บุญราศี ไดนา เบแลนเจอร์ (Bl.Dina Belanger 1897-1929)วันหนึ่งในช่วงเวลาการเฝ้าศีลมหาสนิท,พระเยซูทรงแสดงให้ไดนาเห็นวิญญาณจำนวนมากมายที่กำลังอยู่บนขอบเหวของนรก หลังจากเสร็จสิ้นการเฝ้าศีล,พระเยซูทรงแสดงให้เห็นวิญญาณเหล่านั้นอยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้า พระเยซูทรงบอกเธอว่า โดยอาศัยการสวดภาวนาในเวลาเฝ้าศีลมหาสนิท,วิญญาณจำนวนมากมายได้ไปสู่สวรรค์ วิญญาณซึ่งควรจะต้องตกนรก เพราะบุคคลหนึ่งสามารถทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตของผู้อื่นได้ด้วยการได้รับพระหรรษทานอันมีค่าที่มีประสิทธิภาพเพื่อพวกเขา
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2025 ฉลองการถวายพระกุมารในพระวิหาร
  เมื่อครบกำหนดเวลาที่มารดาและบุตรจะต้องทำพิธีชำระมลทินhตามธรรมบัญญัติของโมเสส โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารไปที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า มีเขียนไว้ในธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า จะต้องถวายบุตรชายคนแรกแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และถวายเครื่องบูชาคือนกเขาหนึ่งคู่หรือนกพิราบสองตัวiตามที่มีกำหนดไว้ในธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า เวลานั้น ที่กรุงเยรูซาเล็ม ชายผู้หนึ่งชื่อสิเมโอน เป็นคนชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้า เขารอคอยความรอดพ้นของอิสราเอล พระจิตเจ้าสถิตกับเขา และทรงเปิดเผยให้เขารู้ว่า เขาจะไม่ตายก่อนที่จะได้เห็นพระคริสต์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าj พระจิตเจ้าทรงนำสิเมโอนเข้าไปในพระวิหาร ขณะที่โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารเข้ามาปฏิบัติตามที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ สิเมโอนรับพระกุมารมาอุ้มไว้ และกล่าวถวายพระพรแด่พระเจ้าว่า
  ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า บัดนี้ พระองค์ทรงปล่อยผู้รับใช้ของพระองค์ไปเป็นสุขตามพระดำรัสของพระองค์ เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดพ้น ผู้ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับนานาประชาชาติ เป็นแสงสว่างเปิดเผยให้คนต่างชาติรู้จักพระองค์ และเป็นสิริรุ่งโรจน์สำหรับอิสราเอลประชากรของพระองค์
  โยเซฟประหลาดใจในถ้อยคำที่กล่าวถึงพระกุมาร พระนางมารีย์ก็ทรงรู้สึกเช่นเดียวกัน สิเมโอนอวยพรท่านทั้งสองคนและกล่าวแก่พระนางมารีย์พระมารดาว่า “พระเจ้าทรงกำหนดให้กุมารนี้เป็นเหตุให้คนจำนวนมากในอิสราเอลต้องล้มลงหรือลุกขึ้น และเป็นเครื่องหมายแห่งการต่อต้านl เพื่อความในใจของคนจำนวนมากจะถูกเปิดเผย” ส่วนท่าน ดาบจะแทงทะลุจิตใจของท่าน
(ลูกา 2 :22-35)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2025 ฉลองการถวายพระกุมารในพระวิหาร
  เมื่อครบกำหนดเวลาที่มารดาและบุตรจะต้องทำพิธีชำระมลทินhตามธรรมบัญญัติของโมเสส โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารไปที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า มีเขียนไว้ในธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า จะต้องถวายบุตรชายคนแรกแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และถวายเครื่องบูชาคือนกเขาหนึ่งคู่หรือนกพิราบสองตัวiตามที่มีกำหนดไว้ในธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า เวลานั้น ที่กรุงเยรูซาเล็ม ชายผู้หนึ่งชื่อสิเมโอน เป็นคนชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้า เขารอคอยความรอดพ้นของอิสราเอล พระจิตเจ้าสถิตกับเขา และทรงเปิดเผยให้เขารู้ว่า เขาจะไม่ตายก่อนที่จะได้เห็นพระคริสต์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าj พระจิตเจ้าทรงนำสิเมโอนเข้าไปในพระวิหาร ขณะที่โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารเข้ามาปฏิบัติตามที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ สิเมโอนรับพระกุมารมาอุ้มไว้ และกล่าวถวายพระพรแด่พระเจ้าว่า
  ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า บัดนี้ พระองค์ทรงปล่อยผู้รับใช้ของพระองค์ไปเป็นสุขตามพระดำรัสของพระองค์ เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดพ้น ผู้ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับนานาประชาชาติ เป็นแสงสว่างเปิดเผยให้คนต่างชาติรู้จักพระองค์ และเป็นสิริรุ่งโรจน์สำหรับอิสราเอลประชากรของพระองค์
  โยเซฟประหลาดใจในถ้อยคำที่กล่าวถึงพระกุมาร พระนางมารีย์ก็ทรงรู้สึกเช่นเดียวกัน สิเมโอนอวยพรท่านทั้งสองคนและกล่าวแก่พระนางมารีย์พระมารดาว่า “พระเจ้าทรงกำหนดให้กุมารนี้เป็นเหตุให้คนจำนวนมากในอิสราเอลต้องล้มลงหรือลุกขึ้น และเป็นเครื่องหมายแห่งการต่อต้านl เพื่อความในใจของคนจำนวนมากจะถูกเปิดเผย” ส่วนท่าน ดาบจะแทงทะลุจิตใจของท่าน
(ลูกา 2 :22-35)
วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2568
วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2568
พระศาสนจักรในประเทศจีน
คริสต์ศาสนาคาทอลิกมาถึงประเทศจีนในศตวรรษที่ 7 Alopen พระสงฆ์ในคณะ Nestorian ได้นำคริสตศาสนามาสู่ประเทศจีนโดยผ่านทางเส้นทางสายไหม
ในปี 1924 พระสงฆ์คณะฟรังซิสกันชาวอิตาลี John of Montecorvino เป็นมิชชันนารีคาทอลิกคนแรกที่มาประเทศจีน ท่านได้สร้างโบสถ์ขึ้นที่ Khanbaliq (ปัจจุบันคือปักกิ่ง) และทำให้เจ้าหน้าที่ชาวจีนชนชั้นสูงกลับใจ
ในปี 1582 แมทธีโอ ริชชี่(Matteo Ricci) มิชชันนารีคณะเยซูอิตได้มาถึงประเทศจีนในรัชสมัยราชวงศ์หมิง
ในปี 1685 เกรโกรี่ ลู่ วานเฉา(Gregory Luo Wenzao) เป็นพระสังฆราชคาทอลิกชาวจีนคนแรก
ในปี 1692 จักรพรรดิคังซีได้ออกคำสั่งให้ยอมรับคริสตศาสนาในประเทศจีน
ระหว่างปี 1706-1723 จักรพรรดิคังซีได้ถอนการสนับสนุนคริสตศาสนา อันเนื่องมาจากมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับจารีตประเพณีจีนดั้งเดิม
มีพระศาสนจักรสองประเภทที่อยู่ภายใต้การปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ คือ พระศาสนจักรผู้รักชาติ (พระศาสนจักรบนดิน)และ พระศาสนจักรที่ยังจงรักภักดีต่อสันตะสำนัก (พระศาสนจักรใต้ดิน)
จำนวนชาวคาทอลิกมีอัตราเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกันมายาวนาน 200 ปี แต่ในเวลานี้,อัตราเพิ่มขึ้นได้ลดลงจากอดีต
ปัจจุบันมีชาวคาทอลิกในประเทศจีน 10 ล้านคนตามสถิติในปี 2020
มีการทำนายว่าจำนวนคาทอลิกจะเพิ่มขึ้นในปี 2030 ประมาณ 200 ล้านคน
ตามรายงานของ Phil Nobles, ประชากรจีนมีประมาณ 1,400 ล้านคน ชาวจีนคาทอลิก 10 ล้านคน เป็นเพียง 00.71% ของประชากรชาวจีนเท่านั้น ไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ
เมื่อพิจารณาจากจำนวนประชากรแล้ว ฟิลิปปินส์มีชาวคาทอลิก 80% หรือ 93 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 115 ล้านคน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฟิลิปปินส์จึงเป็นประเทศคาทอลิกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
ขอให้เราสวดภาวนาเพื่อพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศจีน
วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2568
ทูตสวรรค์เป็นความจริง
ท่านนักบุญเทเรซาบอกเราว่า ทูตสวรรค์เป็นความจริง ท่านเป็นครูอาจารย์ฝ่ายจิตที่พระเจ้าทรงส่งมาเพื่อทำให้ความเชื่อของเราเข้มแข็ง บัดนี้มาฟังเรื่องนิมิตที่พิเศษมากของนักบุญเทเรซาแห่งอาวิลาเถิด
“ฉันเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งอยู่ข้างๆฉัน,ทางด้านซ้ายของฉัน,โดยมีร่างกาย เขามีรูปร่างเล็กและสวยงามมาก ใบหน้าดูน่าหลงใหล เขาดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในทูตสวรรค์ที่สูงสุดผู้ซึ่งมีเปลวไฟแห่งความรัก
ฉันเรียกเขาว่า เครูบิม เพราะเขาไม่เคยบอกชื่อของเขาให้ฉันทราบ แต่ฉันเห็นอย่างชัดเจนในสวรรค์ถึงความแตกต่างระหว่างทูตสวรรค์กลุ่มหนึ่งกับอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งฉันไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ และฉันเห็นทูตสวรรค์องค์นั้นกำลังถือหอกทองคำยาวในมือ และปลายหอกดูเหมือนจะเป็นเปลวไฟ เขาได้แทงหอกนั้นทะลุหัวใจของฉัน และเมื่อเขาดึงหอกออกไป,ดูเหมือนจะดึงเอาหัวใจออกมาด้วย ทำให้ฉันอยู่ในเปลวไฟแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ต่อพระเจ้า ความเจ็บปวดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ฉันส่งเสียงคร่ำครวญเป็นเวลานานและความหวานชื่นที่เกิดจากความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสนั้นช่างแสนหวานยิ่งนักจนไม่ปรารถนาให้หลุดพ้นจากมันได้ วิญญาณของฉันไม่สามารถพอใจอะไรได้นอกจากพระเจ้า มันไม่ใช่ความเจ็บปวดฝ่ายร่างกายแต่เป็นฝ่ายวิญญาณ ถึงแม้ว่าร่างกายจะมีส่วนรับรู้สึกด้วยไม่มากก็น้อย มันเป็นความเจ็บปวดที่น่ายินดี และวิญญาณใช้มันอย่างดีที่สุดไม่ใช่เพื่อสิ่งใดนอกจากเพื่อพระเจ้าเท่านั้น”
วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2568
คำพูดของนักบุญ
คนบาปที่ลืมพระเจ้าขณะที่ยังมีชีวิตอยู่, จะลืมตนเองในเวลาใกล้ตายด้วย - นักบุญอัลฟองโซ
นักบุญเจอโรมสอนว่าในบรรดาคนบาปนับแสนคนที่ยังคงทำบาปอยู่ต่อไปจนกระทั่งถึงเวลาแห่งความตาย ,แทบจะไม่มีใครเอาตัวรอดพ้นได้เลย
นักบุญวินเซนต์ เฟอร์เรอร์เขียนว่า การทำให้คนบาปเหล่านี้มาสู่ความรอดพ้นได้นั้นเป็นอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่กว่าการทำให้คนตายกลับฟื้นขึ้นมาจากความตายเสียอีก
คนที่รักบาปจนถึงวินาทีแห่งความตายนั้น,จะต้องเสียใจหรือสำนึกผิดอย่างไรได้เมื่อความตายใกล้เข้ามา?
นักบุญออกัสตินกล่าวว่าคนบาปที่ลืมพระเจ้าเมื่อตายไปแล้วเขาก็จะลืมตัวเองเมื่อตายด้วย นับเป็นการลงโทษที่สมควรแล้ว
อย่าหลอกลวงตนเอง, อัครสาวกกล่าวไว้, จะล้อพระเจ้าเล่นไม่ได้ ใครหว่านสิ่งใดก็ย่อมเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น ผู้ที่หว่านสิ่งใดตามธรรมชาติ(แห่งเนื้อหนัง)ของตน ก็จะเก็บเกี่ยวความเสื่อมสลายจากธรรมชาติ(แห่งเนื้อหนัง) ผู้ที่หว่านความดีในพระจิตเจ้า ก็จะเก็บเกี่ยวชีวิตนิรันดร์จากพระจิตเจ้า อย่าท้อแท้ในการทำความดี เพราะถ้าเราไม่หยุดทำความดี เราก็จะได้เก็บเกี่ยวเมื่อถึงเวลา ดังนั้นตราบใดที่ยังมีโอกาส จงทำความดีต่อทุกคน โดยเฉพาะต่อพี่น้องผู้ร่วมในความเชื่อของเรา
จงหันมาหาเรา และเราจะหันมาหาเจ้า
กาลาเทีย 6:7-10
วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2568
วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2568
สาส์นแม่พระ 25 ม.ค.2025
ลูกที่รักทั้งหลาย
ในปีแห่งพระหรรษทานนี้ แม่ขอเรียกพวกลูกให้กลับใจ ลูกที่รักทั้งหลาย,จงให้พระเจ้าเป็นศูนย์กลางแห่งชีวิตของลูก และผลที่ได้คือความรักต่อเพื่อนบ้านและความยินดีในการเป็นพยาน แล้วความศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตของพวกลูกจะกลายเป็นพยานแห่งความเชื่อที่แท้จริง
ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2568
วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2568
เป็นทุกข์เสียใจในบาป
“การเสียใจเพราะบาปนั้นเป็นสิ่งจำเป็นจริงๆ
แต่เราไม่ควรไปครุ่นคิดถึงความผิดพลาดของเราอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
คุณต้องระลึกถึงด้วยความยินดีในความรักความกรุณาอันเปี่ยมล้นของพระเจ้าด้วย
มิฉะนั้น ความเสียใจจะทำให้หัวใจหนักหน่วงและนำไปสู่ความสิ้นหวังมากยิ่งขึ้น”
- นักบุญเบอร์นาดแห่งแคลร์โว
วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2568
ถวายความทุกข์แด่พระเจ้า
เมื่อเราต้องทำบางสิ่งบางอย่างที่เราไม่ชอบ,ให้เราพูดกับพระเจ้าว่า “พระเจ้าข้า,ลูกขอถวายสิ่งนี้แด่พระองค์เพื่อถวายพระเกียรติในช่วงเวลาที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อลูก”
- นักบุญยอห์น เวียนเนย์
วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2568
ผู้ที่เยาะเย้ยพระเจ้า 2
โทมัส แอนดรูว์ จูเนียร์ (Thomas Andrews 7 กุมภาพันธ์ 1873 – 15 เมษายน 1912) เป็นนักธุรกิจและช่างต่อเรือชาวอังกฤษ เขาเป็นกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าแผนกร่างแบบของบริษัทต่อเรือ Harland and Wolff ในเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์
เขาเป็นที่จดจำในฐานะสถาปนิกเรือที่รับผิดชอบแผนการสร้างเรือเดินทะเลไททานิค เขาเสียชีวิตระหว่างการเดินทางครั้งแรก
โทมัสได้รับแรงบันดาลใจให้สร้างเรือลำใหญ่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเรือลำอื่นๆ ในสมัยของเขา หลังจากสร้างเรือไททานิคที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียง นักข่าวถามเขาว่าเรือลำนี้จะปลอดภัยหรือไม่ โทมัสตอบว่า “แม้แต่พระเจ้าเองก็ไม่สามารถทำให้เรือจมได้” โทมัสอยู่ในเรือไททานิกด้วยในระหว่างที่เริ่มต้นออกเดินทาง และตามที่เรารู้กัน ในวันที่ 14 เมษายน 1912 เรือไททานิกถูกภูเขาน้ำแข็งชนและจมลง โทมัสกับผู้โดยสาร 1,500 คนเสียชีวิต และไม่มีใครหาศพของเขาพบ
วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2568
วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2568
นักบุญโยเซฟองค์อุปถัมภ์ของผู้ใกล้เสียชีวิต
คริสตชนต้องการผู้พิทักษ์ที่ทรงพลัง ซึ่งจะปกป้องและเสริมกำลังเขาจากอันตรายของการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
>>>อ่านต่อ
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2568
วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2568
วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2568
ความทุกข์ยากเป็นอัญมณีล้ำค่า
พระเยซูทรงเน้นย้ำกับนักบุญเยอร์ทรูดบ่อยครั้งถึงคุณค่าของความทุกข์ยากที่เราได้รับเมื่อเรานำความทุกข์นั้นไปรวมกับความทุกข์ในชีวิตและพระมหาทรมานของพระองค์ “ผู้ใดที่ร่วมทุกข์ทรมานกับความทุกข์ของเราในการทดสอบและในความยากลำบาก และพยายามเลียนแบบความอดทนและการยอมจำนนของเรา เขาเป็นผู้ที่วางใจในเราอย่างแท้จริงและจะมีส่วนร่วมในคุณธรรมทั้งหมดในชีวิตของเรา”
นักบุญเยอร์ทรูดต้องทนทุกข์ทรมานเกือบตลอดชีวิตของเธอ ครั้งหนึ่งเมื่อเธอป่วยจนต้องนอนติดเตียง การเปิดเผยของพระเยซูในเรื่องนี้ได้ปลอบโยนเธอ พระองค์ตรัสว่า:
"ความทุกข์ยากทางร่างกายและจิตวิญญาณเป็นเครื่องหมายที่ชัดเจนที่สุดของความพอพระทัยของพระเจ้า และเป็นเครื่องหมายของความรักที่วิญญาณมีต่อพระเจ้า
ความกตัญญูสำหรับความทุกข์ยากเป็นอัญมณีล้ำค่าสำหรับมงกุฎสวรรค์ของเรา"
หากใครคิดว่าเขาสามารถอดทนกับความทุกข์ยากอื่นๆได้มากกว่าที่พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ที่กำหนดไว้กับเขา ก็ขอให้เขาถ่อมตนต่อพระเจ้าเถิด มนุษย์ควรเชื่ออย่างมั่นคงเสมอว่าพระเจ้าส่งการทดลองนั้นมาซึ่งเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับเขา
ที่มา: Saint Gertrude the Great Herald of Divine Love
วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2568
ผู้ที่เยาะเย้ยพระเจ้า
จอห์น เลนอน นักร้องผู้มีชื่อเสียงชาวอังกฤษ เขาเป็นสมาชิกวงเดอะบิทเทิล ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่งกับนิตยสารอเมริกัน จอห์น เลนอน พูดว่า “ศาสนคริสต์จะจบสิ้นลงและจะหายไป ผมจะไม่โต้เถียงเกี่ยวกับประเด็นนี้ ผมมั่นใจ พระเยซูก็โอเคนะ แต่คำสอนของพระองค์นั้นธรรมดาเกินไป ทุกวันนี้ พวกเรามีชื่อเสียงมากกว่าพระองค์เสียอีก” และตามที่เรารู้กัน จอห์น เลนอน ถูกฆ่าโดยนายมาร์ก เดวิด แช็ปแมน และในปี 1980 แช็ปแมนออกมายอมรับว่า เขายิงนักร้องหนุ่มเพียงเพราะรู้สึกว่าตัวเองไร้ตัวตนและอยากจะขโมยความดังมาให้ตัวเองบ้างเท่านั้นเอง
วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2568
ปัสกา 2025
ในปี 2025 พระศาสนจักรโรมันคาธอลิกและออร์โธดอกซ์ จะมีการเฉลิมฉลองปัสกา (การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์) ในวันเดียวกัน
โดยทั่วไปพระศาสนจักรโรมันคาธอลิกและออร์โธดอกซ์มักจะเฉลิมฉลองปัสกาในวันที่แตกต่างกัน แต่ในปี 2025 วันปัสกาของทั้งสองจะตรงกับวันเดียวกัน
ปี 2025 จะเป็นวันครบรอบ 1,700 ปีของการประชุมสังคายนาครั้งแรก คือ สังคายนาแห่งนีเซีย (325) ซึ่งเริ่มต้นบทใหม่ในประวัติศาสตร์ของคริสต์ศาสนา
สังคายนาแห่งนีเซียยังได้ประกาศใช้การคำนวณเพื่อกำหนดวันฉลองปัสกาของพระเยซูเจ้าด้วย
หลายคนมักลืมไปว่าสังคายนาแห่งนีเซียไม่ได้ประกาศแต่เพียงหลักความเชื่อที่เป็นสากลเท่านั้น(บทข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้า) แต่ยังต้องการให้มีการเฉลิมฉลองปัสการ่วมกันสำหรับคริสต์ศาสนาทั้งหมดอีกด้วย ก่อนที่ความแตกแยกเพราะความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันหรือเพราะความเชื่อนอกรีตจะมาถึง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดให้มีการเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ร่วมกันเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันในความเชื่อ
บทเพลงสดุดี 133
เป็นการดีและน่าชื่นชมอย่างยิ่ง
ที่พี่น้องจะอยู่ด้วยกันในความเป็นหนึ่งเดียวกัน
เพราะที่นั่น พระยาห์เวห์ประทานพระพรและชีวิตตลอดไป
วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2568
เป็นบุญของผู้ที่เชื่อและวางใจในพระเจ้า
เจ้าของบ้านหลังนี้มีความเชื่อในพระเยซูและแม่พระมาก ดูได้จากการที่เขาตั้งพระรูปพระเยซูและแม่พระไว้ในลานบ้านของเขา บ้านของเขารอดพ้นจากการถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่ในแคลิฟฟอร์เนีย ส่วนบ้านอื่นๆรอบๆถูกไฟไหม้หมด (หมายเหตุ: นี่เป็นเหตุการ์ณของปีที่แล้ว)
พระเจ้าทรงปกป้องผู้ที่ยำเกรงพระองค์และผู้ที่เชื่อในพระองค์
เพลงสดุดี 91:7
แม้คนนับพันจะล้มลงข้างท่าน
หรือคนนับหมื่นร่วงอยู่ทางขวามือของท่าน
แต่ท่านก็จะยังคงปลอดภัย
เพลงสดุดี 91:14
เราจะช่วยเขาให้รอดพ้น เพราะเขาไว้ใจเรา
เราจะพิทักษ์รักษาเขา เพราะเขารู้จักนามของเรา
เมื่อเขาร้องเรียกหาเรา เราก็จะตอบเขา
วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2568
วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2568
วันเสาร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2568
วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2568
ความทุกข์เป็นสมบัติอันล้ำค่า
ชีวิตที่ปราศจากไม้กางเขนเป็นสิ่งที่แทบทนไม่ได้ ความสุขทั้งหมดที่โลกเบื้องล่างนี้ประกอบด้วยการที่สามารถได้รับความทุกข์
ไม้กางเขน, การถูกดูหมิ่น, ความเศร้าโศก, และความทุกข์ยาก คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงของผู้รักพระเยซูคริสต์ที่ถูกตรึงบนไม้กางเขน
ในสายพระเนตรของพระเจ้า,กางเขนของเรานั้นเป็นประดุจยาทาที่ทรงคุณค่าซึ่งสูญเสียกลิ่นหอมของมันเมื่อเปิดออกสัมผัสกับอากาศ เพราะฉะนั้น,เราต้องพยายามทำทุกวิถีทางที่จะซ่อนกางเขนของเราและแบกมันไปอย่างเงียบๆ
กางเขนเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่ต้องซ่อนไว้อย่างลับๆ,มิฉะนั้นเราจะถูกขโมยไป
- นักบุญมากาเร็ต มารีย์ อาลาก็อก
ที่มา: Thoughts and Sayings of Saint Margaret Mary
วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2568
ความทุกข์ชำระเราให้บริสุทธิ์
ความทุกข์ยาก ความเจ็บป่วย สุขภาพที่ไม่ดี และการบาดเจ็บทั้งหลายฝ่ายร่างกายที่เราประสบนั้นเกิดขึ้นเพื่อเป็นการใช้โทษบาปของเรา มันคือเตาไฟที่ชำระเราให้บริสุทธิ์
- นักบุญยอห์น คริสซอสโตม
วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2568
วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2568
การภาวนา
เมื่อยากอบปรารถนาจะได้พรจากอิสซาอักผู้บิดา,พรซึ่งควรจะเป็นของเอเซาพี่ชาย แม่ของเขาสั่งให้เขาไปเตรียมทำซุปแกะที่อิสซาอักชอบทาน (Gen 27:9-29) เธอยังสั่งให้เขาสวมขนแกะที่แขน เพราะเอเซามีขนดก เธอยังให้เขาสวมเสื้อของพี่ชายซึ่งมีกลิ่นตัวของเขาติดอยู่ จากนั้นให้เขาไปหาบิดาซึ่งตาบอด เมื่อยากอบขอพรจากบิดา อิสซาอักสัมผัสที่แขนแล้วพูดว่า อา!นี่ฉันกำลังป่วยหรือ เสียงที่ฉันได้ยินเป็นของยากอบ แต่แขนที่สัมผัสเป็นของเอเซา เขาดมกลิ่นเสื้อที่ยากอบสวม แล้วพูดว่า "กลิ่นที่ดีทำให้ฉันมีความยินดี ฉันจะให้พรลูกชายของฉัน" ดังนั้นพวกเราก็เช่นกัน จักต้องเตรียมลูกแกะที่ขาวสะอาดถวายแด่พระบิดานิรันดร เพื่อทำให้พระองค์พอพระทัยนั่นคือคำภาวนาและกิจการดีของเรา และเมื่อเราวอนขอพรจากพระองค์ ,ถ้าเราสวมใส่ด้วยพระโลหิตของพระเยซูเจ้าพระบุตรของพระองค์, พระองค์จะตรัสว่า "เสียงที่เราได้ยินเป็นเสียงของยากอบ แต่แขน(ซึ่งหมายถึงการกระทำชั่วของเรา) เป็นของเอเซา อย่างไรก็ตาม, ความยินดีที่เราได้กลิ่นมาจากกลิ่นเสื้อของเขา, เราจะอวยพรแก่เขา."
- นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์
วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2568
ความศรัทธาต่อพระจิต
นักบุญเกรกอรีผู้ยิ่งใหญ่เขียนไว้ว่า:
พระเจ้าได้ประทานส่วนสำคัญสองส่วนให้กับร่างกายมนุษย์ คือ ศีรษะและหัวใจ เพื่อให้อวัยวะทั้งสองส่วนเป็นอวัยวะของความสามารถหลัก นั่นคือ ความเข้าใจ และความตั้งใจ พระเจ้าจึงได้ประทานพระคริสต์ในฐานะศีรษะและพระจิตในฐานะหัวใจให้แก่พระกายลึกลับ ซึ่งก็คือพระศาสนจักรโรมันคาธอลิกเช่นกัน ผ่านทางพระคริสต์เราเรียนรู้ความจริงนิรันดร์ ผ่านทางพระจิตเราเรียนรู้ที่จะรักและปฏิบัติตามความจริงนิรันดร์นั้น
ที่มา: Devotion To The Holy Ghost
วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2568
วันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2568
วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2568
เกี่ยวกับความรักของพระเจ้า: 🙏❤️
“มันเป็นคุณธรรมประการแรก คุณธรรมที่จำเป็นอย่างยิ่ง หากไม่มีคุณธรรมนี้ เราก็จะไม่มีวันได้ขึ้นสวรรค์ และเพื่อรักพระเจ้า เราจึงต้องอยู่บนโลกนี้ แม้ว่าพระเจ้าจะไม่ได้ทรงบัญชา แต่ความรู้สึกนี้เป็นธรรมชาติสำหรับเราอยู่แล้ว จนหัวใจของเราถูกดึงดูดเข้าหาโลกโดยสมัครใจ
แต่โชคร้ายคือ เราทุ่มเทความรักให้กับสิ่งของที่ไม่คู่ควร และปฏิเสธที่จะมอบความรักนั้นให้แด่พระองค์แต่เพียงผู้เดียว,ผู้ที่สมควรได้รับความรักอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้น ลูกทั้งหลายของพ่อ คนหนึ่งจะรักความร่ำรวย อีกคนหนึ่งจะรักความสุขสบาย และทั้งสองจะถวายสิ่งใดแด่พระเจ้าได้เล่า นอกจากเศษเสี้ยวของหัวใจที่อ่อนล้าจากการรับใช้โลก จากที่นั่น ความรักไม่เพียงพอ ความรักที่แบ่งแยกกัน เขาจึงไม่คู่ควรกับพระเจ้า เพราะพระองค์เท่านั้นที่ทรงสร้างสิ่งดีงามอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ผู้ที่เราสมควรจะต้องรักพระองค์เหนือสิ่งอื่นใด มากกว่าทรัพย์สมบัติของเราซึ่งเป็นของทางโลก มากกว่าเพื่อนของเรา เพราะเป็นของทางโลก หรือความตาย; มากกว่าชีวิตของเรา เพราะมันเน่าเปื่อย; มากกว่าตัวเราเอง เพราะเราเป็นของพระองค์ ความรักของเรา ลูกทั้งหลาย, หากมันเป็นจริง ความรักนั้นต้องไม่มีขีดจำกัด และต้องมีอิทธิพลต่อความประพฤติของเรา...."
- นักบุญยอห์น เวียนเนย์
วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2568
ความถ่อมตน
“จงเรียนรู้จากเรา เพราะเราอ่อนโยนและมีใจถ่อมตน” พระเยซูเจ้าตรัส พระอาจารย์เจ้าสูงสุดและผู้ประทานธรรมบัญญัติ ทรงกระตุ้นเราให้เรียนรู้คุณธรรมแห่งความถ่อมตน
เพราะว่าผู้ใดที่ฝึกฝนคุณธรรมอันน่าอัศจรรย์นี้จะบรรลุถึงความสมบูรณ์ฝ่ายจิตอย่างรวดเร็ว
แต่ถ้าไม่มีความถ่อมตน ไม่ว่าจะศึกษาพระคัมภีร์หรือเทววิทยามากเพียงใด หรือพยายามทำความดีมากเพียงใด ก็ไม่สามารถบรรลุผลสำเร็จที่ยั่งยืนได้ ความพยายามทั้งหมดของเรานั้นจะไร้ผลหากไม่ได้กระทำด้วยความถ่อมตน
ดังนั้น บทเรียนแรกของพระคริสต์คือการมีใจถ่อมตน เพราะนี่คือรากฐานของคุณธรรมทั้งหมดและจำเป็นต่อการบรรลุความรอดพ้นนิรันดร ผู้ใดปรารถนาที่จะได้รับพระหรรษทานในชีวิตนี้และชีวิตนิรันดรในโลกหน้า จึงควรศึกษาบทเรียนและแบบอย่างความถ่อมตนของพระคริสตเจ้าอย่างขยันขันแข็ง
แต่ผู้ใดละเลยความถ่อมตน เขาจะสูญเสียประโยชน์ที่ความคิดและการกระทำอันดีของพวกเขาควรจะได้รับ
จำเป็นที่คริสตชนทุกคนจะต้องใคร่ครวญคำสอนของพระคริสตเจ้าอย่างรอบคอบ ซึ่งรวมถึงนักบวชทุกคน พระสงฆ์ทุกคน บิชอปทุกคน ผู้รับใช้ทุกคน ขุนนางทุกคน ราษฎรทุกคน ผู้มีการศึกษาทุกคน และสามัญชนทุกคน
และพระคริสต์ทรงสอนเราให้ถ่อมตน ไม่ใช่ความเย่อหยิ่ง พระองค์สอนเราให้รู้จักสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่ความไร้สาระ พระองค์สอนเราให้รู้ว่าอะไรคือความจริง ไม่ใช่สิ่งที่เป็นเท็จ ทรงสอนสิ่งที่เป็นของสวรรค์ ไม่ใช่สิ่งของทางโลก
- จำลองแบบพระคริสต์ โดย Thomas A Kempis
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)