พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2025 อุปมาเรื่องเศรษฐีโง่เขลาและความโลภ

          ประชาชนคนหนึ่งทูลพระเยซูเจ้าว่า ‘พระอาจารย์ โปรดบอกพี่ชายข้าพเจ้าให้แบ่งมรดกให้ข้าพเจ้าเถิด’ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า ‘มนุษย์เอ๋ย ใครตั้งเราเป็นผู้พิพากษาหรือเป็นผู้แบ่งมรดกของท่าน แล้วพระองค์ตรัสกับคนเหล่านั้นว่า ‘จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม’ พระองค์ยังตรัสอุปมาเรื่องหนึ่งให้เขาทั้งหลายฟังอีกว่า ‘เศรษฐีคนหนึ่งมีที่ดินที่เกิดผลดีอย่างมาก เขาจึงคิดว่า “ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันไม่มีที่พอจะเก็บพืชผลของฉัน” เขาคิดอีกว่า “ฉันจะทำอย่างนี้ จะรื้อยุ้งฉางเก่าแล้วสร้างใหม่ให้ใหญ่โตกว่าเดิม จะได้เก็บข้าวและสมบัติทั้งหมดไว้ แล้วฉันจะพูดกับตนเองว่า “ดีแล้ว เจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมายเก็บไว้ใช้ได้หลายปี จงพักผ่อน กินดื่มและสนุกสนานเถิด” แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เขาจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้จะเป็นของใครเล่า คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเองแต่ไม่เป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้า ก็จะเป็นเช่นนี้”
(ลูกา 12:13-21)








วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2566

การประจักษ์ของวิญญาณในไฟชำระ


บุญราศีสตีเฟนแห่งคณะนักพรตน้อยพบกับนักบวชที่เสียชีวิตไปแล้ว(BLESSED STEPHEN OF THE FRIARS MINORS ฉลองวันที่ 3 ก.พ. )  
 
บุญราศีสตีเฟนมีความศรัทธาต่อศีลมหาสนิทเป็นพิเศษ ดังนั้นเขาจึงใช้เวลากลางคืนด้วยการเฝ้าศีลมหาสนิท ในโอกาสดังกล่าว,เขาจะอยู่ตามลำพังในโบสถ์น้อย,มีเพียงแสงริบหรี่ของตะเกียงดวงน้อย ทันใดนั้นเขาก็เห็นนักพรตคนหนึ่งอยู่บริเวณที่นั่ง สตีเฟ่นเข้าไปหาเขาและถามเขาว่าเขาได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องพักในชั่วโมงนั้นหรือไม่? “ผมเป็นผู้ที่เสียชีวิตแล้ว” นักพรตตอบ "ผมมาอยู่ที่นี่ ตามพระบัญชาแห่งพระยุติธรรมของพระเจ้า ผมต้องอยู่ในไฟชำระ เพราะในเวลาที่มีชีวิตอยู่,ในสถานที่นี้ผมได้ทำบาปจากการมีใจเย็นเฉยและประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่ พระเจ้าทรงอนุญาตให้ผมแจ้งสถานะของผมให้คุณทราบ เพื่อคุณจะช่วยผมด้วยการสวดภาวนาของคุณ " (เล่ม 4, ch 30; CF Rossignoli, Merveilles du Purgatoire)
  
ด้วยความรู้สึกสะเทือนใจต่อคำพูดเหล่านี้, สตีเฟนคุกเข่าลงทันทีเพื่อสวดภาวนาบท De Profundis _ Psalm 130 และบทภาวนาอื่นๆ และเขาสังเกตเห็นว่าในขณะที่เขาสวดภาวนา วิญญาณของผู้ตายมีสีหน้ายินดี หลายครั้งในคืนต่อๆมา,เขาได้เห็นการประจักษ์ในลักษณะเดิม,แต่ผู้ตายมีความสุขมากขึ้นในแต่ละครั้ง เมื่อใกล้ถึงเวลาแห่งการปลดปล่อย,หลังจากการสวดภาวนาของนักบุญสตีเฟนมรณะสักขี,ก็บังเกิดแสงสว่างบริเวณที่นั่ง นักพรตแสดงความขอบคุณต่อสตีเฟนผู้ปลดปล่อยเขา,และหายไปในความสว่างแห่งสิริโรจนา.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น