พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2562

การประท้วงในฝรั่งเศส

ดิฉันเห็นโบสถ์หลายแห่งปิดตัวลง มีความทุกข์ยากมากมายในทุกที่, มีสงครามและการนองเลือด มีการก่อม็อบประท้วงที่ป่าเถื่อนเกิดขึ้นเป็นความรุนแรง แต่ไม่นานมันก็จะสิ้นสุดลง"
>>>อ่านต่อ

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2562

เหตุก่อการร้ายในวันอิสเตอร์ที่ศรีลังกา

ประชาชนอย่างน้อย 359 คนเสียชีวิต ขณะที่กว่า 450 คนได้รับบาดเจ็บ จากเหตุระเบิดที่โบสถ์และโรงแรมภายในประเทศศรีลังกา
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2562

พระเยซูเจ้าเสด็จไปในนรก

นี่เป็นบทเทศน์ที่น่าประทับใจมากแต่เราไม่ทราบชื่อของผู้เทศน์  ทราบแต่ว่าเป็นบทเทศน์ที่มีมานานมากแล้ว

วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2562

แอนตี้ไครส์ระบบดิจิทัล

มีเรื่องน่าคิดเกี่ยวกับตัวเลขของแอนตี้ไครส์ หมายเลข 666 เพราะสมัยนี้เป็นยุคของดิจิตัล (ดิจิตัล = ตัวเลข) อุปกรณ์หลายอย่างเป็นระบบดิจิตัล
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562

พระศาสนจักรในฮ่องกง

              Hong Kong (AsiaNews) – พระศาสนจักรในฮ่องกงเตรียมต้อนรับคริสตชนใหม่จำนวน 2,800 คนในวันอิสเตอร์ที่จะมาถึงนี้
               Fr Giorgio Pasini อธิการใหญ่ของคณะ Pontifical Institute for Foreign Missions (PIME) ในฮ่องกง ได้บอกกับทาง AsiaNews ว่า จะมีการประกอบพิธีสาบานตนของผู้จะรับศีลล้างบาปขึ้นที่โบสถ์ St Francis of Assisi’s Church, in Shek Kip Mei โดยมีพระคาร์ดินัล John Tong Hon เป็นประธาน พิธีนี้ถือเป็นหัวใจของพระศาสนจักรในฮ่องกง
              “มีผู้สมัครรับศีลล้างบาปและได้เรียนคำสอนแล้วจำนวนมากในปีนี้ พวกเขามีความตื่นตัวในเรื่องนี้มาก ผู้รับศีลล้างบาปเหล่านี้ช่วยทำให้พระศาสนจักรท้องถิ่นมีชีวิตชีวาขึ้น  พวกเขาส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่และได้รับการเตรียมพร้อมมานานหนึ่งปีครึ่ง”
               “เป็นสิ่งที่หาได้ยากที่จะมีคริสตชนใหม่ที่มาจากความเชื่อทางศาสนาพุทธ โดยปกติ ผู้คนในอดีตที่เข้ามาเป็นคริสตชนใหม่มักจะเป็นคนที่ไม่ได้นับถือศาสนาใด หรือเป็นคนที่นับถือบรรพบุรุษเสียมากกว่า”
                “ผู้สมัครนั้นมาจากทุกระดับฐานะและทุกอาชีพ หลายคนเป็นผู้มีชื่อเสียง ครอบครัวของเขาหรือเพื่อนของเขาได้แนะนำพวกเขาให้มาโบสถ์ แต่พวกเขาก็สามารถหาข้อมูลได้จากทางอินเตอร์เน็ตด้วย ในหลายกรณี, พวกเขาถูกดึงดูดโดยบทบาทของพระศาสนจักร อย่างเช่น เรื่องของสิทธิมนุษยชน”                  โดยส่วนตัวของท่านอธิการ PIME ท่านรู้สึกว่า “นี่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการค้นหาความหมายของชีวิต ซึ่งนำพวกเขามาพบกับความเชื่อคาทอลิกและได้พบความหมายของชีวิตที่แท้จริง”

วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2562

พระสันตปาปานักบุญ

              
              เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พระชนมายุ 82 พรรษา ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทรอลิก ได้ทรงแหวกธรรมเนียมของสำนักวาติกัน และสร้างความเซอร์ไพรส์อันซาบซึ้งด้วยการก้มพระวรกายลงจูบยังเท้าของของผู้นำทางการเมืองในซูดานใต้ หรือประเทศ เซาท์ซูดาน ขณะที่ทั้งสองมาเข้าเฝ้าที่พระราชวังพระสันตะปาปา (Apostolic Palace) ในนครรัฐวาติกัน สร้างความตะลึงให้กับคนทั้งโลกหลังภาพดังกล่าวปรากฎออกไป
                เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างที่ นายซัลวา คีอีร์ มายาร์ดิต ประธานาธิบดีเซาท์ซูดาน นายรีค มาชาร์ ว่าที่รองประธานาธิบดี และนาง รีเบคคา เนียนเดง เดอ มาบิเออร์ รัฐมนตรี ขณะที่ทั้งสามเข้าเฝ้า โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงมีพระดำรัสต่อผู้แทนซูดานใต้ทั้งสามว่า
                 "ข้าพเจ้าขอในฐานะพี่น้อง จงรักษาสันติภาพ ข้าพเจ้าขอร้องจากใจ"
                 สำหรับนายซัลวา และนายมาซาร์ ทั้งสองต่างเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง และต่างฝ่ายต่างมีผู้สนับสนุนที่เป็นชนกลุ่มชาติพันธุ์ โดนายซัลวากว่าหาว่านายมาซาร์เป็นต้นเหตุของการก่อรัฐประหาร และเป็นศัตรูทางการเมือง จนส่งผลให้เกืดสงครามกลางเมืองในเซาท์ซูดานในปี 2014 จนเป็นเหตุให้มีประชาชนล้มตายกว่า 4 แสนคน และประชาชนต้องอพยพออกจากประเทศอีกว่า 4 แสนราย รวมถึงมีผู้ผลัดถิ่นในประเทศจากการถูกไล่ที่อีกนับล้านคน
                   เมื่อปี 2018 ที่ผ่านทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในสัญญาสันติภาพที่ประเทศเอธิโอเปีย และพยายามจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกันภายในเดือนพ.ค.นี้ แต่ก็ยังไม่เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากทั้งสองยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงสันติภาพได้อย่างชัดเจน และต้องเลื่อนเวลาการจัดตั้งรัฐบาลผสมไปอีกอย่างน้อยราว 6 เดือน ซึ่งอาจส่งผลให้ประชาชนชาวซูดานใต้กว่า 12 ล้านคนยังคงมีชีวิตอย่างอยากลำบาก
                    ด้วยเหตุนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจึงทรงแสดงสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและการให้อภัยอย่างถึงที่สุด เพื่อเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายสร้างสันติภาพแก่ประชาชน
                    ทำให้นึกถึงพระสันตะปาปายอห์นปอลที่2 พระองค์ทรงก้มลงจูบพื้นดินของประเทศที่เสด็จไปเยี่ยมด้วยเช่นกัน

วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2562

มหาวิหารนอตเตอร์ดามไฟไหม้


                 เมื่อวันจันทร์ 15 เม.ย. 2019 ช่วงบ่าย มหาวิหารนอตเตอร์ดามเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ หลังคาโบสถ์ส่วนหน้าพังทลาย แต่ด้านหลังโบสถ์ไม่ได้ถูกไฟไหม้ สาเหตุของไฟไหม้อาจเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงวิหารในขณะนี้ รายงานยังระบุว่าได้ยินเสียงหักพังของยอดวิหารจากเปลวเพลิงที่ลุกโชนอย่างรุนแรง พร้อมกับภาพของไฟที่เผาทำลายหลังคาทั้งหมดของวิหารจนพังถล่มลงมา
                มหาวิหารนอร์ทเทอดามแห่งปารีส เป็นอาสนวิหารประจำอัครมุขมณฑลปารีส (Archidiocèse de Paris) ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำแซนใจกลางกรุงปารีส มีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์และการตกแต่งโถงภายในด้วยกระจกสีอันสวยงาน ถูกจัดเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส จะมีนักท่องเที่ยวในแต่ละวันมากถึง 3,000 คน 
ภายในวิหารหลังไฟดับ สิ่งของล้ำค่าเช่น มงกุฎหนามของพระเยซู ฯ ยังคงอยู่ 
                (ทำไมมหาวิหารนอตเตอดามจึงถูกไฟไหม้)