พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557

การแห่ศีลมหาสนิทในที่สาธารณะ



โอ ศีลบูชามหาสนิท  โอ  ศีลศักดิ์สิทธิ์สูงสุด
ขอเชิญร่วมกัน   สรรเสริญพระองค์  เทิดเทินพระเกียรตินิรันดร์

วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แม่พระแห่งผลสำเร็จที่ดี (ตอนที่ 2)

ที่อารามคณะคอนเซ็ปชั่นนิสต์ ในควิโต  ปัจจุบันคือประเทศเอกวาดอร์  แม่พระทรงประจักษ์แก่ซิสเตอร์มาเรียนา  คุณแม่อธิการของอารามนี้....(อ่านต่อ)

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประวัติการสมโภชพระวรกายพระโลหิตของพระคริสตเจ้า

ตามธรรมเนียมดั้งเดิมนั้น พระศาสนจักร(Latin Church) ทำการสมโภชพระวรกายพระโลหิตของพระคริสตเจ้าตรงกับวันพฤหัสบดีหลังวันอาทิตย์สมโภชพระตรีเอกภาพ วันนี้ถือเป็นวันสมโภช (Solemnity –วันฉลองขั้นสูงสุด) เพราะเป็นวันที่พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิท .....(อ่านต่อ)





วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557

น.โฟสตินา-นิมิตของนรก

“ดิฉัน ซิสเตอร์ โฟสตินา  โควาสกา  โดยคำสั่งของพระเป็นเจ้า  ดิฉันได้ลงไปในขุมนรก.....(อ่านต่อ) 

วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เม็ดจูกอเรจ์ - อิวาน ดราจิซิวิค

อิวาน ดราจิเซวิค :
ผมจะไม่ลืมวันนั้นเลยตลอดชีวิตของผม  ผมคิดว่าผมมีอายุน้อยลง 5 ปีหลังจากวันนั้น  ขณะนั้นผมไม่สามารถเดินไปข้างหน้าหรือถอยหลัง  ขาของผมมันพันกัน  แต่ชั่วขณะหนึ่ง  ผมวิ่งข้ามไปเหนือพุ่มไม้ซึ่งไม่ใช่เกิดจากกำลังของผม   มันเหมือนกับตัวของพวกเราลอยไป  เราไม่รู้สึกเจ็บเลย  เราเข้าไปใกล้พระนาง  เข้าไปใกล้  ที่แขนซ้ายของพระนางทรงอุ้มพระกุมารเยซู  พระนางใช้มือขวาปกที่ศีรษะของเรา  และพระนางตรัสเป็นครั้งแรก
“ลูกที่รัก  แม่มาอยู่กับลูก  แม่เป็นแม่ของลูก  อย่ากลัวสิ่งใดเลย  แม่จะปกป้องลูก  จะช่วยลูก  จะนำทางลูก”
แต่การจะสงบใจนั้นเป็นเรื่องยาก
เด็กหญิงคนหนึ่งที่อยู่กับพวกเราซึ่งดูผ่อนคลายมากกว่าใคร ได้ถามพระนางว่า “ท่านเป็นใครคะ  ท่านมีชื่อว่าอะไร?” และพระนางตรัสตอบว่า
 “แม่คือราชินีแห่งสันติภาพ  และแม่มาที่นี่เพราะพระเป็นเจ้าทรงส่งแม่มา  ลูกๆที่รักของแม่  สันติภาพ , สันติภาพ และสันติภาพเท่านั้น  จะต้องมีสันติภาพ  ลูกๆที่รักของแม่  สันติภาพต้องครองราชย์ระหว่างพระเป็นเจ้าและมนุษย์และระหว่างปวงชน  ลูกๆที่รัก  โลกนี้และมนุษยชาติกำลังอยู่ในอันตรายอันใหญ่หลวง  มีการกระทำที่จะทำลายตัวเอง”
             นั่นคือพระดำรัสแรกของแม่พระ  นั่นเป็นสาส์นแรกของพระนางที่ประทานแก่พวกเรา  ประทานแก่โลก  ในวันนั้นซึ่งเป็นวันที่สอง  เราได้ตระหนักแน่ชัดว่าพระนางคือแม่ของเรา  และมาจนถึงทุกวันนี้มีพวกเราเพียงสามคนที่ได้เห็นแม่พระทุกวัน - (อิวาน ดราจิเซวิค ในคาลามาซู มิชิแกน 2012)

วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2557

นักคณิตศาสตร์ พอล แอดิส


พอล แอดิส ( Paul Erdös) เป็นนักคณิตศาสตร์อัจฉริยะชั้นนำของโลกคนหนึ่ง  เกิดในฮังการี  มีเชื้อสายยิว  ในวัยเด็กก็มีความคิดเกินอายุ   เห็นความเป็นอนิจจังของชีวิต จึงทุ่มเทความคิดในสิ่งที่ตนคิดว่ายั่งยืน นั่นคือความจริงทางคณิตศาสตร์  อายุ 5 ขวบ ก็เข้าใจแนวคิดของระบบเลขจำนวนลบด้วยตัวเอง ได้รับปริญญาเอกตั้งแต่อายุยี่สิบเอ็ดปี
แอดิสสามารถจำผลงานทางคณิตศาสตร์และแหล่งอ้างอิงได้อย่างมากมาย   แต่กลับหลงลืมรายละเอียดในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ครั้งหนึ่งแอดิสถามนักคณิตศาสตร์คนหนึ่งว่าเขามาจากไหน นักคณิตศาสตร์ท่านนั้นตอบว่ามาจากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา  แอดิส ถามต่อว่า "โอ้ ! ถ้าอย่างนั้นคุณต้องรู้จักเพื่อนที่แสนดีของผมที่ชื่อ เอเลียต แมนเดอร์สัน (Elliot Manderson) ล่ะสิ" นักคณิตศาสตร์คนนั้นตอบกลับมาว่า "ก็ผมไงล่ะครับ เอเลียต  แมนเดอร์สัน เพื่อนที่แสนดีของท่าน"
แอดิสเป็นผู้ที่มีเมตตาจิตด้วย   เขาให้เงินทุนแก่เด็กนักเรียนที่ยากจนหลายคน
ครั้งหนึ่งแอดิสทราบเรื่องราวของ เกลน วิทนีย์ (Glen Whitney) ซึ่งเป็นนักเรียนที่เรียนดีแต่ขัดสน วิทนีย์ ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่ไม่มีเงินเดินทางแม้จะพยายามเก็บออมเต็มที่แล้วก็ตาม
แอดิสได้จัดการพบปะกับ วิทนีย์ และให้ยืมเงินพันดอลล่าร์ โดยบอกว่าค่อยให้คืนเมื่อสามารถจบการศึกษาและมีงานมีการทำ
ต่อมา วิทนีย์ เรียนจนจบปริญญาเอก และสอนที่ University of Michigan จึงติดต่อกับแอดิส เพื่อขอคืนเงินพันดอลลาร์นี้ แต่ท่านตอบกลับไปว่า "จงใช้เงินนี้ เหมือนกับที่ผมเคยใช้" สร้างความตื้นตันใจให้กับ วิทนีย์ เป็นอย่างยิ่ง
            ในเวลาต่อมา วิทนีย์ ได้ถือเป็นหน้าที่ของเขาที่จะสนับสนุนทางการเงินต่อนักคณิตศาสตร์รุ่นเยาว์ที่มีความจำเป็น
            แอดิส  ไม่แต่งงาน  ไม่สะสะเงิน  เขาได้รับเงินเดือนมากพอจะเลี้ยงชีวิต  แต่เขานำเงินส่วนเกินให้เป็นทุนแก่เด็กนักเรียนหรือไม่ก็ตั้งเป็นเงินรางวัลผู้ที่แก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ของเขาได้   เขาไม่มีบ้าน  เขาใช้ชีวิตอย่างคนจรจัดไปพักบ้านเพื่อนที่ทำวิจัยด้วยกัน  ซึ่งทุกคนยินดีต้อนรับเขา  แอดิสอุทิศชีวิตทั้งหมดให้กับคณิตศาสตร์ที่เขารัก  เขาเสียชีวิตในวัย 83 ปี