7
ธ.ค. 2015 ที่กัวเตมาลา
ชาวคาทอลิกรวมตัวกันที่จัตุรัสของเมืองในวันจันทร์นี้ เพื่อร่วมในประเพณีเก่าแก่ของประเทศที่เรียกว่า
“เผาปีศาจ”
ไฟลุกโชติช่วงที่ใจกลางถนนเป็นสัญญลักษณ์ว่าเทศกาลวันหยุดเริ่มต้นขึ้นแล้ว ชาวกัวเตมาลาจะฉลองด้วยการเผารูปของซาตานในวันก่อนวันฉลองแม่พระปฏิสนธินิรมล
และถือเป็นการเริ่มต้นเทศกาลวันหยุดคริสต์มาสอย่างไม่เป็นทางการด้วย
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2025 สมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์
  ในรัชสมัยกษัตริย์เฮโรด พระเยซูเจ้าประสูติที่เมืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย โหราจารย์บางท่านจากทิศตะวันออกเดินทางมายังกรุงเยรูซาเล็ม สืบถามว่า “กษัตริย์ชาวยิวที่เพิ่งประสูติอยู่ที่ใด พวกเราได้เห็นดาวประจำพระองค์ขึ้น จึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์” เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงทราบข่าวนี้ พระองค์ทรงวุ่นวายพระทัย ชาวกรุงเยรูซาเล็มทุกคนต่างก็วุ่นวายใจไปด้วย พระองค์ทรงเรียกประชุมบรรดาหัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์ ตรัสถามเขาว่า “พระคริสต์จะประสูติที่ใด” เขาจึงทูลตอบว่า “ในเมืองเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย เพราะประกาศกเขียนไว้ว่า เมืองเบธเลเฮม ดินแดนยูดาห์ เจ้ามิใช่เล็กที่สุดในบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ เพราะผู้นำคนหนึ่งจะออกมาจากเจ้า ซึ่งจะเป็นผู้นำอิสราเอล ประชากรของเรา”
  ดังนั้น กษัตริย์เฮโรดทรงเรียกบรรดาโหราจารย์มาเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ ทรงซักถามถึงวันเวลาที่ดาวปรากฏ แล้วทรงใช้บรรดาโหราจารย์ไปที่เมืองเบธเลเฮม ทรงกำชับว่า “จงไปสืบถามเรื่องพระกุมารอย่างละเอียด และเมื่อพบพระกุมารแล้ว จงกลับมาบอกให้เรารู้ เราจะได้ไปนมัสการพระองค์ด้วย” เมื่อบรรดาโหราจารย์ได้ฟังพระดำรัสแล้วก็ออกเดินทาง ดาวที่เขาเห็นทางทิศตะวันออกปรากฏอีกครั้งหนึ่งนำทางให้ และมาหยุดนิ่งอยู่เหนือสถานที่ประทับของพระกุมาร เมื่อเห็นดาวอีกครั้งหนึ่งบรรดาโหราจารย์มีความยินดียิ่งนัก เขาเข้าไปในบ้าน พบพระกุมารกับพระนางมารีย์พระมารดา จึงคุกเข่าลงนมัสการพระองค์ แล้วเปิดหีบสมบัตินำทองคำ กำยาน และมดยอบออกมาถวายพระองค์ แต่พระเจ้าทรงเตือนเขาในความฝันมิให้กลับไปหากษัตริย์เฮโรด เขาจึงกลับไปบ้านเมืองของตนโดยทางอื่น
(มัทธิว 2:1-12)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2025 สมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์
  ในรัชสมัยกษัตริย์เฮโรด พระเยซูเจ้าประสูติที่เมืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย โหราจารย์บางท่านจากทิศตะวันออกเดินทางมายังกรุงเยรูซาเล็ม สืบถามว่า “กษัตริย์ชาวยิวที่เพิ่งประสูติอยู่ที่ใด พวกเราได้เห็นดาวประจำพระองค์ขึ้น จึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์” เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงทราบข่าวนี้ พระองค์ทรงวุ่นวายพระทัย ชาวกรุงเยรูซาเล็มทุกคนต่างก็วุ่นวายใจไปด้วย พระองค์ทรงเรียกประชุมบรรดาหัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์ ตรัสถามเขาว่า “พระคริสต์จะประสูติที่ใด” เขาจึงทูลตอบว่า “ในเมืองเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย เพราะประกาศกเขียนไว้ว่า เมืองเบธเลเฮม ดินแดนยูดาห์ เจ้ามิใช่เล็กที่สุดในบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ เพราะผู้นำคนหนึ่งจะออกมาจากเจ้า ซึ่งจะเป็นผู้นำอิสราเอล ประชากรของเรา”
  ดังนั้น กษัตริย์เฮโรดทรงเรียกบรรดาโหราจารย์มาเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ ทรงซักถามถึงวันเวลาที่ดาวปรากฏ แล้วทรงใช้บรรดาโหราจารย์ไปที่เมืองเบธเลเฮม ทรงกำชับว่า “จงไปสืบถามเรื่องพระกุมารอย่างละเอียด และเมื่อพบพระกุมารแล้ว จงกลับมาบอกให้เรารู้ เราจะได้ไปนมัสการพระองค์ด้วย” เมื่อบรรดาโหราจารย์ได้ฟังพระดำรัสแล้วก็ออกเดินทาง ดาวที่เขาเห็นทางทิศตะวันออกปรากฏอีกครั้งหนึ่งนำทางให้ และมาหยุดนิ่งอยู่เหนือสถานที่ประทับของพระกุมาร เมื่อเห็นดาวอีกครั้งหนึ่งบรรดาโหราจารย์มีความยินดียิ่งนัก เขาเข้าไปในบ้าน พบพระกุมารกับพระนางมารีย์พระมารดา จึงคุกเข่าลงนมัสการพระองค์ แล้วเปิดหีบสมบัตินำทองคำ กำยาน และมดยอบออกมาถวายพระองค์ แต่พระเจ้าทรงเตือนเขาในความฝันมิให้กลับไปหากษัตริย์เฮโรด เขาจึงกลับไปบ้านเมืองของตนโดยทางอื่น
(มัทธิว 2:1-12)
วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558
วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558
ผู้เคยเห็นแม่พระในเมดจูกอเรจ์
แมกกาซีน
National
Geographic ฉบับเดือนธันวาคมนี้
ไดน่า
มาร์โกเซียนได้สำรวจความศรัทธาต่อพระนางพรหมจารีย์มารีย์ของผู้คนทั่วโลก >>> อ่านต่อ
วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558
คำถามเกี่ยวกับปีศักดิ์สิทธิ์
คำถามเกี่ยวกับปีศักดิ์สิทธิ์
ปีศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลาที่พิเศษสำรับชาวคาทอลิก โดยปกติปีศักดิ์สิทธิ์จะมีขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบ
4 ศตวรรษ
แต่ในปีนี้เป็นปีศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตา ต่อไปนี้เป็นคำตอบในคำถามต่างๆ
1. ปีศักดิ์สิทธิ์คืออะไร?
ปีศักดิ์สิทธิ์มีประวัติสืบเนื่องมาจากประเพณีของชาวยิว และเริ่มต้นในปี 1300 โดยพระสันตะปาปาโบนีฟาสที่
8 ปีศักดิ์สิทธิ์เป็นการให้อภัยบาปแก่คนทั่วไป
เป็นพระหรรษทานพิเศษทำให้เราสามารถใกล้ชิดพระเป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์
2. ปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษ แตกต่างอย่างไรจากปีศักดิ์สิทธิ์ธรรมดา?
ตั้งแต่ปี 1475 ปีศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาจะมีขึ้น 1 ครั้งในทุก 25 ปี ส่วนปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษจะมีขึ้นในโอกาสพิเศษจนถึงปัจจุบันนี้ มีปีศักดิ์สิทธิ์ธรรมดา 24 ครั้ง และมีปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษแล้ว 4 ครั้ง ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมนี้ พระสันตปาปาฟรังซิสทรงกำหนดให้มีขึ้นและจะเป็นครั้งที่ 5
ปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษครั้งล่าสุดกำหนดขึ้นโดยพระสันตปปายอห์นปอลที่ 2 ในปี 1983 และพระองค์ทรงกำหนดปีศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาขึ้นในปี 2000 ด้วย
3. ทำไมพระสันตะปาปาจึงทรงกำหนดปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษขึ้น?
พระสันตะปาปาทรงประกาศปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมในเดือนมีนาคม 2015 พระองค์ทรงตัดสินพระทัยอย่างเป็นทางการในเดือน
เมษายน ในเวลานั้นพระองค์ทรงอธิบายว่าPOPE FRANCIS
April 11, 2015
“ทำไมจึงมีปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมในเวลานี้? เป็นเพราะพระศาสนจักรมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และเรียกร้องให้แสดงเครื่องหมายแห่งการถวายตนแด่พระเจ้าในการใกล้ชิดกับพระเป็นเจ้า นี่ไม่ใช่เวลาแห่งการแยกตัวออกจากพระองค์”
และผู้ดำเนินการในปีศักดิ์สิทธิ์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า
RINO FISICHELLA
Organizer, Jubilee of Mercy
“เราต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่า ความหมายหลักของปีศักดิ์สิทธิ์คือการที่เราต้องตระหนักว่าเราจำเป็นต้องพึ่งพาพระเป็นเจ้า”
4. ปีศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้จะสิ้นสุดเมื่อไร?
ปีศักดิ์สิทธิ์ไม่จำเป็นต้องสิ้นสุดเมื่อครบ 365 วัน ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมมีระยะเวลาน้อยกว่า1
ปี มันเริ่มต้นวันที่ 8
ธันวาคมและสิ้นสุดวันที่ 20 พฤศจิกายน 2016
5. จะมีคนมากเท่าไรที่จะมาที่โรม?
ปีศักดิ์สิทธิ์ 2000 มีคนมาที่โรมประมาณ 25 ล้านคน
และคาดว่าในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมนี้จะมีคนมาจำนวนเท่าเดิม
6. จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง?
มันจะเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งมาก
มีพิธีเปิดประตูพระวิหารวันที่ 8 ธ.ค.
และประตูในวิหารอื่นๆในเมืองต่างๆก็จะถูกเปิดตามมา
พระสงฆ์จะเอาใจใส่เป็นพิเศษในการฟังแก้บาปซึ่งเป็นกุญแจหลักของปีศักดิ์สิทธิ์RINO FISICHELLA
Organizer, Jubilee of Mercy
“ศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการให้อภัยบาปจะเป็นศูนย์กลางในทุกวันของปีศักดิ์สิทธิ์ แต่จะมีโบสถ์ที่ถูกกำหนดเป็นพิเศษให้เป็นแสวงบุญ มีโบสถ์สามแห่งใกล้วิหารนักบุญเปโตร ที่จะให้มีการโปรดศีลอภัยบาปเป็นพิเศษ”
จะมีการสวดภาวนาที่เรียกว่า "dry the tears”ในเดือนพฤษภาคมและมีปีศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักโทษในเดือน พฤศจิกายน ต้องการรู้เพิ่มเติมให้ไปที่ www.im.va
7. ประตูศักดิ์สิทธิ์คืออะไร?
พิธีกรรมแรกในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมคือการเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ในเวลาที่พระสันตปาปาฟรังซิสเสด็จเยือนอัฟริกา พระองค์ทรงเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ในอาสนวิหารแห่ง Bangui ที่สาธารณรัฐอัฟริการกลาง เป็นการบอกว่าปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมได้เริ่มต้นขึ้นแล้วทั่วโลก
แต่พระองค์ก็ทรงเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ที่วิหารนักบุญเปโตรด้วย ประตูนี้โดยปกติจะเปิดเพียงหนึ่งครั้งทุก 25 ปี มีกำแพงอิฐถูกก่อขึ้นบังประตูนี้ไว้และจะถูกพังลงเมื่อมีปีศักดิ์สิทธิ์ และเพราะปีนี้เป็นปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษ ประตูศักดิ์สิทธิ์จึงถูกเปิดเร็วขึ้น
ประตูศักดิ์สิทธิ์เป็นเครื่องหมายว่าชาวคาทอลิกต้องเปิดใจตนเองให้แก่ความเชื่อ สำหรับผู้แสวงบุญ การเดินเข้าสู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นสิ่งพิเศษ
8.
การไปกรุงโรมมีความปลอดภัยไหม?
การโจมตีปารีสของผู้ก่อการร้ายทำให้หน่วยรักษาความปลอดภัยต้องเพิ่มมาตรการไปทั่วยุโรป
กรุงโรมอยู่ใจกลางของทวีปยุโรปและอาจเป็นเป้าหมายของผู้ก่อการร้ายได้
หน่วยทหารและตำรวจอิตาลีจับตามองแหล่งกบดานของผู้ก่อการร้ายเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะที่วาติกันและจัตุรัสนักบุญเปโตรวันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558
ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม
วันอังคารที่ 8 ธ.ค. 2015 : พระสันตะปาปาประกอบพิธีเปิดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม ด้วยการเปิดประตูพระวิหาร
พระสันตปาปากิติคุณเบเนดิกต์ที่ 16 มาร่วมในการเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วย
วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558
เสียงจากหัวใจ
ในคลินิกโรคหัวใจที่มีชื่อเสียง
เลขานุการเดินเข้าไปในห้องของแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา
เธอบอกว่ามีชายยากจนคนหนึ่งได้รับคำแนะนำจากแพทย์ที่โรงพยาบาลรัฐให้มาที่นี่ และเขาต้องการคุยกับคุณหมอ....อ่านต่อ
วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2558
วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2558
วิธีที่จะไปสวรรค์
"เพราะเมื่อเราเสียชีวิต เราจะได้เห็นแสงสว่างที่จะเผยถึงชีวิตของเรา, เป็นแสงเดียวกับที่เหล่าฑูตสวรรค์เห็น" >>> อ่านต่อ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)