พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2564

คำพูดของคุณพ่อปีโอ


“ผู้ที่ต้องการเป็นที่หนึ่ง ต้องยอมเป็นคนสุดท้ายและรับใช้ผู้อื่น” (มาร์โก 9:35)
“ชีวิตของคริสตชนหาใช่อะไรอื่นไม่ นอกจากเป็นการต่อสู้กับตนเองตลอดเวลา ไม่มีดอกไม้แห่งวิญญาณใดที่จะงดงามในความสมบูรณ์เพียบพร้อมของตนเอง โดยปราศจากการยอมรับความเจ็บปวด”
 
- นักบุญคุณพ่อปีโอ (1887-1968)
 
 

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2564

พระรูปแม่พระท่ามกลางพายุ

 
ภาพอันน่าทึ่งของพระรูปพระแม่มารีย์ยืนอยู่บนที่สูงรายล้อมไปด้วยต้นไม้ที่โค่นล้มร่วงหล่น ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2021 โดยโบสถ์คาทอลิกเซนต์ฮิวเบิร์ต ในเมืองแกรีวิลล์ รัฐลุยเซียนา เมืองเล็กๆ ที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ ห่างจากเมืองนิวออร์ลีนส์ไปทางตะวันตก 40 ไมล์
ภาพเงาสะท้อนบนน้ำของรูปปั้นแม่พระแห่งพระหรรษทาน(Our Lady of Grace)ตามที่เห็นในเหรียญอัศจรรย์ที่มอบให้กับนักบุญคัทรีน ลาบูเรย์(St. Catherine Labouré)ส่องแสงระยิบระยับในกระแสน้ำ
 
เช่นเดียวกับชุมชนหลายแห่งในรัฐลุยเซียนาตอนใต้ แกรีวิลล์ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนไอดา ซึ่งเป็นพายุระดับ 4 ที่ก่อให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรง 150 ไมล์ต่อชั่วโมง เป็นพายุลูกหนึ่งที่พัดถล่มชายฝั่งกัลฟ์โคสต์ หลังคาถูกทำลาย อาคารและโครงสร้างพื้นฐานล้มลง ทำให้ผู้คนกว่า 1 ล้านคนต้องตกอยู่ในความมืดเป็นเวลาหลายวัน
 
คำบรรยายภาพบนเฟซบุ๊กเขียนว่า “ท่ามกลางต้นไม้ที่ถูกทำลาย พระแม่มารีย์ได้ยืนหยัดปกป้องหมู่บ้านแกรีวิลล์ของเรา ไม่มีกิ่งไม้ใดมาแตะต้องเธอขณะที่พวกมันร่วงหล่นอยู่รอบตัวเธอ ขอบคุณพระแม่มารีย์ที่ทรงสวดภาวนาเพื่อพวกเรา”
📷: โดยความอนุเคราะห์จากโบสถ์คาทอลิก St. Hubert, Garyville, Louisiana
 
 

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2564

การเต้นรำในพิธีกรรม


เมื่อจิตวิญญาณถูกยกขึ้นหาพระเจ้าในการอธิษฐานภาวนา มันก็เกี่ยวข้องกับร่างกายด้วย
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2564

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2564

หญิงใจศรัทธากับคุณพ่อปีโอ


สามีของหญิงคนหนึ่งกำลังป่วยหนัก ผู้หญิงคนนั้นวิ่งไปที่คอนแวนต์ แต่เธอถามตัวเองว่า “ฉันจะไปหาคุณพ่อปีโอได้อย่างไร” โดยปกติเธอต้องรออย่างน้อยสามวันถ้าเธอต้องการพบท่านเพื่อสารภาพบาป ดังนั้นในระหว่างพิธีมิสซา,เธอจึงยืนขึ้นและเดินจากด้านหนึ่งของโบสถ์ไปยังอีกด้านหนึ่งของโบสถ์ เธออธิษฐานในใจบอกแม่พระว่าปัญหาของเธอคืออะไร และวอนขอแม่พระในเวลาเดียวกันเพื่อให้เธอได้รับความช่วยเหลือจากคุณพ่อปีโอ... หลังจากพิธีมิสซา เธอเดินเข้าไปอยู่ในโบสถ์อีกครั้งเพื่อที่จะไปให้ถึงที่ซึ่งคุณพ่อปีโออยู่ ในที่สุดเธอก็ไปถึงทางเดินที่มีชื่อเสียงที่คุณพ่อปีโอต้องผ่านเป็นประจำ ทันทีที่คุณพ่อปิโอเห็นเธอ,ท่านก็พูดว่า: “ผู้หญิงที่มีความเชื่อน้อย,ในที่สุดลูกก็มาขอความช่วยเหลือจากพ่อ ลูกคิดว่าพ่อหูหนวกหรือ ลูกบอกพ่อห้าครั้งแล้ว,เมื่อลูกอยู่ต่อหน้าพ่อ ที่ด้านหลัง,ทางขวาและทางซ้ายของพ่อ พ่อเข้าใจ! พ่อเข้าใจแล้ว! ...กลับบ้านไปเถิด! ทุกอย่างจะเรียบร้อยดี" ผู้หญิงคนนั้นกลับบ้านและพบว่าสามีของเธอหายจากโรคแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2564

นักบุญโฟสตินาไปไฟชำระ


“ดิฉันเห็นอารักขเทวดาของดิฉัน ท่านสั่งให้ดิฉันตามท่านไป และในชั่วขณะหนึ่ง,ดิฉันก็มาอยู่ในสถานที่ที่ปกคลุมไปด้วยไฟ ที่นั่นมีวิญญาณที่ทุกข์ทรมานอยู่มากมาย พวกเขากำลังสวดภาวนาอย่างสุดจิตใจสำหรับตัวพวกเขาเอง, แต่ก็เปล่าประโยชน์ มีเพียงพวกเราเท่านั้นที่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ เปลวไฟที่แผดเผาพวกเขาไม่ได้สัมผัสดิฉันเลย อารักขเทวดาของดิฉันไม่ได้ละทิ้งฉันไว้แม้เพียงวินาทีเดียว ฉันถามวิญญาณเหล่านี้ว่าความทุกข์ทรมานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาคืออะไร พวกเขาตอบดิฉันเป็นเสียงเดียวว่า “การทรมานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือการโหยหาพระเจ้า” ดิฉันเห็นพระแม่มารีย์เสด็จมาเยี่ยมดวงวิญญาณในไฟชำระ วิญญาณเหล่านั้นเรียกพระนางว่า "ดวงดาราแห่งท้องทะเล" พระนางทรงนำความสดชื่นมาให้พวกเขา ดิฉันอยากคุยกับพวกเขามากกว่านี้ แต่อารักขเทวดากวักมือเรียกให้ฉันไป เราออกจากเรือนจำแห่งทุกขเวทนาแห่งนั้นแล้ว ดิฉันได้ยินเสียงภายใน ซึ่งพูดว่า "ความเมตตาของเราไม่ต้องการสิ่งนี้ แต่ความยุติธรรมเรียกร้อง ตั้งแต่นั้นมา ดิฉันก็ใกล้ชิดกับวิญญาณที่ทุกข์ทรมานเหล่านี้มากขึ้น (ไดอารี่ของนักบุญโฟสตินา #20)  

วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2564

บิชอปแองกลิกันได้ลาออกเพื่อมาเป็นคาทอลิก


ผมขอให้ท่านทั้งหลายเชื่อว่าผมได้ตัดสินใจด้วยการตอบรับการเรียกและการเชื้อเชิญของพระเจ้า
>>>อ่านต่อ