พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2024 สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์

           พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีให้มนุษย์ทั้งปวง ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น ผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินลงโทษ ผู้ที่เชื่อจะทำอัศจรรย์เหล่านี้ได้ คือจะขับไล่ปีศาจในนามของเรา จะพูดภาษาใหม่ ๆ ได้ จะจับงูได้ และถ้าดื่มยาพิษก็จะไม่ได้รับอันตราย เขาจะปกมือเหนือคนเจ็บ คนเจ็บเหล่านั้นก็จะหายจากโรคภัย” เมื่อพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้แล้ว พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นสู่สวรรค์ ให้ประทับ ณ เบื้องขวา บรรดาศิษย์ก็แยกย้ายกันออกไปเทศนาสั่งสอนทั่วทุกแห่งหน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำงานร่วมกับเขา และทรงรับรองคำสั่งสอนโดยอัศจรรย์ที่ติดตามมา
(มาระโก 16:15-20)








วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

นักบุญเกมมา กัลกานี กับ วิญญาณในไฟชำระ


ฉันเห็นซิสเตอร์มาเรีย เทเรซา เดินเข้ามาหาฉันในชุดแม่ชีแพสชั่นนิสต์ พร้อมด้วยอารักขเทวดาของเธอและพระเยซู
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

นักบุญโฟสตินาและพระกุมารเยซู


ถึงแม้พระองค์จะทรงเป็นเพียงเด็กน้อย,แต่ในจิตวิญญาณของดิฉันเต็มไปด้วยความกลัวและยำเกรง
>>>อ่านต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

พระนามแม่พระองค์อุปถัมภ์ของคริสตชน


จากธรรมนูญของสมาคมแม่พระองค์อุปถัมภ์ของคริสตชน (Association of the Clients of Mary Help of Christians) เขียนโดยนักบุญยอห์นบอสโก(Opere edite, XXI, Rome 1976, 343-347)  
 
พระนามของแม่พระในฐานะองค์อุปถัมภ์ของคริสตชน,เป็นพระนามที่ใช้คู่กับพระนามมารดาพระผู้ไถ่ซึ่งฉลองในเดือนสิงหาคม,สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในหนังสือศรัทธามีการกล่าวถึงพระนางมารีย์ในฐานะราชินีผู้ประทับยืนอยู่เบื้องขวาองค์พระบุตรของพระนาง,ทรงสวมอาภรณ์ทองคำและห้อมล้อมด้วยสิ่งต่างๆหลากหลายมากมาย เสื้อคลุมสีทองและล้อมรอบด้วยแสงอันเจิดจรัสนี้,ตามคำอธิบายของพระศาสนจักร,คืออัญมณีและเพชรจำนวนมากอันหมายถึงพระนามอันยิ่งใหญ่ที่เราคุ้นเคยในการพูดถึงพระนางมารีย์ ดังนั้น,เมื่อเราเรียกพระมารดามารีย์พรหมจารีย์ว่า "องค์อุปถัมภ์ของคริสตชน" เราเพียงแต่เรียกพระนามพิเศษที่เหมาะสมกับพระนาง,ซึ่งเปรียบเสมือนเพชรเม็ดหนึ่งบนอาภรณ์สีทองของพระนาง ในพระนามนี้,พระนางมารีย์ทรงได้รับการยกย่องในฐานะองค์อุปถัมภ์ของชาติพันธ์มนุษย์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของโลก เมื่ออาดัม,หลังจากตกสู่บาป,ท่านได้รับพระสัญญาว่าจะมีผู้มาปลดปล่อย,ผู้กำเนิดจากสตรีผู้หนึ่งซึ่งจะบดขยี้หัวของงูร้าย,ด้วยเท้าที่บริสุทธิ์ไร้มลทินของพระนาง
  

วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

รูปแม่พระปรากฏให้เห็นที่อาร์เจนตินา?

นำมาจาก ACI Prensa  
 
สัตบุรุษที่ไปเยี่ยมโบสถ์น้อยของ Santuario Nuestra Señora de Lourdes de Alta Gracia ในจังหวัดคอร์โดบา (อาร์เจนตินา) เป็นสักขีพยานถึงข้อเท็จจริงที่ยังอธิบายไม่ได้: ในช่องว่างด้านหลังของพระแท่นบูชา มีรูปพระแม่มารีย์ปรากฏขึ้นมาให้เห็นแม้จะเป็นที่ว่างเปล่า

จากข้อมูลของ AICA รูปนี้ไม่ใช่รูปภาพแบนๆ แต่เป็นภาพสามมิติ,มีรอยพับที่อาภรณ์ และไม่ใช่ภาพลวงตาทางจิตใจ แม้แต่ผู้ที่ไม่มีความเชื่อก็มองเห็นได้ และสามารถถ่ายภาพเป็นหลักฐาน

แหล่งข่าวจาก Sanctuary of Our Lady of Lourdes de Alta Gracia กล่าวกับทาง ACI Prensa ว่าแม้ว่าจะยังไม่มีแถลงการณ์เฉพาะจากอาร์คบิชอป แต่ “ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ภาพยังคงเหมือนกับวันแรกหรือมากกว่านั้นเล็กน้อย ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม,ประชาชน,ผู้แสวงบุญยังคงเข้ามาเฝ้าชม”

“มันผ่านมาเกือบ 13 ปีแล้ว และแม่พระก็ยังคงอยู่” 

พวกเขากล่าวเสริม ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร? โบสถ์น้อยแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นและได้รับการเสกในปี 1927 และเป็นเวลาหลายปีที่มีรูปปั้นของพระนางพรหมจารีย์มารีย์แห่งลูรดส์(Virgin of Lourdes) อยู่ตรงกลางพระแท่นบูชา ในช่วงกลางปี 2011 รูปปั้นนั้นถูกนำออกไปเพื่อบูรณะ และปัจจุบันรูปปั้นนี้ถูกย้ายมาไว้ที่ด้านข้างพระแท่น

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อพระสงฆ์ท่านหนึ่งของสถานที่นี้กำลังจะปิดโบสถ์น้อย,และจากประตูใหญ่,ท่านเห็นรูปภาพเหมือนทำด้วยปูนตั้งอยู่ในที่เดิมซึ่งพระรูปแม่พระแห่งลูรดส์เคยวางไว้

พระสงฆ์เข้าไปดูใกล้ๆหลายครั้ง และทุกครั้ง,ท่านก็พบว่าภาพที่เห็นจากระยะไกลนั้นได้หายไป,ไม่มีภาพเลย

ในมุมมองนี้,คณะนักบวชคาร์เมไลต์ที่ดูแลสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ออกแถลงการณ์ว่า: "การปรากฏรูปภาพของพระแม่มารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์นั้นยังไม่มีคำอธิบายที่สมเหตุสมผล"

“ผู้ที่เป็นคนของพระเจ้าต้องแปลความหมายของสิ่งนี้ว่าเป็นสัญญาณหรือเครื่องหมายเพื่อเพิ่มพูนความเชื่อของคริสตชน และเป็นการปลุกเร้าจิตใจของมนุษย์ให้กลับใจหันมาสู่ความรักของพระเจ้าและมีส่วนร่วมในชีวิตของพระศาสนจักร” พวกเขากล่าวเสริม

วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

การเบียดเบียนในนิการากัว


วาติกันนิวส์ - 12/02/2023 
พระสันตะปาปาฟรังซิสเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทรงเรียกร้องให้ผู้นำทางการเมืองในนิการากัวเปิดใจต่อการแสวงหาสันติภาพอย่างจริงใจและมีส่วนร่วมในการสนทนา 
พระสังฆราชทั่วโลกประณามการข่มเหงพระศาสนจักรในนิการากัวอย่างไม่ยุติธรรมจากทางรัฐบาล
พระสันตปาปาฟรังซิสทรงเรียกร้องหลังจากมีข่าวการพิพากษาตัดสินให้จำคุกพระสังฆราชโรลันโด อัลวาเรซ,แห่งมาตากัลปา และการเนรเทศประชาชน 222 คนด้วยเหตุผลทางการเมือง ซึ่งรวมถึงพระสงฆ์และสามเณรหลายคนที่ถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดกันต่อต้านรัฐบาล 
พระสันตะปาปาทรงแสดงความโศกเศร้าอย่างยิ่งเมื่อได้รับข่าวจากประเทศนิการากัว โดยทรงคิดถึงพระสังฆราชอัลวาเรซ “ผู้ที่ข้าพเจ้ารักมาก” ซึ่งถูกพิพากษาจำคุก 26 ปีอย่างอยุติธรรม 
พระสันตะปาปาตรัสว่าพระองค์กำลังอธิษฐานภาวนาเพื่อพระสังฆราชอัลวาเรซ และเพื่อผู้ที่ถูกเนรเทศไปยังสหรัฐอเมริกา และสำหรับทุกคนที่ทนทุกข์ในประเทศนิการากัวอันเป็นที่รัก 
พระองค์ทรงเชื้อเชิญผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมในการสวดภาวนาวอนขอต่อพระเจ้าและทรงขอให้พระมารดามารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมลได้เข้ามาแทรกแซงช่วยเหลือในเรื่องนี้ 
“ขอให้พระนางทรงเปิดหัวใจของผู้นำทางการเมืองและประชาชนทุกคนให้แสวงหาสันติภาพอย่างจริงใจ สันติภาพซึ่งเกิดจากความจริง,ความยุติธรรม,เสรีภาพ,และความรัก และจะบรรลุผลได้โดยผ่านการสนทนาร่วมกันอย่างอดทน” 
จากนั้น พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงนำสัตบุรุษสวดบทวันทามารีย์ 
 

วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

รากและปีก


ให้เราทูลขอพระพรทั้งสองประการนี้จากพระเจ้าเถิด นั่นคือ: รากและปีก!
>>>อ่านต่่อ