พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2567

สิ่งที่มาจากปีศาจและสิ่งที่มาจากพระเจ้า


มโนภาพใดๆของชีวิตของลูกที่มุ่งความสนใจไปที่บาปในอดีตถือเป็นเรื่องโกหกและมาจากปีศาจ พระเยซูทรงรักลูกและทรงอภัยบาปของลูกแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีที่ว่างให้แก่จิตใจที่ตกต่ำ อะไรก็ตามที่ชักนำลูกให้เป็นอย่างอื่นถือเป็นการเสียเวลาอย่างแท้จริง นอกจากนี้มันยังเป็นสิ่งที่ขัดพระทัยคนรักผู้อ่อนโยนของเราอีกด้วย ในทางกลับกัน, ถ้ามโนภาพของชีวิตลูกประกอบด้วยสิ่งที่ลูกสามารถเป็นหรือจะเป็นในภายหน้า, มโนภาพนั้นก็มาจากพระเจ้า 
จดหมายของคุณพ่อปีโอ (ถึง Maria Gargani, 26 สิงหาคม 1916)

วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2567

พระธรรมใหม่ - พระธรรมเดิม


ในวันประกอบพิธีถวายพระวิหารที่สร้างโดยกษัตริย์โซโลมอน, มีสมณะ 120 คนร่วมในพิธี(2  พงศาวดาร 5:11) หีบพันธสัญญาถูกนำเข้ามาในพระวิหาร(2 พงศาวดาร 5:7) และไฟได้ลงมาจากท้องฟ้าเผาเครื่องถวายบูชา (2 พงศาวดาร 7:1) 
ในวันพระจิตเสด็จลงมา,บรรดาศิษย์ 120 คนได้มารวมตัวกันในห้อง(กิจการ 1:15) และพระมารดาของพระเยซูคริสต์(หีบพันธสัญญาใหม่) ก็อยู่ด้วย (กิจการ 1:14) พระจิตเจ้าได้เสด็จลงมาเป็นรูปลิ้นไฟ (กิจการ 2:3) 

วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2567

รับใช้ผู้เจ็บป่วยคือรับใช้พระคริสต์

"เมื่อฉันทำความสะอาดบาดแผลของคนยากจน ฉันกำลังทำความสะอาดบาดแผลของพระคริสต์" " (นักบุญคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา) 

ผมยังจำชายชราคนหนึ่งได้อย่างชัดเจน,ซึ่งเสียชีวิตด้วยใบหน้าที่เป็นสุข,เพราะมีบรรดาซิสเตอร์ที่อ่อนหวานที่ร้องเพลงให้เขาฟังอย่างอ่อนโยนและสวดภาวนาร่วมกับเขา ดังที่คุณแม่เทเรซากล่าวไว้ "เมื่อฉันทำความสะอาดบาดแผลของคนยากจน ฉันก็กำลังทำความสะอาดบาดแผลของพระคริสต์" ประจักษ์พยานของชายชราเกี่ยวกับความเชื่อที่มีชีวิต ทำให้ความเชื่อของผมเติบโตและมีวัยวุฒิ เขาทำให้ผมรู้ว่าการเป็นคริสตชนไม่ใช่แค่การรักพระเจ้าเท่านั้น แต่เป็นการรู้จักพระองค์ในผู้อื่นด้วย.. 

วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2567

พระเยซูเจ้าตรัสกับนักบุญเมชทิลด์


พระเยซูเจ้าปรากฏแก่นักบุญเมคทิลด์(St. Mechtilde)โดยทรงยื่นพระหัตถ์และบาดแผลที่เปิดออกของพระองค์ 
“เมื่อถูกตรึงแขวนอยู่บนไม้กางเขน” พระองค์ตรัส “บาดแผลทั้งหมดของเรามีเลือดไหล บาดแผลแต่ละรอยเป็นเสียงร้องวิงวอนต่อพระบิดาเพื่อความรอดของมนุษย์ และบาดแผลทั้งหมดยังคงส่งเสียงร้องทูลต่อพระองค์เพื่อบรรเทาพระพิโรธของพระองค์ต่อคนบาป… ในขณะที่เราถวายธรรมชาติมนุษย์ของเราแด่พระบิดาด้วยความรักอันเหลือล้น เลือดอาบร่างกายของเรา เราเป็นเครื่องถวายบนแท่นบูชาแห่งไม้กางเขน ดังนั้นด้วยความรักแบบเดียวกันนี้,เราจึงถวายตัวของเราแด่พระบิดาเจ้าเพื่อคนบาป เราถวายทุกสิ่งแด่พระองค์ด้วยเครื่องมือแห่งมหาทรมานของเรา,เพื่อสิ่งที่เราปรารถนามากที่สุด,นั่นก็คือ ให้คนบาปกลับใจและมีชีวิต... ตราบใดที่คนบาปยังคงอยู่ในบาป พวกเขาได้ยืดตัวของเราและตรึงไว้บนไม้กางเขน แต่ทันทีที่เขาสำนึกผิดและกลับใจ,เขาได้ปลดปล่อยเรา ราวกับว่าเราได้หลุดออกจากไม้กางเขนแล้ว และเราก็ล้มลงด้วยน้ำหนักทั้งหมดของเราบนตัวเขาเหมือนที่เราล้มลงบนโยเซฟชาวอาริมาเธียในสมัยก่อน ด้วยพระหรรษทานและพระเมตตาของเรา,เรามอบตัวเราไว้ในมือของเขา เพื่อว่าเขาจะกระทำกับเราตามที่เขาพอใจ” 

วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2567

ซาตานปกครองโลกอย่างไร

ซาตานเป็นเทพเจ้าของโลกได้อย่างไร? พระคัมภีร์ 2โครินทร์ 4:4 บอกเราว่า “ซาตานเป็นเทพเจ้าของโลก เขาทำให้จิตใจของคนมืดบอด เพื่อที่จะไม่เห็นแสงสว่างคือข่าวดีเรื่องพระสิริรุ่งโรจน์ของพระคริสตเจ้า” ภาษากรีกเรียกโลกว่า คอสมอส มันเป็นโลกทางกายภาพซึ่งได้แก่ ระเบียบ, แฟชั่น, สังคม, ความบันเทิง, การศึกษา,ฯลฯ และนักบุญเปาโลได้อธิบายว่า ซาตานสร้างอิทธิพลของมันโดยผ่านทางระบบต่างๆที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ปีศาจใช้อำนาจปกครองของมันอย่างไร? มันทำงานผ่านทาง การเมือง,ความบันเทิงรูปแบบต่างๆ,การศึกษา มันทำงานทั้งหมดนี้โดยอยู่เบื้องหลัง,คอยชักใยผู้คนเหมือนหุ่นเชิดในมือของมัน 
มันทำงานโดยผ่านทางมนุษย์ในระบบของโลก,โดยการฉีดความคิดชั่วร้ายของมันเข้าไปในจิตใจของมนุษย์ เหมือนกับที่เครื่องส่งโทรทัศน์ถ่ายทอดสัญญาณไปในอากาศ,ถึงเครื่องรับในบ้านของผู้คน การเปรียบเทียบนี้สามารถช่วยให้เราเห็นว่าเหตุใดพระคัมภีร์จึงเรียกซาตานว่า “เทพนิกรเจ้าผู้ปกครองชั้นบรรยากาศ คือจิตที่ทำงานในมนุษย์ที่ไม่ยอมเชื่อฟัง ทุกคนก็เคยประพฤติเช่นนี้ในอดีต ปล่อยตนตามราคตัณหา ปฏิบัติตนตามความต้องการและความคิดโดยธรรมชาติฝ่ายต่ำ เราจึงน่าจะถูกพระเจ้าลงโทษเช่นเดียวกับคนอื่น” (เอเฟซัส 2:2–3) 
นี่ไม่ได้หมายความว่ามันปกครองโลกโดยสมบูรณ์ พระเจ้ายังคงทรงอำนาจสูงสุด แต่พระเจ้า,ด้วยพระปรีชาญาณอันไม่มีขอบเขตของพระองค์,ได้ยอมให้ซาตานดำเนินการในโลกนี้ภายในขอบเขตที่พระเจ้าได้ทรงกำหนดไว้สำหรับมัน เมื่อพระคัมภีร์กล่าวว่าซาตานมีอำนาจเหนือโลก เราต้องจำไว้ว่าพระเจ้าประทานอำนาจแก่มันเหนือผู้ที่ไม่เชื่อเท่านั้น ผู้เชื่อไม่อยู่ภายใต้การปกครองของซาตานอีกต่อไป (โคโลสี 1:13) ในทางกลับกัน ผู้ไม่เชื่อก็ติดอยู่ใน "บ่วงของมาร" (2 ทิโมธี 2:26) ตกอยู่ใน "อำนาจของมารร้าย" (1 ยอห์น 5:19) และตกเป็นทาสของซาตาน ( เอเฟซัส 2:2)  

วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2567

วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2567

รูปภาพพระนางมารีย์โดย AI


ภาพเหมือนของพระนางมารีย์ที่สร้างขึ้นโดยอ้างอิงผ้าพันพระศพแห่งตูรินและเครื่องมือ AI
>>>อ่านต่อ