พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2567

พระคัมภีร์และธรรมประเพณี


ข้าพเจ้ายอห์น มองเห็นเยรูซาเล็มใหม่ งดงามดุจเจ้าสาว ลอยลงมาจากสวรรค์
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2567

วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2567

กางเขนกับชีวิตคริสตชน


บุญราศีฟูลตัน ชีน 
"ถ้าปราศจากกางเขนในชีวิตของเรา เราก็ไม่มีการกลับคืนชีพ กฎแห่งชีวิตของคริสตชนคือ เราต้องตายเพื่อที่จะมีชีวิต ข้าพเจ้าไม่ได้หมายถึงความตายทางร่างกาย เรามีการพลีกรรมซึ่งก็คือการปฏิเสธตนเอง เป็นการนำกางเขนมาใช้ในชีวิตของเรา ถ้าเราไม่ปฏิเสธตนเอง เราก็ไม่สามารถอยู่กับพระองค์ได้ พวกเราไม่ชอบกางเขนในชีวิตของเรา อันที่จริงเราพยายามที่จะหลีกหนีกางเขน ตามที่ข้าพเจ้าได้เคยบอกกับท่าน ปีศาจพยายามล่อลวงเราให้หลีกหนีการพลีกรรม,หลีกหนีกางเขน,การสำนึกผิดและชดเชยใช้โทษบาป แต่สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตคริสตชน จำไว้ว่าการเป็นคริสตชนไม่ใช่เรื่องง่าย"   

วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567

ศาสนาจารย์โปรเตสแตนต์


ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 1858, ดร. ฮูโก แลมเมอร์(Dr. Hugo Lammer) นักศาสนศาสตร์นิกายโปรเตสแตนต์ผู้รอบรู้แห่งแบรนสเบิร์ก,เยอรมนี, ได้ยอมรับความเชื่อคาทอลิก หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้บวชเป็นพระสงฆ์ และในปี 1883 ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ด้านเทววิทยาในเมืองเบรสเลา(Breslau) สาเหตุของการกลับใจจะเล่าโดยย่อดังนี้ 
วันหนึ่งเขาได้อ่านคำอธิบายเกี่ยวกับบทภาวนาวันทามารีย์และรู้สึกพึงพอใจมากจนทำให้เขาเริ่มสวดภาวนาบทนี้ทุกวัน นี่คือคำพูดของเขาเอง: 
"ผมเริ่มสวดภาวนาบทวันทามารีย์อันไพเราะ และได้อธิษฐานวอนขอความช่วยเหลืออันทรงพลังของพระนางมารีย์เพื่อให้ผมเข้าสู่พระศาสนจักรที่แท้จริงโดยเร็ว ความอวดดีทางปัญญาได้ดึงรั้งผมไว้ และในที่พักอาศัยอันโดดเดี่ยวของผม,ผมได้คุกเข่าลงเบื้องหน้าไม้กางเขน ผมต่อสู้,ด้วยน้ำตาที่ไหล,มีการสู้รบภายในหลายครั้ง พระนางมารีย์ทรงขับไล่ความหลงผิดทั้งหมด และต่อมา,ผมได้เคาะประตูพระศาสนจักรที่แท้จริง ผมสามารถพูดด้วยความเชื่อมั่นยิ่งใหญ่ที่สุดว่าผมเชื่อในหลักคำสอนทุกประการของศาสนาคาทอลิก” 
ที่มา: How To Be Happy How To Be Holy 

วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2567

วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2567

เบลเซบุลกลัวพระนางมารีย์


ต่อหน้าพระนางมารีย์, แม้แต่ปีศาจที่มีอันดับสูงสุดก็ยังสูญเสียความกล้าโดยสิ้นเชิง
>>>อ่านต่อ

วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2567

พระธรรมเก่า-พระธรรมใหม่


ในพระธรรมเก่า,แกะที่ถูกนำมาถวายเป็นยัญบูชาแด่พระเจ้าจะต้องถูกตรวจสอบโดยหัวหน้าสมณะและตัองถูกตัดสินว่ามีสภาพดีไม่มีตำหนิ(อพยพ 12.5) 

ในพระธรรมใหม่,กายฟาสผู้เป็นหัวหน้าสมณะเป็นผู้ตรวจสอบพระเยซูเจ้า และเขากล่าวหาพระเยซูเจ้าว่าพูดดูหมิ่นพระเจ้า(มท26.25) เขาส่งพระเยซูเจ้าไปให้ปิลาตเป็นผู้ตัดสิน 

และปิลาต,หลังจากตรวจสอบพระเยซูเจ้า(ผู้ทรงเป็นลูกแกะของพระเจ้า ยน.1.29) กล่าวต่อหัวหน้าสมณะและฝูงชนว่า “ข้าพเจ้าไม่พบความผิดข้อใดในคนคนนี้” (ลก.23.4)