พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2025 ฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง

           ขณะนั้น ประชาชนกำลังรอคอย ทุกคนต่างคิดในใจว่า ยอห์นเป็นพระคริสต์หรือ ยอห์นจึงประกาศต่อหน้าทุกคนว่า “ข้าพเจ้าใช้น้ำทำพิธีล้างให้ท่านทั้งหลาย แต่ผู้ที่ทรงอำนาจยิ่งกว่าข้าพเจ้าจะมา และข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะแก้สายรัดรองเท้าของเขา เขาจะทำพิธีล้างให้ท่านเดชะพระจิตเจ้าและด้วยไฟ
           ลก 3:21-22 พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง
           ขณะนั้นประชาชนทั้งหมดกำลังรับพิธีล้าง พระเยซูเจ้าก็ทรงรับพิธีล้างด้วย และขณะที่ทรงอธิษฐานภาวนาอยู่นั้น ท้องฟ้าก็เปิดออก และพระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์ มีรูปร่างที่เห็นได้ดุจนกพิราบ แล้วมีเสียงจากสวรรค์ว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา”
(ลูกา 3:15-16; 21-22)








วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558

ชาวอิยิปต์ฉลองแม่พระเสด็จสู่สวรรค์


วันฉลองแม่พระได้รับเกียรติขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ส.ค. 2015 ที่ผ่านมา  ในประเทศอียิปต์มีประชาชนจำนวนมากไมเพียงแต่คริสตชนเท่านั้นแต่ชาวมุสลิมได้ร่วมฉลองแม่พระด้วย
การฉลองแม่พระถูกจัดขึ้นโดยคริสตชนคอปติกออร์โธดอกซ์ในอียิปต์  ตั้งแต่วันพฤหัสบดี  ,วันศุกร์ และวันเสาร์  มีรายการทางวิทยุหลายแห่งได้กระจายข่าว “วันฉลองพระนางพรหมจารีย์มารีย์” และแถลงว่า  “ไม่เพียงแต่คริสตชนของอิยิปต์เท่านั้นแต่รวมทั้งพวกเราชาวอิยิปต์ทั้งหมดที่นับถือพระนางมารีย์ (ชาวมุสลิมเรียกแม่พระว่า Sitana Mariam ) พระนางเป็นสตรีที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลก”
หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ Al-Qahira (Cairo), ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม ได้ลงบทความและรูปภาพเต็มหน้าของพระนางมารีย์ “เพื่อเฉลิมฉลองการเสด็จสู่สวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระนางมารีย์"
สมาชิกของบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “เราไม่ค่อยแน่ใจนักเกี่ยวกับรูปภาพของพระนางมารีย์  เพราะทั้งๆที่เรารู้ว่าชาวอิยิปต์ทั้งมุสลิมและคริสตชนมีความรักและนับถือพระนางมารีย์เป็นอย่างสูง  เราไม่แน่ใจว่าชาวมุสลิมส่วนใหญ่จะรู้สึกดีหรือไม่เกี่ยวกับรูปภาพ  มีบางรูปที่เป็นรูปพระเยซูถูกตรึงกางเขนรวมอยู่ด้วย”
บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ซึ่งไม่ประสงค์ให้เปิดเผยชื่อกล่าวเกี่ยวกับรูปภาพ “เราไม่สามารถละเลยรูปภาพบางรูปซึ่งพระนางมารีย์กำลังอุ้มพระเยซูอยู่”
ในสมัยการปกครองของประธานาธิบดีฮอสนี  มูบารัค  ทางรัฐบาลได้เลือกวันคริสต์มาสให้เป็นวันหยุดของชาติ แทนที่จะเป็นวันอิสเตอร์  ซึ่งเป็นวันฉลองสำคัญที่สุดของคอปติกออร์โธดอกซ์ในอิยิปต์
สาเหตุในเรื่องนี้เป็นเพราะ  ประวัติการบังเกิดของพระเยซูในคัมภีร์ของมุสลิมและคริสต์นั้นตรงกัน  แต่ประวัติการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูของทางมุสลิมนั้นไม่เหมือนกัน  ชาวมุสลิมเชื่อว่าพระเยซูได้รับการยกขึ้นสวรรค์จากพระเป็นเจ้าและพระองค์ไม่ได้ถูกตรึงกางเขน

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558

พระรูปแม่พระในอิสราเอลร้องไห้


 
มีการยิงต่อสู้อย่างหนักระหว่างตำรวจอิสราเอลกับผู้ประท้วงปาเลสไตน์ในม้สยิดอัลอักซา เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2015  ก่อนหน้านี้ประมาณวันที่ 13 พ.ย. 2014 พระรูปแม่พระที่อยู่ในครอบครัว Khoury ในภาคเหนือของอิสราเอล ได้หลั่งน้ำตาออกมา  ซึ่งอาจมีสาเหตมาจากเรื่องนี้หรือไม่?

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558

ทำไมปีศาจจึงกลัวพระสันตปาปายอห์นปอลที่2

คุณพ่อกาเบรียล เอม็อธ  พระสงฆ์ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจแห่งกรุงโรม  เคยทำพิธีถึง 70.000 ครั้งในเวลา 30 ปี  ครั้งหนึ่งท่านพูดว่า  ในหลายปีที่ผ่านมามีบุคคลผู้หนึ่งคือ  พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ที่มีอำนาจต่อกรกับปีศาจ
“พ่อเคยถามปีศาจมากกว่าหนึ่งครั้ง ทำไมเจ้าจึงกลัวพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 นักและพ่อก็ได้รับคำตอบที่แตกต่างกันสองอย่างที่น่าสนใจ  อย่างแรกมันตอบว่า เพราะเขาทำให้แผนการของข้าเสียไป    พ่อคิดว่ามันพูดถึงการล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในรัสเซียและยุโรปตะวันออก”
อีกคำตอบหนึ่งที่ปีศาจตอบพ่อก็คือ เพราะเขายึดเอาเยาวชนจำนวนมากออกไปจากมือของข้า  มีเยาวชนจำนวนมากที่กลับใจเพราะพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2”
และผู้ต่อกรกับปีศาจที่ทรงอำนาจมากที่สุดล่ะ?
“แน่นอน คือแม่พระนั่นเอง  และจะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อคุณวิงวอนต่อพระนาง”
“ครั้งหนึ่งพ่อเคยถามซาตานว่า ทำไมเจ้าจึงกลัวมากยิ่งนัก  เมื่อพ่อวิงวอนต่อพระมารดามารีย์  ยิ่งกว่าเมื่อพ่อวิงวอนต่อพระเยซูคริสต์?  มันตอบพ่อว่า เพราะข้าอับอายขายหน้าเป็นอย่างยิ่งเมื่อต้องพ่ายแพ้ต่อมนุษย์ที่เป็นสิ่งสร้างของพระคริสต์  มากยิ่งกว่าพ่ายแพ้ต่อองค์พระคริสต์เอง

วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

วาติกันรับรองการประจักษ์ที่ลิปา,ฟิลิปปินส์



นาน 60 กว่าปี ที่แม่พระประจักษ์ที่เมืองลิปา ในฟิลิปปินส์ และทางวาติกันไม่รับรองความจริงในเรื่องนี้  แต่เวลานี้ทางวาติกันได้อนุญาตให้พระสังฆราชฟิลิปปินส์ประกาศรับรองความจริงนี้แล้ว.....อ่านต่อ