พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2024 สมโภชพระจิตเจ้า

           ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้บรรดาศิษย์ดูพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกาย เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็มีความยินดี พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น”
           ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย”
(ยอห์น 20:19-23)








วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559

อัศจรรย์ศีลมหาสนิทที่โปแล้นด์


ที่ประเทศโปแลนด์  พระสังฆราชแห่งเล็กนิก้า Zbigniew Kiernikowski ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า  แผ่นศีลมหาสนิทที่มีการหลั่งเลือดออกมานั้น “เป็นอัศจรรย์ที่แท้จริงของศีลมหาสนิท” และรับรองให้สามารถเคารพสักการะศีลมหาสนิทนี้ได้  พระสังฆราชประกาศในวันอาทิตย์ที่ 17 เม.ย. 2016 นี้
ในวันคริสต์มาส วันที่ 25 ธ.ค. 2013 ที่โบสถ์นักบุญจาเซค St. Jacek parish  ขณะที่พระสงฆ์กำลังแจกศีลมหาสนิท  แผ่นศีลแผ่นหนึ่งได้ตกลงที่พื้น พระสงฆ์เก็บขึ้นมาและนำไปใส่ในแก้วน้ำตามวิธีที่ปฏิบัติ  ต่อมาแผ่นศีลได้มีสีแดงเหมือนเลือดปรากฏขึ้น  พระสังฆราชแห่งเล็กนิก้า bishop of Legnica Bp. Stefan Cichy  ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบปรากฏการณ์นี้  ในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 ได้นำชิ้นส่วนเล็กน้อยของส่วนที่เป็นสีแดงไปวิเคราะห์โดย Department of Forensic Medicine in Wroclaw  ผลการวิเคราะห์ได้รายงานว่า  ส่วนที่เป็นสีแดงนั้นเป็นเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อตามขวางของมนุษย์  ซึ่งเหมือนกับเนื้อเยื่อหัวใจ  และมีลักษณะของการได้รับการกระทำทารุณ”
พระสังฆราชกล่าวว่า แผ่นศีลนี้มีลักษณะของ “อัศจรรย์ศีลมหาสนิท” และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ท่านได้นำเรื่องนี้เข้าในสำนักงานคำสอนด้านความเชื่อที่วาติกัน
ในเดือนพฤษภาคม   ตามคำแนะนำของสันตสำนัก  พระสังฆราชได้สั่งให้พระสงฆ์คือคุณพ่อ Andrzej Ziombrze  ของโบสถ์ได้เตรียมที่เก็บและสถานที่อันเหมาะสมสำหรับศีลมหาสนิทนี้  เพื่อที่ประชาชนจะได้เคารพสักการะได้

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559

นิมิตของนักบุญโฟสตินา2

ในระหว่างการเฝ้าศีลมหาสนิท ดิฉันเฝ้าสวดภาวนาด้วยคำพูดว่า “พระเป็นเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์”  ทันใดนั้นพระองค์ทรงปรากฏแล้วดิฉันก็ตื่นตะลึงในความยิ่งใหญ่ของพระองค์
>>>อ่านต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2559

คำพยากรณ์

“เราต้องติดตามพระเยซูเจ้าเท่านั้น  ไม่ใช่ติดตามผู้ทำนายโชคชะตาหรือผู้อ้างว่าเห็นแม่พระซึ่งไม่ได้รับการรับรอง” >>>อ่านต่อ 

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2559

Susan Boyle - How Great Thou Art



เพลงนี้มาจากบทกวีของ Carl Gustav Boberg (1859-1940) ชาวสวีเดนประพันธ์ในปี 1885  ตอนแรกเป็นเพลงในภาษาสวีดิชแล้วแปลเป็นภาษาอังกฤษอีกที  นักกวีผู้นี้ได้รับแรงบันดาลใจขณะที่เดินจากโบสถ์กลับไปที่บ้านแล้วได้ยินเสียงระฆังดังขึ้นพร้อมทั้งเห็นภาพทิวทัศน์ของอ่าวMönsteras   ที่สวยงามและมีพลังยิ่งใหญ่ทำให้เขารู้สึกถึงความสงบสันติสุขในจิตใจ  ทำให้เขาและเพื่อนเดินกลับไปที่โบสถ์เพื่อร่วมพิธีอีกครั้งหนึ่ง
O Lord my God!
When I in awesome wonder
Consider all the works
Thy hands have made.
I see the stars,
I hear the rolling thunder,
Thy power throughout the universe displayed.

Then sings my soul, my Saviour God, to Thee;
How great Thou art, how great Thou art!
Then sings my soul, My Saviour God, to Thee:
How great Thou art, how great Thou art!
 
 

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2559

พระสันตปาปากิติคุณเบเนดิกต์ที่16



พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 จะมีอายุครบ 89 ปีในวันเสาร์ที่ 15 เม.ย. 2016 นี้ พระองค์ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งพระสันตปาปาว่า “ด้วยใจอิสระของข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าขอประกาศว่า ข้าพเจ้าขอลาออกจากตำแหน่งพระสังฆราชแห่งโรม”  ภารกิจใหม่ของพระองค์คือการช่วยเหลือพระสันตปาปาองค์ใหม่และจะไม่พูดในที่สาธารณะ  เราอาจได้ติดต่อพระองค์ได้ทางเดียวคือจากเฟสบุ๊คในพระนามของพระองค์

วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2559

นิมิตของนักบุญโฟสตีนา1



ความยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า
พระสิริรุ่งโรจน์ของพระเป็นเจ้านั้นยิ่งใหญ่มากจนดิฉันไม่กล้าที่จะอธิบาย  เพราะดิฉันไม่สามารถอธิบายได้ดีพอ  และคนที่อ่านอาจคิดว่าพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเป็นเจ้ามีเพียงเท่าที่ดิฉันอธิบายเท่านั้น
พระเยซูเจ้าทรงให้ดิฉันรู้ถึงความยินดีในสวรรค์และความยินดีของบรรดานักบุญเมื่อพวกท่านได้ไปถึงที่นั่น  พวกท่านรักพระเป็นเจ้าด้วยสิ้นสุดจิตใจของท่าน  แต่ท่านก็ยังมีหัวใจอันอ่อนโยนในความรักต่อพวกเราด้วย
ความชื่นชมยินดีของบรรดานักบุญเหล่านี้ฉายแสงมาจากพระพักตร์ของพระเป็นเจ้าลงมายังพวกท่าน  เพราะพวกท่านได้เห็นพระองค์หน้าต่อหน้า  พระพักตร์ของพระองค์ช่างอ่อนหวานจนทำให้วิญญาณตกอยู่ในภวังค์