แบร์นาแด๊ต ซูบีรุส เสียชีวิตเมื่อปี 1879 เป็นเวลา 136 ปีมาแล้ว แต่ร่างกายของเธอยังไม่เน่าเปื่อย
นี่เป็นอัศจรรย์ยืนยันความจริงในการที่เธอได้รับการประจักษ์จากแม่พระที่ลูรดส์
ในปี 1858 และยืนยันถึงความซื่อสัตย์ภักดีของเธอต่อแม่พระ
ต่อไปนี้เป็นคำพูดของ แบร์นาแด๊ต เอง
เล่าถึงการประจักษ์เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 1858 :
“พระนางตรัสกับดิฉันหลายครั้งว่า
ให้ดิฉันบอกกับพระสงฆ์ให้สร้างโบสถ์ขึ้นในสถานที่นี้ และให้ดิฉันไปที่น้ำพุและล้างหน้า และดิฉันต้องสวดภาวนาเพื่อการกลับใจของคนบาป ระหว่างการประจักษ์ครั้งที่สี่
พระนางประทานความลับแก่ดิฉันสามอย่าง และห้ามดิฉันบอกแก่คนอื่น ดิฉันซื่อสัตย์ทำตามที่พระนางสั่งเสมอมา ในการประจักษ์ครั้งต่อมา
ดิฉันถามพระนางอีกครั้งว่าพระนางคือใคร?
พระนางเพียงแต่ยิ้มตลอดเวลา
ในที่สุดดิฉันกล้าถามพระนางเป็นครั้งที่สี่ เวลานั้นพระนางทรงยกพระหัตถ์ขึ้นประสานกันที่ทรวงอก ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นสู่สวรรค์ และต่อมาพระนางค่อยๆปล่อยพระหัตถ์ลงต่ำและกางออก ตรัสกับดิฉันว่า “เราคือการปฏิสนธินิรมล” นี่คือคำพูดสุดท้ายที่พระนางตรัสกับดิฉัน พระนางมีพระเนตรสีฟ้า..."
ทำไมแม่พระจึงเลือกแบร์นาแด๊ตให้เป็นผู้ที่ได้รับการประจักษ์?
แบร์นาแด๊ตเป็นเพียงเด็กธรรมดาที่ยากจน
ไม่มีความรู้มากมาย และยังมีโรคประจำตัวคือหอบหืด แบร์นาแด๊ตเองก็สงสัยเช่นนี้ แต่สวรรค์เลือกแบร์นาแด๊ต เพราะเธอเป็นคนยากจนที่สุดและมีความถ่อมตน เมื่อคุณพ่อเจ้าอาวาสขอให้แบร์นาแด๊ตเข้าสู่อารามที่เนอแวร์
เพื่อหลีกเลี่ยงผู้คนจำนวนมากที่ต้องการมาพบเธอ แบร์นาแด๊ตตอบคุณพ่อว่า เธอเคยวาดฝันอนาคตว่า
จะโตขึ้นและแต่งงานมีครอบครัวเล็กๆและเลี้ยงลูก เหมือนแม่ของเธอ แต่พระเป็นเจ้าประสงค์ให้เธอดำเนินชีวิตอีกแบบหนึ่ง
และเธอก็น้อมรับ คำตอบของแบร์นาแด๊ตมีลักษณะเช่นเดียวกับคำตอบของแม่พระเมื่อทรงยอมรับแผนการณ์ของพระเป็นเจ้าให้เป็นมารดาของพระผู้ไถ่
-
นักบุญแบร์นาแด๊ต ช่วยวิงวอนพระเป็นเจ้าเพื่อพวกเราด้วยเทอญ