“พระวรกายของพระเยซูสั่นสะท้านขณะที่ยืนอยู่หน้าเสา และทรงถอดฉลองพระองค์ออกโดยเร็วที่สุด แต่พระหัตถ์ของพระองค์มีเลือดและบวม สิ่งที่พระองค์ทรงทำเมื่อทหารผู้โหดเหี้ยมชกและดูหมิ่นพระองค์คือการสวดภาวนาเพื่อพวกเขาด้วยท่าทางที่น่าประทับใจที่สุด พระองค์ทรงหันพระพักตร์ไปทางพระมารดาครั้งหนึ่ง,พระมารดาซึ่งยืนหยัดด้วยความโศกเศร้า ท่าทางนี้ทำให้พระนางทรงตกพระทัยมาก พระนางทรงเป็นลมและคงจะล้มลงหากไม่มีสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ที่นั่นคอยประคองพระนาง พระเยซูทรงโอบพระหัตถ์รอบเสา และเมื่อยกพระหัตถ์ขึ้นแล้ว เขาก็ยึดพระหัตถ์ไว้กับห่วงเหล็กซึ่งอยู่บนยอดเสา จากนั้นพวกเขาก็ลากแขนของพระองค์ขึ้นไปให้สูงจนพระบาทซึ่งผูกติดกับฐานเสาแทบแตะพื้นไม่ได้ เช่นนี้แหละที่พระผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดถูกขึงดึงอย่างโหดเหี้ยมบนเสาที่ใช้ลงโทษอาชญากร จากนั้นคนพาลสองคนที่เกรี้ยวกราดกระหายเลือดก็เริ่มต้นกระทำในลักษณะที่ป่าเถื่อนที่สุดด้วยการเฆี่ยนตีร่างกายอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ตั้งแต่หัวจรดเท้า”
—บุญราศี อันนา คัทรีน เอมเมอริก(Bl. Anne Cathrine Emmerich),
จากพระมหาทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า(The Dolorous Passion of Our Lord Jesus Christ
p. 218-219)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น