พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2025 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ 2

          (1)ในครั้งนั้น ยอห์น ผู้ทำพิธีล้างมาประกาศสอนในถิ่นทุรกันดารแห่งยูเดีย (2)ยอห์น กล่าวว่า “จงกลับใจเถิดอาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว” (3) ยอห์นผู้นี้คือผู้ที่ประกาศกอิสยาห์ได้กล่าวถึงว่า
(มัทธิว.3:1-12)








วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2568

หลีกเลี่ยงคนเหล่านี้


เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสให้เรารักทุกคน พระคัมภีร์ยังได้แนะนำเราในเรื่องการคบหาสมาคมกับผู้อื่น

สุภาษิต 13:20 กล่าวว่า “ผู้เดินกับผู้มีปรีชาก็จะเป็นผู้มีปรีชาด้วย แต่ผู้คบหากับคนโง่จะได้รับผลร้าย” คำกล่าวนี้เตือนเราระวังการที่ผู้อื่นจะมามีอิทธิพลต่อเรา มีคนประเภทที่พระเจ้าทรงเตือนเราให้หลีกเลี่ยง

สุภาษิต 16:28 “คนตลบตะแลงก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาท ผู้ใส่ร้ายทำให้เพื่อนสนิทผิดใจกัน” คนที่พูดใส่ความนินทา จะคอยกระซิบกระซาบสร้างความแตกแยกและทำลายความสัมพันธ์

2 เปโตร2 “ในอดีต เคยมีผู้ปลอมตนเป็นประกาศกในหมู่ประชากรของพระเจ้า ในหมู่ท่านทั้งหลายจะมีผู้สอนผิดซึ่งพยายามสอดแทรกความคิดมิจฉาทิฐิที่นำความหายนะมาสู่ท่านเช่นเดียวกัน” พระเจ้าทรงเตือนเราให้ระวังคนที่จะนำความเชื่อที่หลงผิดมา จงวอนขอพระจิตเจ้าให้เรารู้ว่าใครเป็นครูที่แท้จริงและใครเป็นครูเท็จเทียม

#CATHOLIC #Proverb

วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2568

การสำนึกผิดใช้โทษบาป


“ท่านต้องการให้ข้าพเจ้าแจกแจงหนทางแห่งการสำนึกผิดใช้โทษบาปหรือ? มีหลายวิธีและทุกวิธีนำไปสู่สวรรค์”

1.หนทางแห่งการสำนึกผิดกลับใจ 
2. หนทางต่อไปคือแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำของเรา 
3. ท่านต้องการทราบหนทางที่สามหรือ? นั่นก็คือการสวดภาวนาด้วยใจร้อนรน, ด้วยความใส่ใจและออกมาจากหัวใจของท่าน 
4. ถ้าท่านอยากฟังหนทางที่สี่ ข้าพเจ้าขอแนะนำการทำบุญให้ทาน ซึ่งมีพลังที่ยิ่งใหญ่ 
5.หนทางที่ห้า อันได้แก่ การดำเนินชีวิตด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ด้วยความสุภาพ มีตัวอย่างในเรื่องนี้ คือเรื่องของคนเก็บภาษีที่เข้าไปสวดภาวนาในพระวิหารด้วยความถ่อมตนและยอมรับว่า เขาเป็นคนบาป เมื่อเขาออกมาจากพระวิหาร, เขากลายเป็นผู้ชอบธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้า เขาได้รับการอภัยบาปจากพระเจ้าและมีความสุขสันติในจิตใจ

จงทำตามหนทางเหล่านี้ทุกวัน มันเป็นหนทางที่ง่าย

- โดยนักบุญ ยอห์น คริสซอสโตม

# Saint 😊🙏🩵

วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2568

แม่พระปฏิสนธินิรมล



              โอ,พระนางมารีย์, พระแม่ช่างสวยงามยิ่งนัก ในพระแม่,ไม่มีร่องรอยของบาปกำเนิดเลยแม้เพียงน้อยนิด” รูปภาพเฟรสโกแม่พระผู้ทรงปฏิสนธินิรมล บนเพดานโบสถ์ Santa Maria dell'Orto ในเมือง Trastever,กรุงโรม
               ที่ลูรดส์,แบร์นาแด็ตได้ขอให้สตรีที่ประจักษ์มาบอกชื่อของเธอ สตรีได้ตอบเป็นภาษาท้องถิ่นว่า “Que soy era Immaculada Counceptiou” แปลว่า “ฉันคือการปฏิสนธินิรมลทิน” แม่พระทรงเกิดมาโดยปราศจากมลทินของบาป โดยอาศัยอำนาจของกางเขนของพระคริสต์(ยัญบูชาของพระเยซูคริสต์) และแบร์นาแด็ตได้แจ้งชื่อนี้แก่พระสงฆ์ประจำโบสถ์ พระสงฆ์จึงตระหนักทันทีว่า สตรีผู้ประจักษ์มาในถ้ำนี้คือพระมารดาของพระเจ้า รูปปั้นแม่พระแห่งลูรดส์ ปั้นโดย Joseph-Hugues Fabisch ประดิษฐานอยู่ที่ถ้ำมัสซาเบียล ที่ซึ่งแม่พระทรงประจักษ์มา

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568

สถานะพระหรรษทาน


สถานะพระหรรษทานคือสถานะของวิญญาณที่เป็นอิสระจากบาปหนักอันร้ายแรง เป็นสถานะที่วิญญาณสวยงามในสายพระเนตรของพระเจ้า! 

ช่างงดงามจริงหนอ! การอยู่ในสถานะแห่งแสงสว่างของสวรรค์ วิญญาณเป็นอิสระจากความผิดและการพิพากษาของมโนธรรม วิญญาณนี้สามารถรับพระกายและพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ได้อย่างเหมาะสมคู่ควร

วิญญาณที่อยู่ในสถานะพระหรรษทานคือวิญญาณที่มีความสุข ดาวิดผู้ประพันธ์เพลงสดุดีกล่าวว่า "ผู้ที่ได้รับอภัยความผิด,และบาปของเขาถูกลบล้าง ย่อมเป็นสุข ผู้ที่พระยาห์เวห์ไม่ทรงกล่าวหาว่าทำผิด และจิตใจของเขาไม่มีความคดโกง ย่อมเป็นสุข" สดุดี 32:1-2 

วิญญาณที่ต่อสู้กับบาปอย่างสุดกำลังเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพระเจ้า เพราะวิญญาณนี้ไม่ได้พำนักอยู่ในอาณาบริเวณที่อันตราย แต่กำลังต่อสู้กับศัตรูของตน และพระเจ้าไม่ทรงละเลยวิญญาณเช่นนั้น! 

# Saint 😊🙏🩵

วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2568

คุณธรรมของ น.ชาร์เบล


วันที่ 1 ธันวาคม พระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงสวดภาวนา ณ สุสานของนักบุญชาร์เบล และทรงเชิญชวนให้ผู้คนเลียนแบบพระองค์ด้วยการสวดภาวนา ความเงียบ ความสุภาพถ่อมตน และความยากจน(prayer, silence, modesty, and poverty.)

นักบุญชาร์เบลไม่ได้เขียนอะไรเลย และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อย่างสันโดษในอาศรมบนเนินเขาอันนายา ประเทศเลบานอน กระนั้น คำสอนของท่านก็ทรงเปี่ยมล้นและมีความหมายอย่างยิ่ง จนพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงเน้นย้ำคำสอนเหล่านี้เมื่อทรงแสดงความเคารพ ณ สุสานของนักบุญในวันที่ 1 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่สองของการเดินทางเผยแผ่พระธรรมของพระองค์ไปยังเลบานอน และทรงเน้นย้ำอีกครั้งในเย็นวันนั้นเมื่อทรงสนทนากับเยาวชน

“พระจิตทรงปั้นท่านขึ้นเพื่อสอนผู้ที่ดำเนินชีวิตโดยปราศจากพระเจ้าให้รู้จัก 
การสวดภาวนา - เพื่อติดต่อกัยพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ 
การรักษาความเงียบ - ผู้ที่จมอยู่กับเสียงรบกวนให้รู้จักการนิ่งเงียบ 
ความสุภาพถ่อมตน - ผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างโอ้อวดให้รู้จักความถ่อมตน 
ความยากจน - และผู้ที่แสวงหาความร่ำรวยให้รู้จักความยากจน 
การปฏิบัติคุณธรรมเหล่านี้ล้วนขัดต่อวัฒนธรรม แต่นั่นคือเหตุผลที่ดึงดูดเรา เฉกเช่นน้ำจืดบริสุทธิ์ที่ดึงดูดผู้คนที่เดินอยู่ในทะเลทราย”

#CATHOLIC #NEWS

วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2568

คุณแม่คาบรินีกับเรือไททานิก


ภาพถ่ายของนักบุญฟรานเซส คาบรินี จากปี 1880 ซึ่งเป็นปีที่เธอก่อตั้งคณะของเธอ ปรากฏอยู่บนภาพวาดปี 1913 โดยแฮร์รี เจ. แจนเซน เรื่อง “เรือกลไฟไททานิค”

ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1912 คุณแม่ฟรานเซส คาบรินี อยู่ที่อิตาลีพร้อมกับพี่สาวน้องสาวของเธอ เธอวางแผนที่จะไปเยี่ยมคณะที่เธอก่อตั้งในฝรั่งเศส สเปน และอังกฤษ ก่อนที่จะล่องเรือกลับสหรัฐอเมริกาในช่วงกลางเดือนเมษายนเพื่อทำงานต่อในนิวยอร์กซิตี้ พี่สาวของเธอในอังกฤษต่างรอคอยการมาเยือนครั้งนี้จากผู้ก่อตั้งและคุณแม่อธิการวัย 62 ปีอย่างใจจดใจจ่อ เพื่อช่วยให้การเดินทางกลับสหรัฐอเมริกาของเธอสะดวกสบายยิ่งขึ้น พวกเขาจึงซื้อตั๋วให้เธอและจองตั๋วโดยสารเรือเดินสมุทรลำใหม่ RMS Titanic

คุณแม่คาบรินีเป็นนักเดินทางผู้กล้าหาญที่ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกถึง 24 แห่งเพื่อก่อตั้งอาราม, โรงพยาบาล, และสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทั่วสหรัฐ แต่เธอกลับไม่ชอบการเดินทางโดยเรือ เพราะเธอเกือบจะจมน้ำตายตอนที่ยังเป็นเด็ก

ขณะที่พี่น้องสตรีในอังกฤษกำลังรออยู่, คุณแม่คาบรินีได้รับข่าวว่าโรงพยาบาลโคลัมบัสที่เธอก่อตั้งขึ้นในนิวยอร์กกำลังประสบปัญหา โรงพยาบาลเต็มล้นและมีธุระเร่งด่วนที่ต้องจัดการเกี่ยวกับการขยายโรงพยาบาลใหม่ เธอรอไม่ไหว เธอต้องกลับไปหาเงินทุนที่จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อดำเนินโครงการต่อไป เธอจึงเปลี่ยนแผนและออกเดินทางแต่เช้าโดยออกเดินทางจากเนเปิลส์ ทำให้พี่น้องสตรีในอังกฤษที่จองตั๋วโดยสารเรือไททานิกให้เธอต้องผิดหวัง แต่ทำให้คุณแม่คาบรินีมีชีวิตรอดจากการจมไปกับเรือไททานิก

# Faith 😊🙏🩵

วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568

การแพร่ธรรมของ น.ฟรังซิส เซเวียร์


แน่นอนว่าด้วยวัฒนธรรมและภาษาที่แตกต่างกันสุดขั้ว ภารกิจของนักบุญฟรังซิสจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงอย่างนั้นท่านก็พยายามอย่างหนัก มีการแปลคู่มือสอนศาสนาในรูปแบบปุจฉา-วิสัชนา เป็นภาษาทมิฬที่ชาวพื้นเมืองใช้สื่อสาร ท่านเดินทางจากหมู่บ้านหนึ่งไปหมู่บ้านหนึ่งเพื่อเผยแผ่ศาสนา จนช่วงเดือนท้ายๆ ของปี 1544 มีชาวพื้นเมืองเข้าพิธีศีลล้างบาปนับหมื่นคน...

นักบุญฟรังซิสยังมีบทบาทด้านศาสนาในหมู่เกาะมาเลย์ เช่นที่หมู่เกาะโมลุกกะ (หมู่เกาะเครื่องเทศ) ในอินโดนีเซีย รวมถึงที่มะละกา เมืองศูนย์กลางการค้าของมาเลเซีย ซึ่งช่วงที่อยู่มะละกา ท่านได้สนทนากับ อันจิโร (Anjirō) ชายชาวญี่ปุ่นที่สนใจศาสนาคริสต์อย่างลึกซึ้ง และเข้ารับศีลล้างบาปในเวลาต่อมา

นี่เองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ นักบุญฟรังซิส เซเวียร์ ต้องการเผยแผ่ศาสนาในญี่ปุ่น

เรือโปรตุเกสนำนักบุญฟรังซิส อันจิโร และคณะ ไปถึงท่าเรือเมืองคาโกชิมา เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี 1549 ท่านได้เดินทางไปหลายเมืองเพื่อปฏิบัติภารกิจ รวมถึงไปที่เกียวโต เมืองหลวงของญี่ปุ่นตอนนั้น แต่จักรพรรดิปฏิเสธไม่ให้ท่านเข้าพบ อย่างไรก็ดี ตลอด 2 ปีกว่าที่พำนักในญี่ปุ่น ท่านสามารถเปลี่ยนชาวญี่ปุ่นให้เข้าพิธีรับศีลล้างบาปได้ถึงราว 2,000 คน

ต่อมา ความสนใจของนักบุญฟรังซิสขยับไปอยู่ที่จีน แต่ไม่มีโอกาสไปถึงจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะจีนปิดประเทศ ประกอบกับท่านเริ่มป่วยไข้หนัก กระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 3 ธันวาคม ปี 1552 บนเกาะช่างชวน (Shangchuan) มณฑลกวางตุ้ง

ส่วน “ศาสนาคริสต์” ในญี่ปุ่นก็มีผู้สนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ประมาณการว่าช่วงปลายศตวรรษที่ 16 มีผู้นับถือมากถึงราว 300,000 คน...

# SAINT 😊🙏🩵