พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2024 สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์

           พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีให้มนุษย์ทั้งปวง ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น ผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินลงโทษ ผู้ที่เชื่อจะทำอัศจรรย์เหล่านี้ได้ คือจะขับไล่ปีศาจในนามของเรา จะพูดภาษาใหม่ ๆ ได้ จะจับงูได้ และถ้าดื่มยาพิษก็จะไม่ได้รับอันตราย เขาจะปกมือเหนือคนเจ็บ คนเจ็บเหล่านั้นก็จะหายจากโรคภัย” เมื่อพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้แล้ว พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นสู่สวรรค์ ให้ประทับ ณ เบื้องขวา บรรดาศิษย์ก็แยกย้ายกันออกไปเทศนาสั่งสอนทั่วทุกแห่งหน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำงานร่วมกับเขา และทรงรับรองคำสั่งสอนโดยอัศจรรย์ที่ติดตามมา
(มาระโก 16:15-20)








วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2564

ดวงพระทัยของพระเยซูเจัา


ในช่วงเวลาที่ประสบกับความยากลำบาก สายตาของดิฉันจะจับจ้องที่ดวงพระทัยของพระเยซูเจ้าผู้ทรงประทับอยู่บนไม้กางเขนในความเงียบสงบ และจากเปลวไฟที่เปล่งออกมาจากดวงพระทัยอันเมตตาของพระองค์ จะหลั่งพละกำลังและความเข้มแข็งมายังดิฉันซึ่งจะช่วยให้ดิฉันสามารถต่อสู้ได้ต่อไป” --นักบุญโฟสตินา
 

วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2564

น้ำหนักของพิธีมิสซา


ความเชื่อไม่ได้ขึ้นอยู่กับอัศจรรย์ และปรากฏการณ์เหล่านี้จะไม่มีวันอธิบายได้อย่างน่าพอใจ แต่สามารถทำหน้าที่ย้ำเตือนจิตใจของเราในเวลาที่ความเชื่อถดถอยได้
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2564

อัศจรรย์ศีลมหาสนิทและพระสันตปาปาเกรโกรี่


ความเชื่อไม่ได้ขึ้นอยู่กับอัศจรรย์ และปรากฏการณ์เหล่านี้จะไม่มีวันอธิบายได้อย่างน่าพอใจ แต่สามารถทำหน้าที่ย้ำเตือนจิตใจของเราในเวลาที่ความเชื่อถดถอยได้
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2564

แม่พระทรงรับความทุกข์อย่างสงบเพียงลำพัง


“ด้วยการสวดสายประคำแม่พระระทมทุกข์เจ็ดประการ,ดวงใจที่แข็งกระด้างที่สุดจะเปลี่ยนไป เมื่อลูกสวดภาวนาเพื่อตัวลูกเองหรือเพื่อผู้อื่น”
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2564

พระจิตศักดิ์สิทธิ์


ธรรมชาติของไฟมีอยู่สี่อย่างคือ เผาไหม้,ทำความสะอาด,ให้ความอบอุ่น,และให้แสงสว่าง
เช่นเดียวกัน พระจิตศักดิ์สิทธิ์ก็ทรงเผาไหม้บาปให้หมดสิ้นไป ทรงทำความสะอาดจิตใจให้บริสุทธิ์ ทำลายความเกียจคร้านและส่องสว่างให้แก่ความโง่เขลา
 
- - นักบุญอันตนแห่งปาดัว
 

วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2564

คำแนะนำจากนักบุญอันตน


"การกระทำส่งเสียงดังกว่าคำพูด" ขอให้วาจาของท่านจงสั่งสอนและการกระทำของท่านจงพูดส่งเสียง จงอย่าให้ภายในตัวของเราเต็มไปด้วยวาจามากมายแต่การกระทำของเรากลับว่างเปล่า เพราะมิฉะนั้นพระเป็นเจ้าจะไม่ทรงอวยพระพรแต่จะกลับทรงสาปแช่งเรา ดังเช่นที่พระองค์ทรงสาปแช่งต้นมะเดื่อ ยามเมื่อเสด็จมาพบว่ามันมีแต่ใบไม่มีผล. เป็นการเปล่าประโยชน์สำหรับคนที่โอ้อวดความรอบรู้ในบทบัญญัติต่างๆ แต่กลับทำลายสิ่งที่เขาสอนนั้นด้วยการกระทำของเขาเอง
- นักบุญอันตนแห่งปาดัว

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2564