พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2567

ซาตานปกครองโลกอย่างไร

ซาตานเป็นเทพเจ้าของโลกได้อย่างไร? พระคัมภีร์ 2โครินทร์ 4:4 บอกเราว่า “ซาตานเป็นเทพเจ้าของโลก เขาทำให้จิตใจของคนมืดบอด เพื่อที่จะไม่เห็นแสงสว่างคือข่าวดีเรื่องพระสิริรุ่งโรจน์ของพระคริสตเจ้า” ภาษากรีกเรียกโลกว่า คอสมอส มันเป็นโลกทางกายภาพซึ่งได้แก่ ระเบียบ, แฟชั่น, สังคม, ความบันเทิง, การศึกษา,ฯลฯ และนักบุญเปาโลได้อธิบายว่า ซาตานสร้างอิทธิพลของมันโดยผ่านทางระบบต่างๆที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ปีศาจใช้อำนาจปกครองของมันอย่างไร? มันทำงานผ่านทาง การเมือง,ความบันเทิงรูปแบบต่างๆ,การศึกษา มันทำงานทั้งหมดนี้โดยอยู่เบื้องหลัง,คอยชักใยผู้คนเหมือนหุ่นเชิดในมือของมัน 
มันทำงานโดยผ่านทางมนุษย์ในระบบของโลก,โดยการฉีดความคิดชั่วร้ายของมันเข้าไปในจิตใจของมนุษย์ เหมือนกับที่เครื่องส่งโทรทัศน์ถ่ายทอดสัญญาณไปในอากาศ,ถึงเครื่องรับในบ้านของผู้คน การเปรียบเทียบนี้สามารถช่วยให้เราเห็นว่าเหตุใดพระคัมภีร์จึงเรียกซาตานว่า “เทพนิกรเจ้าผู้ปกครองชั้นบรรยากาศ คือจิตที่ทำงานในมนุษย์ที่ไม่ยอมเชื่อฟัง ทุกคนก็เคยประพฤติเช่นนี้ในอดีต ปล่อยตนตามราคตัณหา ปฏิบัติตนตามความต้องการและความคิดโดยธรรมชาติฝ่ายต่ำ เราจึงน่าจะถูกพระเจ้าลงโทษเช่นเดียวกับคนอื่น” (เอเฟซัส 2:2–3) 
นี่ไม่ได้หมายความว่ามันปกครองโลกโดยสมบูรณ์ พระเจ้ายังคงทรงอำนาจสูงสุด แต่พระเจ้า,ด้วยพระปรีชาญาณอันไม่มีขอบเขตของพระองค์,ได้ยอมให้ซาตานดำเนินการในโลกนี้ภายในขอบเขตที่พระเจ้าได้ทรงกำหนดไว้สำหรับมัน เมื่อพระคัมภีร์กล่าวว่าซาตานมีอำนาจเหนือโลก เราต้องจำไว้ว่าพระเจ้าประทานอำนาจแก่มันเหนือผู้ที่ไม่เชื่อเท่านั้น ผู้เชื่อไม่อยู่ภายใต้การปกครองของซาตานอีกต่อไป (โคโลสี 1:13) ในทางกลับกัน ผู้ไม่เชื่อก็ติดอยู่ใน "บ่วงของมาร" (2 ทิโมธี 2:26) ตกอยู่ใน "อำนาจของมารร้าย" (1 ยอห์น 5:19) และตกเป็นทาสของซาตาน ( เอเฟซัส 2:2)  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น