พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2024 สมโภชพระจิตเจ้า

           ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้บรรดาศิษย์ดูพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกาย เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็มีความยินดี พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น”
           ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย”
(ยอห์น 20:19-23)








วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2567

วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2567

นักบุญยอแซฟองค์อุปถัมภ์ของผู้ใกล้ตาย


คริสตชนต้องการผู้พิทักษ์ที่ทรงพลัง ซึ่งจะปกป้องและเสริมกำลังเขาจากอันตรายของการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2567

เหตุที่พระเจ้าอนุญาติให้มีความทุกข์

พระเจ้าในความดีและพระเมตตาของพระองค์,ในพระญาณเอื้ออาทรของพระองค์,ทรงอนุญาติให้มีความทุกข์และความชั่วเกิดขึ้น เพื่อที่ความดีอันยิ่งใหญ่จะสามารถเกิดมาจากสิ่งนั้นได้ นี่เป็นคำสอนของพระศาสนจักรเอง ในคำสอนของพระศาสนจักร,ในข้อความที่ 4.12 “พระเจ้าทรงอนุญาตให้มีความชั่ว เพื่อที่ความดีอันยิ่งใหญ่บางอย่างจะออกมา” และข้อคำสอนของพระศาสนจักรที่ 3.11 กล่าวถึงคำพูดของนักบุญออกัสติน “พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ,เพราะพระองค์ทรงเป็นองค์ความดีสูงสุด,จะไม่ทรงอนุญาติให้ความชั่ว,ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม,ปรากฏอยู่ในกิจการงานใดๆของพระองค์ ถ้าหากมิใช่เพราะพระองค์ทรงฤทธานุภาพทุกประการและทรงความดีทุกประการที่สามารถทำให้ความดีออกมาจากความชั่วได้” ลองคิดดูซิว่า ความชั่วที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ นั่นก็คือการประหารชีวิตพระเยซูเจ้า พระเจ้าทรงอนุญาตให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเพื่อที่ความดีอันยิ่งใหญ่จะออกมาจากมัน นั่นก็คือการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูคริสต์ ,ซึ่งให้ความหวังแก่เราในการมีชีวิตนิรันดรงในอาณาจักรสวรรค์ 

วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2567

ศีลมหาสนิทเป็นของขวัญจากพระเยซูเจ้า

Fr.Jewel Aytona, CPM 
ความศรัทธาแท้จริงต่อพระนางมารีย์ จะนำเราไปสู่ศีลมหาสนิทเสมอ สิ่งสำคัญที่สุดที่อยากจะแสดงต่อคุณก็คือ ถ้าคุณต้องการให้มีอัศจรรย์ในชีวิตของคุณ,ก็ให้ถวายความตั้งใจนั้นต่อศีลมหาสนิท ถ้าคุณรู้จักบางคนที่สูญเสียความเชื่อ อาจเป็นคนในครอบครัวของคุณ ,เพื่อนของคุณ ที่ไม่ไปโบสถ์อีกต่อไป อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อพวกเขาเพื่อทำให้พวกเขากลับมาสู่เส้นทางสู่สวรรค์ ให้คุณสวดภาวนาเบื้องหน้าศีลมหาสนิทในเวลาเคารพศีลมหาสนิท เพื่อขอให้พวกเขากลับใจจากบาป ถ้าคุณอยากให้คู่สมรสของคุณและบรรดาลูกๆของคุณให้กลายเป็นนักบุญ วิธีใดที่ดีที่สุดที่จะช่วยพวกเขาตามความตั้งใจนี้ ให้คุณอุทิศชีวิตของคุณแด่ศีลมหาสนิท เพราะศีลมหาสนิทเป็นของขวัญที่ประเสริฐที่สุด ,ยิ่งใหญ่ที่สุด, ที่พระเจ้าทรงประทานแก่เราในฐานะที่เราเป็นคาทอลิก เพราะศีลมหาสนิทคือพระเยซูเจ้าเอง คุณแม่เทเราซาเคยพูดว่า ไม่มีช่วงเวลาใดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกนี้,ที่คุณจะรู้สึกถึงความรักยิ่งกว่า,ไม่มีช่วงเวลาใดบนโลกนี้ที่คุณจะรู้สึกได้รับการต้อนรับยิ่งกว่า,มากไปกว่าช่วงเวลาที่คุณอยู่ต่อหน้าพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท 

วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2567

Host , Communion , Eucharist

พระเยซูตรัสว่า ถ้าท่านไม่กินเนื้อของเราและดื่มโลหิตของเรา ท่านจะไม่มีชีวิตในตัวของท่านเลย ศีลมหาสนิทคืออะไร? มีคำที่ใช้เรียกในภาษาอังกฤษหลายแบบได้แก่ Host , Communion , Eucharist ทำไมจึงเรียกเช่นนี้? คำว่า Host มาจากภาษาอิตาลีว่า Hostia หมายถึง victim เหยื่อ,ผู้รับเคราะห์ ดังเช่นในเพลง O salutaris hostia (โอศีลบูชามหาสนิท) แปลได้ว่า โอ เหยื่อผู้ช่วยให้รอด พระเยซูทรงมอบชีวิตของพระองค์เองเพื่อพวกเรา ทรงเป็นลูกแกะของพระเจ้า ที่ทำให้เราได้รับชีวิต เพราะพระองค์ทรงตัดสินพระทัยที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับเรา Communion with us เช่นเดียวกับการแต่งงานที่ทำให้คนสองคนเป็นเนื้อเดียวกันเป็นคนเดียวกัน พระเยซูก็ทรงตัดสินพระทัยที่จะเป็นเนื้อเดียวกันกับเรา พระองค์ประสงค์ที่จะสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับเราอย่างสมบูรณ์ คำว่า Eucharist เป็นคำที่มาจากภาษากรีก หมายถึง ขอบคุณ และเราจะต้องขอบคุณพระเยซูมากสักเพียงไร เพราะเหยื่อผู้ช่วยให้รอดพระองค์นี้,ปรารถนาที่จะเป็นหนึ่งเดียวกันกับเรา ให้เรามอบทุกสิ่งแก่พระองค์ 

วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2567

ปีศาจล่อลวงเราอย่างไร

โดย-Fr.Jewel Aytona, CPM 
มีผู้หนึ่งที่ไม่ต้องการให้เราไปสวรรค์,นั่นคือซาตาน และเช่นเดียวกับกลอุบายที่มันใช้กับอาดัมและเอวาในปฐมกาล พ่อรับรองได้ว่าซาตานก็จะล่อลวงคุณด้วย และพ่อขอบอกบางอย่างเกี่ยวกับปีศาจ มันจะให้คำสัญญามากเกินกว่าที่มันสามารถให้ได้เสมอ มันจะล่อลวงเราให้ทำบางอย่างที่ตรงข้ามกับพระบัญญัติของพระเจ้า และถ้าเราทำตามมัน,มันก็จะกล่าวหาเรา มันจะพูดว่า เจ้าเรียกตัวเองว่าเป็นคาทอลิก และนี่หรือคือสิ่งที่เจ้าทำกับพระเจ้า นี่หรือคือสิ่งที่เจ้าทำกับเพื่อนมนุษย์ของเจ้า มันล่อลวงเราให้เสียกำลังใจและเกิดความสิ้นหวังอย่างยิ่งยวด นี่คือวิธีการทำงานของมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันล่อลวงเรา สังเกตว่ามันล่อลวงเราในสิ่งที่ทำให้เรามีความพึงพอใจในประสาทสัมผัสของเรา มันสามารถอ่านจิตใจของเราได้ มันไม่ใช่พระเจ้า มันสามารถรู้สิ่งที่อยู่ภายนอก อย่างเช่น ถ้าเราติดใจในอาหารบางอย่างหรือคนบางคนเป็นพิเศษ ปีศาจก็จะขยายความอ่อนแอของเราให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และมันจะทำให้เรามั่นใจว่าบาปนี้เป็นสิ่งที่ดี มันดีสำหรับเรา ดังนั้น,ก็จะมีความดีในบาปเสมอ เพราะถ้าไม่มีสิ่งที่ดีหรือสิ่งน่าพึงพอใจ,เราก็คงจะไม่ทำสิ่งนั้น ดังนั้นถ้าไม่มีสิ่งน่าพึงพอใจสำหรับตาและประสาทสัมผัส สิ่งนั้นไม่ใช่การล่อลวงมากนัก