พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2024 สมโภชพระจิตเจ้า

           ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้บรรดาศิษย์ดูพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกาย เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็มีความยินดี พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น”
           ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย”
(ยอห์น 20:19-23)








วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2566

คริสตชนทุกนิกายจะรวมกัน


11 ตุลาคม 2504: การาบังดัล
คำชี้แจงครั้งแรกของการเปิดเผยที่สำคัญของวันที่ 1 ตุลาคม 1961: 
อนาคตของ "การเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์ของคริสตชนทุกคนนิกาย" 
การสนทนาระหว่างคุณพ่อหลุยส์(Father Luis)กับผู้เห็นแม่พระแห่งการาบังดัล ดูเหมือนว่าสำหรับเราแล้วจะเป็นไปในเชิงบวกสำหรับคริสตชนเสมอ เนื่องในวันสมโภชพระนางมารีย์พระชนนีของพระเจ้า,คุณพ่อหลุยส์และคอนชิตาพูดถึงคำทำนายพิเศษนี้ซึ่งแม่พระทรงเปิดเผยบางส่วนแล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา: "อา คริสตจักรต่างๆจะกลับมารวมกันอีกครั้ง . . . ใช่ค่ะ,พวกเขาจะกลับมารวมกันอีกครั้ง! . . " คอนชิตารู้สึกยินดีกับการลงข่าวคำทำนายนี้ ในเดือนพฤศจิกายน 1965 เธอได้พูดมาแล้วหลายครั้งนับตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 1961 เธอได้ยืนยันความถูกต้องของการเปิดเผยอันยิ่งใหญ่นั้นต่อบรรณาธิการชาวเยอรมัน อัลเบรชท์ เวเบอร์ เธอยังชี้แจงถึงสิ่งที่พระแม่มารีย์ทรงบอกเธอเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งใหญ่ของพระศาสนจักรที่จะมาถึง 
“พระนาง (แม่พระ) บอกเราอีกครั้งว่าคริสตจักรที่แตกแยกจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง จะมี 'ศาสนา' เพียงหนึ่งเดียว คำแปลที่ดีกว่า: "คริสตจักรคริสเตียนจะเป็นหนึ่งเดียวในพระศาสนจักรคาทอลิก" เมื่อพิจารณาถึงการเปิดเผยเชิงพยากรณ์ดังกล่าว ความหมายและขอบเขตของ "พระศาสนจักรหนึ่งเดียว สากล(คาทอลิก),สืบเนื่องมาจากอัครสาวก, และพระศาสนจักรแห่งโรมัน" ที่บรรดาผู้เห็นแม่พระแห่งการาบังดัลประกาศด้วยความปีติยินดีเป็นครั้งแรกในวันที่ 1 สิงหาคม 1961 ในขณะที่พวกเขาอยู่ในญาณนิมิตและกำลังสวดบทข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้า 
นำมาจากหนังสือ 'Garabandal', J. Serre, หน้า 107

วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566

หอบาเบลแห่งยุคปัจจุบัน


เราเข้าสู่การต่อสู้ขั้นเด็ดขาดกับมังกรแดงแห่งพระวิวรณ์เพื่อพิชิตความคิดสัมพัทธภาพและความจริงเชิงอัตวิสัยด้วยพระหรรษทานของพระเจ้า
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2566

วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2566

พระเมตตาของพระเยซูเจ้า


พระเยซูตรัสกับวิญญาณที่สิ้นหวัง 
พระเยซู: โอ วิญญาณที่จมอยู่ในความมืด … . จงมาและวางใจในพระเจ้าของเจ้า,ผู้ทรงเป็นความรักและพระเมตตาเถิด 
- แต่วิญญาณ,ที่หูหนวกแม้แต่คำวิงวอนนี้, เขากลับห่อหุ้มตัวเองอยู่ในความมืด 
พระเยซูทรงร้องอีกครั้งว่า ลูกเอ๋ย,จงฟังเสียงของพระบิดาผู้เปี่ยมด้วยพระเมตตาเถิด 
— แต่วิญญาณตอบด้วยคำนี้: “สำหรับข้าพเจ้าไม่มีความเมตตา” ทำให้วิญญาณตกอยู่ในความมืดที่ยิ่งใหญ่กว่า … . 
พระเยซูทรงเรียกวิญญาณนี้เป็นครั้งที่สาม,แต่วิญญาณยังคงหูหนวก, ตาบอด, ใจแข็งกระด้างและสิ้นหวัง จากนั้นพระเมตตาของพระเจ้าก็เริ่มแสดงออก, และ,โดยปราศจากความร่วมมือใดๆจากวิญญาณ,พระเจ้าก็ประทานพระหรรษทานสุดท้ายแก่วิญญาณ … วิญญาณรู้ดีว่าสิ่งนี้สำหรับเธอคือพระหรรษทานสุดท้าย,และหากแสดงความปรารถนาดีเพียงเล็กน้อย,พระเมตตาของพระเจ้าก็จะบรรลุผลในส่วนที่เหลือ 
พระเมตตาที่ทรงฤทธานุภาพทุกประการของเราซึ่งสัมฤทธิ์ผล,อยู่ที่นี่แล้ว,วิญญาณที่ใช้ประโยชน์จากพระหรรษทานนี้ก็เป็นสุข (ไดอารี่, 1486) 

วันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2566

วันพุธที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2566

มอบของขวัญอะไรให้พระกุมารเยซูดี


นักบุญเจอโรม (347-420) เป็นพระสงฆฆ์ชาวดัลเมเชียน,ท่านเป็นนักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่และเป็นนักปราชญ์ของพระศาสนจักร ท่านเป็นผู้แปลพระคัมภีร์จากภาษากรีกเป็นภาษาละตินคนแรก 
นักบุญเจอโรม พักอาศัยอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งในเมืองเบธเลเฮมใกล้กับสถานที่ประสูติของพระเยซู ครั้งหนึ่ง,ในคืนวันคริสต์มาส,ท่านกำลังนั่งพิจารณาไตร่ตรองเกี่ยวกับการประสูติของพระเยซู และคิดว่าเขาจะมอบของขวัญอะไรให้กับพระเยซูได้ ทันใดนั้นเขาก็มีนิมิต 
พระเยซูกุมารทรงปรากฏต่อหน้าเขา,ท่ามกลางแสงที่เจิดจ้าและสุกใสและถามเขาว่า “เจอโรม ท่านจะมอบอะไรเป็นของขวัญวันเกิดแก่เรา? "
นักบุญเจอโรมตอบในญาณนิมิตนั้น “โอ พระกุมารแห่งสวรรค์, ข้าพเจ้าขอมอบหัวใจของข้าพเจ้าให้กับพระองค์” “ใช่ แต่มอบสิ่งอื่นอีกสิ” พระเยซูกุมารทรงร้องขอ “ข้าพเจ้าขอมอบคำภาวนาและความรักแห่งหัวใจของข้าพเจ้าทั้งหมดแก่พระองค์” นักบุญตอบ 
พระกุมารศักดิ์สิทธิ์ทรงร้องขอมากขึ้นและมากขึ้น 
ในที่สุด นักบุญเจอโรมกล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะมอบทุกสิ่งที่ข้าพเจ้ามีและทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าเป็น” 
ถึงกระนั้น, พระเยซูกุมารก็ยังทรงต้องการมากกว่านี้ ตอนนี้นักบุญเจอโรมไม่มีคำตอบ เขาจึงถามว่า “ข้าแต่พระกุมารผู้ศักดิ์สิทธิ์ ข้าพเจ้าไม่มีอะไรอีกแล้ว ข้าพเจ้าจะมอบอะไรแด่พระองค์ได้อีกหรือ” 
พระเยซูกุมารทรงตอบด้วยรอยยิ้มบนพระพักตร์ของพระองค์ว่า “เจอโรม, จงมอบบาปของท่านแก่เรา” 
นักบุญเจอโรมค่อนข้างงุนงงจึงถามว่า “พระเจ้าข้า พระองค์จะทรงทำอะไรกับบาปของข้าพเจ้า?” 
“จงมอบบาปของท่านแก่เรา เพื่อเราจะได้อภัยบาปทั้งหมดของท่าน” พระกุมารตรัสตอบ เมื่อได้ยินดังนี้ นักบุญเจอโรมก็ร้องไห้ด้วยความยินดีและความรักต่อพระเยซูผู้เปี่ยมด้วยความรัก 

วันอังคารที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566

สาส์นจากแม่พระแห่งกัวดาลูเป

               สาส์นที่สนับสนุนชีวิต(Pro-Life)สำหรับปัจจุบันนี้จากแม่พระแห่งกัวดาลูเป 
ภาพแม่พระแห่งกัวดาลูเปที่มีชื่อเสียงระดับโลกเกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์บนผืนผ้าที่ทอด้วยเส้นใยจากต้นกระบองเพชรหรือเสื้อคลุม "agave" (tilma ทิลมา) ของชาวนาชาวเม็กซิกันในปี 1531 และทำให้เกิดการกลับใจของชาวอินเดียนแดงสิบสองล้านคน ปัจจุบันได้รับการเคารพเทิดทูนว่าเป็นสัญลักษณ์ของ "การสนับสนุนชีวิต"(pro-life) ในทวีปอเมริกา 
เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2007 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่รัฐสภาออกกฏหมายให้การทำแท้งเป็นสิ่งถูกกฎหมายในเม็กซิโก, หลังจากที่พิธีมิสซาสำหรับทารกในครรภ์ที่ไม่ได้ถือกำเนิดในมหาวิหารซึ่งมีพระรูปแม่พระแห่งกัวดาลูเปอัศจรรย์ประดิษฐานอยู่ ทันใดนั้น,แสงที่เจิดจ้ามากก็ปรากฏขึ้นบนทิลมา, ในตำแหน่งระดับพระครรภ์ แสงปรากฏเป็นรัศมีแวววาว เป็นรูปคล้ายทารกวัยเริ่มแรกในครรภ์มารดา ผู้เชี่ยวชาญให้การเป็นพยานว่านี่ไม่ใช่ภาพสะท้อนหรือสิ่งที่ทำเพิ่มเติมเข้ามา แต่มาจากทิลมาและอยู่ในตำแหน่งที่แน่นอนของมดลูกของผู้หญิง พยานสามารถถ่ายรูปและบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้หนึ่งชั่วโมงเต็ม 
คุณพ่อหลุยส์ มาตอส Father Luis Matos) แห่งชุมชน the Beatitudes Community เขียนว่า: 
“วิศวกร หลุยส์ จิโรลต์ (Luis Girault)ผู้ศึกษาภาพหนึ่งของรูปถ่ายที่มีแสงนี้,ได้ยืนยันความน่าเชื่อถือของแสง และสามารถระบุได้ว่าแสงนั้นไม่ได้ถูกการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงด้วยการซ้อนทับของภาพอื่น เขาได้ค้นพบว่าภาพนั้นไม่ได้เกิดจากการสะท้อนกลับแต่แท้จริงแล้วมาจากด้านในของพระรูปแม่พระนั่นเอง แสงที่ได้จะขาวมาก,บริสุทธิ์และเข้มข้น ต่างจากแสงที่ส่องมาจากแฟลชของกล้องถ่ายภาพ แสงมีรัศมีล้อมรอบคล้ายลอยอยู่ในท้องของแม่พระ รัศมีนี้มีรูปร่างและสัดส่วนเหมือนทารกวัยอ่อน ถ้าจะพิจารณาภาพนี้ให้ละเอียดยิ่งขึ้นโดยหมุนเป็นระนาบซากิทัล(sagittal plane) ก็จะสามารถแยกแยะภายใน halo ภายในบริเวณรัศมีได้ โดยมีลักษณะเป็นตัวอ่อนมนุษย์(human embryo)ในครรภ์มารดา”