พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2024 สมโภชพระจิตเจ้า

           ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้บรรดาศิษย์ดูพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกาย เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็มีความยินดี พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น”
           ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย”
(ยอห์น 20:19-23)








วันพฤหัสบดีที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

พิธีมิสซาของคุณพ่อปีโอ


ในระหว่างการประกอบพิธีมิสซา,คุณพ่อปิโอร้องไห้สี่ครั้ง ท่านหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวจากแท่นบูชาที่ท่านวางไว้ขึ้นมาแล้วเช็ดน้ำตา ในช่วงเวลาตั้งแต่ภาคถวายจนถึงการเสกศีลมหาสนิท ใบหน้าที่เจ็บปวดของคุณพ่อปีโอส่อแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้าที่สถิตย์อยู่ ก่อนการเสกศีล,คุณพ่อจ้องมองที่ไม้กางเขนและน้ำตาก็เริ่มหลั่งอีกครั้ง คุณพ่อถือแผ่นศีลไว้ในมือ, ถวายพระพร, โน้มตัวไปข้างหน้า แล้วพูดว่า “นี่คือกายของเรา” ด้วยถ้อยคำเหล่านี้ เนื้อสารของแผ่นปังก็เปลี่ยนไปเป็นพระกายของพระคริสต์ ทันใดนั้นร่างกายของคุณพ่อปีโอเริ่มกระตุกด้วยความเจ็บปวด ในเวลาเดียวกัน, ประชาชนสามารถเห็นเลือดเริ่มไหลออกมาจากบาดแผลในมือของคุณพ่อปีโอ และการเคลื่อนไหวของคุณพ่อแสดงให้เห็นว่าท่านพยายามระงับความเจ็บปวดที่สีข้างของท่าน 
ที่มา: Prophet of the People 
 A Biography of Padre Pio 

วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

พระเยซูทรงถูกสวมมงกุฏหนาม


แล้วพวกเขาก็สวมมงกุฎหนามที่พระเศียรของพระองค์ มันมีความกว้างประมาณสองฝ่ามือ และสานถักกันอย่างชำนาญ โดยมีขอบที่ยื่นออกมาด้านบน พวกเขาวางมงกุฏหนามเหนือคิ้วของพระองค์และยึดติดกิ่งหนามไว้ทางด้านหลังให้แน่นจนกลายเป็นมงกุฎ มันถูกสานกันอย่างชำนาญจากกิ่งหนามที่มีความหนาสามนิ้ว,เป็นหนามที่งอกออกมาตรงๆ ในการถักมงกุฎนั้นจะต้องออกแบบให้หนามยื่นเข้าด้านในมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มีหนามอยู่สามชนิด ตามที่เราเรียกกันว่า buckthorn(บัคธอร์น), blackthorn(แบล็คธอร์น), และhawthorn(ฮอว์ธอร์น) 
 เวลานี้มงกุฎหนามถูกเก็บรักษาไว้ที่อาสนวิหารน็อตเตอร์-ดาม ปารีส 
- จากนิมิตของบุญราศีอันนา คัทเธอรีน เอมเมอริก

วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

ร่วมพิธีมิสซา


มาร่วมพิธีมิสซาด้วยตัวของท่านเองเถิด  อย่ารอให้คนอื่นเป็นผู้นำท่านมาร่วมพิธีเลย 
“มิสซาเพียงมิสซาเดียวที่คนหนึ่งมีส่วนร่วมในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่,มีค่ามากกว่ามิสซาพันครั้งที่อุทิศให้เขาหลังจากที่เขาตายไปแล้ว” 
– นักบุญอังแซล์ม( St.Anselm) 

วันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

สาส์นแม่พระ 25 ก.พ. 2024

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 ม.ค. 2023
ลูกที่รักทั้งหลาย
          จงสวดภาวนาและฟื้นฟูจิตใจของลูกเสียใหม่ เพื่อที่ความดีที่ลูกได้หว่านไว้จะได้บังเกิดผลแห่งความชื่นชมยินดีและเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า เมล็ดข้าวละมานได้ยึดครองจิตใจของคนจำนวนมากและพวกเขาก็ไม่บังเกิดผล ลูกน้อยทั้งหลาย,นั่นคือเหตุผลที่แม่ขอให้ลูกเป็นแสงสว่าง,เป็นความรัก, และเป็นมือของแม่ที่เหยียดออกไปในโลก,มือซึ่งปรารถนาพระเจ้า,ผู้ทรงเป็นความรัก     
          ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่           
            

วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

ขบวนการสงฆ์ของม่พระ


เนื่องจากการแพร่กระจายของข้อผิดพลาดเหล่านี้ หลายคนจึงหันเหออกจากความเชื่อที่แท้จริง
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

พระเยซูทรงถูกโบยตี


“พระวรกายของพระเยซูสั่นสะท้านขณะที่ยืนอยู่หน้าเสา และทรงถอดฉลองพระองค์ออกโดยเร็วที่สุด แต่พระหัตถ์ของพระองค์มีเลือดและบวม สิ่งที่พระองค์ทรงทำเมื่อทหารผู้โหดเหี้ยมชกและดูหมิ่นพระองค์คือการสวดภาวนาเพื่อพวกเขาด้วยท่าทางที่น่าประทับใจที่สุด พระองค์ทรงหันพระพักตร์ไปทางพระมารดาครั้งหนึ่ง,พระมารดาซึ่งยืนหยัดด้วยความโศกเศร้า ท่าทางนี้ทำให้พระนางทรงตกพระทัยมาก พระนางทรงเป็นลมและคงจะล้มลงหากไม่มีสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ที่นั่นคอยประคองพระนาง พระเยซูทรงโอบพระหัตถ์รอบเสา และเมื่อยกพระหัตถ์ขึ้นแล้ว เขาก็ยึดพระหัตถ์ไว้กับห่วงเหล็กซึ่งอยู่บนยอดเสา จากนั้นพวกเขาก็ลากแขนของพระองค์ขึ้นไปให้สูงจนพระบาทซึ่งผูกติดกับฐานเสาแทบแตะพื้นไม่ได้ เช่นนี้แหละที่พระผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดถูกขึงดึงอย่างโหดเหี้ยมบนเสาที่ใช้ลงโทษอาชญากร จากนั้นคนพาลสองคนที่เกรี้ยวกราดกระหายเลือดก็เริ่มต้นกระทำในลักษณะที่ป่าเถื่อนที่สุดด้วยการเฆี่ยนตีร่างกายอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ตั้งแต่หัวจรดเท้า” 
 —บุญราศี อันนา คัทรีน เอมเมอริก(Bl. Anne Cathrine Emmerich), 
 จากพระมหาทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า(The Dolorous Passion of Our Lord Jesus Christ p. 218-219) 

วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567