พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2024 สมโภชพระจิตเจ้า

           ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้บรรดาศิษย์ดูพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกาย เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็มีความยินดี พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น”
           ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย”
(ยอห์น 20:19-23)








วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559

สาส์นแม่พระ2+25มี.ค.2016

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 มี.ค. 2016
ลูกที่รักทั้งหลาย
ในวันนี้แม่นำความรักของแม่มาหาลูก  พระเป็นเจ้าทรงอนุญาติให้แม่รักลูกและเรียกลูกด้วยความรักนี้ให้ลูกกลับใจ  ลูกน้อยทั้งหลาย  ลูกยังยากจนนักในความรัก  และลูกยังคงไม่เข้าใจว่า  พระเยซูองค์พระบุตรของแม่ - ด้วยความรัก – พระองค์ทรงมอบชีวิตของพระองค์เองเพื่อช่วยลูกให้รอดและมอบชีวิตนิรันดรให้แก่ลูก  เพราะฉะนั้น  ลูกน้อยทั้งหลาย  จงสวดภาวนา  สวดภาวนาเพื่อที่ว่า  ในการสวดภาวนานั้นลูกจะได้เข้าใจในความรักของพระเจ้า
ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
 สาส์นแม่พระประทานแก่ มีรยานา 2 มี.ค. 2016
ลูกที่รักทั้งหลาย
การที่แม่มาหาพวกลูกนี้เป็นพระพรสำหรับพวกลูกจากพระบิดาสวรรค์ 
โดยความรักของพระองค์แม่จึงได้มาเพื่อช่วยพวกลูกให้ได้พบหนทางไปสู่ความจริง 
และลูกจะได้พบหนทางไปสู่องค์พระบุตรของแม่ 
แม่มาเพื่อยืนยันความจริงแก่ลูก 
แม่ต้องการเตือนพวกลูกเกี่ยวกับพระวาจาขององค์พระบุตรของแม่ 
พระองค์ทรงประกาศพระวาจาแห่งความรอดสำหรับโลกทั้งมวล 
เป็นพระวาจาแห่งความรักสำหรับมนุษย์ทุกๆคน 
ความรักซึ่งได้พิสูจน์แล้วโดยการพลีพระชนม์ชีพของพระองค์เป็นยัญบูชา 
แต่แม้แต่ในเวลานี้  ลูกของแม่จำนวนมากก็ยังไม่รู้จักพระองค์ 
พวกเขาไม่ต้องการที่จะมารู้จักพระองค์  พวกเขาไม่สนใจใยดี 
และเพราะความไม่สนใจใยดีของพวกเขา  ดวงใจของแม่จึงปวดร้าวและเป็นทุกข์  
องค์พระบุตรของแม่ทรงอยู่ในพระบิดาเสมอ 
โดยการเสด็จมาบังเกิดในโลก  พระองค์ทรงนำความศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ลงมาและทรงรับเนื้อหนังจากแม่บังเกิดเป็นมนุษย์ 
องค์พระวจนาตถ์ทรงมาประทับอยู่ท่ามกลางพวกเรา 
พระองค์คือแสงสว่างของโลกซึ่งแทงทะลุเข้าไปในหัวใจมนุษย์ 
ทรงส่องสว่างภายในพวกเขาและเติมเต็มพวกเขาด้วยความรักและความบรรเทา 
ลูกๆทั้งหลายของแม่  ทุกคนที่รักองค์พระบุตรของแม่สามารถมองเห็นพระองค์ได้ 
เพราะพระพักตร์ของพระองค์สามารถมองเห็นได้โดยอาศัยวิญญาณที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักต่อพระองค์ 

เพราะฉะนั้น,ลูกๆทั้งหลายของแม่  อัครสาวกของแม่  จงฟังแม่เถิด 
จงละทิ้งความไร้สาระและความเห็นแก่ตัว 
จงอย่ามีชีวิตเพียงเพื่อสิ่งที่เป็นของโลกและวัตถุสิ่งของ 
จงรักองค์พระบุตรของแม่และรักมากๆจนกระทั่งผู้อื่นสามารถมองเห็นพระพักตร์ของพระองค์โดยผ่านทางความรักของพวกลูกที่มีต่อพระองค์ 
แม่จะคอยช่วยเหลือลูกให้มารู้จักพระองค์ให้มากขึ้น 
แม่จะพูดกับพวกลูกเกี่ยวกับพระองค์

ขอขอบใจลูก

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559

มรณสักขีในเยเมน


ซิสเตอร์คณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม 4 คนถูกฆ่าในเยเมน
โปรดสวดภาวนาสำหรับซิสเตอร์ 4 คนในคณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม และพระสงฆ์ซาเลเซียน
ซิสเตอร์ 4 ท่านในคณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรมของคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา  ถูกกลุ่มกบฏ ISIS ในเยเมน ฆ่าตาย และมีพระสงฆ์ซาเลเซียน 1 ท่านที่หายตัวไปด้วย (Father Tom Uzhunnanil)   ทั้งหมดทำงานธรรมฑูตและรับใช้ผู้เจ็บไข้ในหมู่บ้านเอเดน  ในประเทศเยเมน
ซิสเตอร์ทั้ง 4 ท่านมาจากอินเดีย  เข้ามาทำงานช่วยเหลือคนยากจนในเยเมนในบ้านแห่งหนึ่ง
กลุ่มกบฏแกล้งบอกยามที่เฝ้าบ้านว่า  เขามาหาแม่ของเขา  เมื่อกบฏเข้าไปในบ้านก็นำปืนออกมากราดยิงทุกคน  แล้วก็หนีไปทันที  คนที่เสียชีวิตคือ  Sr. Anslem, Sr. Judith, Sr. Marguerite, and Sr. Reginette, พร้อมกับอาสาสมัครจากเอธิโอเปีย และเยเมนประมาณ 16 คน พบว่าทุกคนถูกมัดมือและถูกยิงที่ศีรษะ   ส่วนพระสงฆ์ซาเลเซียน Father Tom Uzhunnanil  อาจถูกลักพาตัวและยังหาไม่พบ.
Sr. Anslem มาจาก Ranchi, India และจะมีอายุ 60 ปี, Sr. Judith เป็นชาว Kenya มีอายุ 41 ปี,  Sr. Marguerite เป็นชาว  Rwanda มีอายุ 44ปี ,  Sr. Reginette เป็นชาว Rwanda มีอายุ 33 ปี

วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2559

สันติสุขในพระเจ้า

            จงพยายามที่จะอยู่ในสันติสุขและความสงบที่พระเป็นเจ้าทรงประทานแก่ท่านเถิด  นักบุญเปาโลกล่าวว่า “สันติสุขของพระเป็นเจ้า  ซึ่งอยู่เหนือความเข้าใจทุกประการ  จะทำให้หัวใจและจิตใจของท่านคงอยู่ในพระคริสตเยซู” (ฟป. 4:7)  เมื่อพิจารณาคำที่ท่านนักบุญกล่าวถึงสันติสุขของพระเป็นเจ้าว่า “อยู่เหนือความเข้าใจทุกประการ”?  นั่นเป็นการบอกท่านว่า  ท่านไม่ควรยุ่งยากใจไปกับอารมณ์ความรู้สึกต่างๆของท่าน  แต่ให้ดำรงอยู่ในสันติสุขของพระเป็นเจ้าเท่านั้น  สันติสุขของพระเป็นเจ้าเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าเราทำตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าและอยู่ในหนทางที่พระเป็นเจ้าทรงนำเราไป  จงเดินไปอย่างมั่นคงในหนทางที่พระญาณเอื้ออาทรของพระเป็นเจ้าทรงวางเราไว้  โดยไม่เหลียวมองทางซ้ายหรือทางขวา
นั่นคือหนทางแห่งความสมบูรณ์พร้อมสำหรับท่าน  นี่คือความพึงพอใจของจิตวิญญาณ  ถึงแม้มันอาจขาดรสชาติไปบ้าง  แต่ก็มีค่ามากยิ่งกว่าการปลอบประโลมใจเป็นร้อยพันเท่า  ถ้าหากพระเป็นเจ้าทรงประสงค์ให้ท่านเผชิญกับความยากลำบาก  ท่านต้องรับไว้จากพระหัตถ์ของพระองค์  เป็นพระหัตถ์ที่ท่านต้องยึดกุมไว้เสมอ  ต้องไม่ปล่อยมือจากพระองค์  จนกว่าพระองค์จะนำท่านไปสู่ปลายทางแห่งความสมบูรณ์พร้อมของท่าน  ท่านจะได้เห็นว่า  พระญาณเอื้ออาทรของพระเป็นเจ้าจะสัมฤทธิ์ผลในทุกสิ่งตามความตั้งใจของท่าน  และทรงทำให้น้ำใจของท่านสอดคล้องกับน้ำพระทัยของพระองค์  สิ่งที่ท่านจำเป็นต้องมีก็คือความกล้าหาญและจิตใจที่มั่นคงสักเล็กน้อยเท่านั้น
จากหนังสือ Roses Among Thorns  ของนักบุญ ฟรังซิส  เดอ  ซาล 

วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559

ความทุกข์ทรมานในนรก

ดิฉันเขียนสิ่งเหล่านี้ตามคำสั่งของพระเป็นเจ้า  เพื่อที่จะไม่มีวิญญาณไดมีข้อแก้ตัวและอาจพูดได้ว่าไม่มีนรก  หรือพูดว่าไม่เคยมีใครไปอยู่หรือเห็นนรกมาก่อน
>>>อ่านต่อ 

วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2559

การค้นพบตนเอง

หากปราศจากการรู้จักกระแสเรียกของพระเป็นเจ้าและ หนทางที่พระองค์ประสงค์ให้เราเดินไป  เราก็จะไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรและจะต้องเดินไปทางไหน 
>>>อ่านต่อ