามเสียชีวิตขณะที่สวมเสื้อจำพวกนี้ จะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานในไฟนิรันดรเป็นอันขาด เสื้อจำพวกนี้เป็นเครื่องหมายแห่งความรอด เป็นเครื่องป้องกันในยามอันตราย เป็นคำสัญญาแห่งการปกป้องพิเศษ”
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ความลับในกิจการงานของนักบุญโดมินิก


           นักบุญโดมินิกมีความกระตือรือร้นอย่างมากในภารปฏิบัติกิจการอภิบาลประชาชนของท่าน อะไรคือความลับที่ทำให้ท่านทำสิ่งต่างๆเหล่านั้นได้สำเร็จ? เช่น ความกระตือรือร้นในการศึกษา, การสวดภาวนาอย่างดื่มด่ำ, การเทศนศ์สอนอย่างร้อนรน, การริเริ่มกิจการทุกด้านของชีวิตพระสงฆ์นักบวชในคณะของท่าน, การทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันในการต่อสู้กับเฮเรติกในเวลานั้น, และความศรัทธาอันแรงกล้าของท่านต่อพระแม่มารีย์ กิจการต่างๆเหล่านี้ได้เป็นแสงสว่างให้แก่พระศาสนจักรในสมัยต่อๆมาจนถึงปัจจุบันนี้
            นักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขนกล่าวว่า “มีคนเพียงไม่กี่คนที่สามารถบรรลุถึงระดับดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม, มีบางคนที่ประสบความสำเร็จ, โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่คุณธรรมและจิตวิญญาณของเขาถูกส่งต่อไปยังบรรดาลูกศิษย์ของเขา พระเจ้าทรงประทานผู้ที่เป็นหัวหน้าครอบครัวและทำให้บังเกิดผลแรกแห่งจิตวิญญาณของเขา, ทรงประทานคลังสมบัติและเกียรติอันสง่างามแก่เขา โดยทรงประทานลูกศิษย์, ผู้ซึ่งยอมรับกฎระเบียบและจิตวิญญาณของเขาไว้, ให้มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ”

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

พระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์แห่งลุกกา

              นักวิทยาศาสตร์จากสถาบัน National Institute for Nuclear Physics ในเมืองฟลอเรนส์ของอิตาลี ได้ใช้การตรวจอายุของวัตถุด้วยคาร์บอนกัมมันตรังสี (radiocarbon) กับรูปแกะสลักไม้กางเขนซึ่งมีพระเยซูถูกตรึงอยู่ และพบว่ามีอายุระหว่างปี ค.ศ. 770 ถึง 880
              การศึกษานี้จัดทำโดยทางอาสนวิหารแห่งลุกกา(Cathedral of Lucca) ในโอกาสครบรอบ 950 ปีของอาสนวิหาร ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 รูปแกะสลักไม้กางเขนนี้มีชื่อว่า “Holy Face of Lucca,” ผู้คนทั่วยุโรปในยุคกลางมีความศรัทธาในพระรูปนี้ ผู้แสวงบุญจะหยุดอยู่ที่กำแพงเมืองทัสคานี ระหว่างการเดินทางจากเมืองแคนตาเบอรีไปยังกรุงโรม
             การศึกษาทางวิทยาศาสตร์นี้ได้ยืนยันในประวัติศาสตร์และธรรมประเพณีคาทอลิกที่กล่าวว่า ไม้กางเขนได้มาถึงเมืองลุกกาตอนปลายศตวรรษที่ 8 มีความเชื่อว่าพระรูปนี้ถูกแกะสลักโดยนิโคเดมัส
             รูปแกะสลักไม้กางเขนมีอายุไม่ต่ำกว่า 1,140 ปี ปัจจุบันอยู่ที่อาสนวิหารลุกกาแห่งเซนต์มาร์ติน(the Lucca Cathedral of St. Martin)

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

นักบุญเอลิซาเบธ แห่งพระตรีเอกภาพ


อลิซาเบธได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากมายจากนักบุญเทเรซาแห่งลิซิเออร์ โดยเฉพาะจากข้อเขียนของนักบุญเทเรซา
>>>อ่านต่อ