พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2566

การบิดเบือนของปีศาจ


"ขอให้แสงสว่างแห่งพระจิตเจ้ามาอยู่เหนือเราทุกคนและแสดงให้เราเห็นพระองค์ผู้ทรงเป็นความจริง"
>>>อ่านต่อ

วันจันทร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2566

อัศจรรย์ศีลมหาสนิท


อัศจรรย์ที่มองไม่เห็นเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการประกอบพิธีมิสซา
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2566

คำแนะนำสู่ชีวิตศรัทธา 3/10


เราต้องทำงานอย่างระมัดระวัง,แต่ไม่เร่งร้อนหรือวิตกกังวลมากเกินไป

วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2566

วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2566

การประจักษ์ของวิญญาณในไฟชำระ


บุญราศีสตีเฟนแห่งคณะนักพรตน้อยพบกับนักบวชที่เสียชีวิตไปแล้ว(BLESSED STEPHEN OF THE FRIARS MINORS ฉลองวันที่ 3 ก.พ. )  
 
บุญราศีสตีเฟนมีความศรัทธาต่อศีลมหาสนิทเป็นพิเศษ ดังนั้นเขาจึงใช้เวลากลางคืนด้วยการเฝ้าศีลมหาสนิท ในโอกาสดังกล่าว,เขาจะอยู่ตามลำพังในโบสถ์น้อย,มีเพียงแสงริบหรี่ของตะเกียงดวงน้อย ทันใดนั้นเขาก็เห็นนักพรตคนหนึ่งอยู่บริเวณที่นั่ง สตีเฟ่นเข้าไปหาเขาและถามเขาว่าเขาได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องพักในชั่วโมงนั้นหรือไม่? “ผมเป็นผู้ที่เสียชีวิตแล้ว” นักพรตตอบ "ผมมาอยู่ที่นี่ ตามพระบัญชาแห่งพระยุติธรรมของพระเจ้า ผมต้องอยู่ในไฟชำระ เพราะในเวลาที่มีชีวิตอยู่,ในสถานที่นี้ผมได้ทำบาปจากการมีใจเย็นเฉยและประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่ พระเจ้าทรงอนุญาตให้ผมแจ้งสถานะของผมให้คุณทราบ เพื่อคุณจะช่วยผมด้วยการสวดภาวนาของคุณ " (เล่ม 4, ch 30; CF Rossignoli, Merveilles du Purgatoire)
  
ด้วยความรู้สึกสะเทือนใจต่อคำพูดเหล่านี้, สตีเฟนคุกเข่าลงทันทีเพื่อสวดภาวนาบท De Profundis _ Psalm 130 และบทภาวนาอื่นๆ และเขาสังเกตเห็นว่าในขณะที่เขาสวดภาวนา วิญญาณของผู้ตายมีสีหน้ายินดี หลายครั้งในคืนต่อๆมา,เขาได้เห็นการประจักษ์ในลักษณะเดิม,แต่ผู้ตายมีความสุขมากขึ้นในแต่ละครั้ง เมื่อใกล้ถึงเวลาแห่งการปลดปล่อย,หลังจากการสวดภาวนาของนักบุญสตีเฟนมรณะสักขี,ก็บังเกิดแสงสว่างบริเวณที่นั่ง นักพรตแสดงความขอบคุณต่อสตีเฟนผู้ปลดปล่อยเขา,และหายไปในความสว่างแห่งสิริโรจนา.

วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2566

เราถูกประจญตลอดเวลา


"น่าเสียดายที่สุดสำหรับตัวเราเองหากเราไม่รู้ว่าเราถูกล่อลวงในการกระทำเกือบทั้งหมดของเรา อาทิเช่น ด้วยความเย่อหยิ่ง,ความฟุ้งเฟ้อ,โดยความต้องการให้คนอื่นคิดในทางที่ดีกับเรา,ความอิจฉาริษยา, ความเกลียดชังและการแก้แค้น ในบางครั้ง,ปีศาจก็มาหาเราด้วยภาพลักษณ์ที่เลวร้ายและสกปรกที่สุด เราจะเห็นว่าแม้ในการสวดภาวนาของเรา,มันก็ยังทำให้เราเสียสมาธิและหันเหความคิดของเราไปทางนี้ไปทางนั้น ตั้งแต่สมัยอาดัมเป็นต้นมา,เราจะไม่พบนักบุญที่ไม่ถูกประจญล่อลวง,ในทางใดทางหนึ่ง และนักบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือผู้ที่ถูกประจญล่อลวงมากที่สุด ถ้าพระเยซูเจ้าทรงถูกประจญล่อลวง นั่นก็เพื่อแสดงให้เราเห็นว่าเราต้องถูกประจญล่อลวงด้วย ดังนั้น,เราจึงคาดหวังไว้ได้เลยว่าเราจะต้องถูกประจญล่อลวง ถ้าลูกถามว่าอะไรเป็นสาเหตุของการประจญล่อลวงของเรา? พ่อขอบอกลูกว่ามันเป็นเพราะความสวยงามและคุณค่าอันยิ่งใหญ่และความสำคัญของจิตวิญญาณของเราซึ่งปีศาจมองเห็นคุณค่าและปรารถนามันมากถึงขนาดยอมทนทุกข์ทรมานในนรกสองขุมหากจำเป็น ซึ่งถ้าหากมันทำเช่นนั้นแล้ว,มันจะสามารถลากวิญญาณของเราลงนรกได้  
 
เราไม่ควรหยุดระมัดระวังเฝ้าดูแลตนเองตลอดเวลา ด้วยเกรงว่าปีศาจจะหลอกลวงเราในเวลาที่เราคาดไม่ถึง"
  
- นักบุญยอห์น เวียนเนย์