วันที่ 13 พ.ค. ฉลองแม่พระแห่งฟาติมา เป็นวันที่แม่พระทรงประจักษ์ครั้งแรกแก่เด็ก 3
คน คือ ลูซีอา ยาชินทา และมาร์โก พระสันตปาปาฟรังซิสตรัสว่า
“แม่พระทรงขอร้องพวกเราไม่ให้ขัดสู้กับพระเป็นเจ้า
พระนางทรงเตือนมนุษยชาติล่วงหน้าถึงความจำเป็นที่เราต้องมอบตัวเราทั้งครบแด่พระเป็นเจ้าผู้ทรงเป็นแหล่งของความรักและพระเมตตา”
พระองค์ตรัสอีกว่า “ให้พวกเราทำตามแบบอย่างของพระสันตปาปายอห์นปอลที่ 2
พระองค์มีความศรัทธาต่อแม่พระแห่งฟาติมาเป็นอย่างยิ่ง ขอให้เราฟังเสียงที่ห่วงใยของมารดาของพระเจ้าและให้เราวอนขอสันติภาพของโลก”
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสัปดาห์ที่ 4
  หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”
(ลูกา 1:39-45)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสัปดาห์ที่ 4
  หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”
(ลูกา 1:39-45)
วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
การทำลายพระรูปในราวันดา
ที่กิเบโฮ
ในปี 1981 เมื่อมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้น ทหารและประชาชนที่ก่อการร้ายไม่ได้ฆ่าฝ่ายตรงข้ามของเขาเท่านั้น
พวกเขายังทำลายพระรูปศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดภายในโบสถ์ด้วย พระสังฆราช Aloys Birgirumwami
แห่ง Nyundo ได้เขียนในบทนำของหนังสือที่เกี่ยวกับกิเบโฮว่า “ข้าพเจ้าไม่อาจละเลยที่จะกล่าวถึงความโกรธแค้นอันดุเดือดของพวกเขาที่มีต่อพระมารดาแห่งพระเจ้าในระหว่างปี
1979 – 1981 พวกเขาทำลายพระรูปอิคอนและทำลายรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่อยู่ภายในโบสถ์
และตามสี่แยกทั่วเมืองราวันดา
และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ปกป้องขัดขวางการกระทำอันป่าเถื่อนเหล่านั้นเลย”
วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
ความหมายของเลขในบัตรประชาชน
เลขในบัตรประชาชนจะแบ่งออกเป็น
5 กลุ่ม เช่น 3 90xx 00xxx 4x 8
ในแต่ละกลุ่มมีความหมายดังนี้
1.
กลุ่มที่1 ตัวเลขตัวแรก
บอกประเภทของบุคคลว่าเป็นคนไทยประเภทไหนซึ่งแบ่งออกเป็น 8 ประเภท คือ
§ เลข 1 คนไทยที่เกิดและมีสัญชาติไทยและแจ้งเกิดตั้งแต่วันที่
1 มกราคม 2527 เป็นต้นมา
§ เลข 2
คนไทยที่เกิดและมีสัญชาติไทยแต่ไม่ได้แจ้งเกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2527
เป็นต้นมา
§ เลข 3 คนไทยและคนต่างด้าว(ที่มีใบสำคัญประจำตัว)
และมีชื่ออยู่ในทะเบียน บ้านตั้งแต่ก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2527
§ เลข 4 คนไทยหรือคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญต่างด้าว
แต่แจ้งย้ายเข้าโดยยังไม่มีเลข ประจำตัวประชาชนในสมัยเริ่มแรก
พึงมาทำบัตรในตอนหลัง
§ เลข 5
คนไทยที่ได้รับอนุมัติให้เพิ่มชื่อเข้าไปในทะเบียนบ้านในกรณีตกสำรวจ หรือกรณีอื่นๆ
§ เลข 6 ผู้เข้าเมืองไทยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
หรือชอบด้วยกฎหมายแต่อยู่ในลักษณะชั่วคราว เช่น ชนกลุ่มน้อย
§ เลข 7 บุตรของกลุ่มหมายเลข 6 ที่เกิดในไทย
และได้บัตรประจำตัวของไทย
§ เลข 8
คนต่างด้าวที่ได้รับสิทธิ์โอนสัญชาติเป็นไทย เช่น ได้สามีเป็นคนไทย
ลองเอาบัตรประชาชนออกมาดูซิคะว่าตัวเองอยู่ในประเภทไหน
2.
กลุ่มที่
2 ตัวเลขหลักที่
2-5 หมายถึงจังหวัดอำเภอซึ่งเป็นภูมิลำเนาของเจ้าของบัตร เช่น ของผู้เขียนเอง
เป็นหมายเลข 90xx บ่งบอกให้รู้ว่ามีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดสงขลาเพราะรหัสของจังหวัดสงขลา คือ
90000
3.
กลุ่มที่
3 ตัวเลขหลักที่
6-10 หมายถึงลำดับในการออกเลขรหัส
ซึ่งตัวเลขนี้จะบ่งบอกถึงอายุและลำดับความอาวุโสในครอบครัว
4.
กลุ่มที่
4 ตัวเลขหลักที่
11-12 เป็นลำดับที่ของเจ้าของบัตรเมื่อแยกตามประเภทของบุคคลในกลุ่มที่ 1
5.
กลุ่มที่
5 ตัวเลขหลักที่
13 เป็นตัวเลขการตรวจสอบ 12 หลักแรกถูกต้องหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีสูตรคำนวณของเขา
วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
พระบิดาตรัสกับน.คัทรินแห่งเซียนนา
"
มนุษย์ถูกสร้างให้มีฐานะเหนือสิ่งสร้างอื่นๆทั้งหมดในโลก มนุษย์จึงไม่สามารถพึงพอใจในสิ่งที่อยู่ต่ำกว่าตนเองได้ แต่จะพึงพอใจสิ่งที่อยู่เหนือกว่า และผู้ที่อยู่เหนือกว่ามนุษย์ก็มีแต่เพียงเราเท่านั้น คือพระเป็นเจ้านิรันดร เพราะฉะนั้นเป็นเราเท่านั้นที่สามารถทำให้มนุษย์พึงพอใจและมีความสุขได้ แต่เพราะมนุษย์ได้สูญเสียความสุขนั้นไปเนื่องจากความผิดที่เขากระทำ มนุษย์จึงรู้สึกเป็นทุกข์ทรมานตลอดเวลา มนุษย์ร้องไห้อย่างขมขื่น และเมื่อเขาเริ่มต้นร้องไห้ สายลมได้พัดมาปะทะต้นไม้แห่งการรักตนเอง ซึ่งมนุษย์ได้ทำให้เกิดขึ้นในตัวตนของเขาคือการถือตนเองเป็นใหญ่”
มนุษย์ถูกสร้างให้มีฐานะเหนือสิ่งสร้างอื่นๆทั้งหมดในโลก มนุษย์จึงไม่สามารถพึงพอใจในสิ่งที่อยู่ต่ำกว่าตนเองได้ แต่จะพึงพอใจสิ่งที่อยู่เหนือกว่า และผู้ที่อยู่เหนือกว่ามนุษย์ก็มีแต่เพียงเราเท่านั้น คือพระเป็นเจ้านิรันดร เพราะฉะนั้นเป็นเราเท่านั้นที่สามารถทำให้มนุษย์พึงพอใจและมีความสุขได้ แต่เพราะมนุษย์ได้สูญเสียความสุขนั้นไปเนื่องจากความผิดที่เขากระทำ มนุษย์จึงรู้สึกเป็นทุกข์ทรมานตลอดเวลา มนุษย์ร้องไห้อย่างขมขื่น และเมื่อเขาเริ่มต้นร้องไห้ สายลมได้พัดมาปะทะต้นไม้แห่งการรักตนเอง ซึ่งมนุษย์ได้ทำให้เกิดขึ้นในตัวตนของเขาคือการถือตนเองเป็นใหญ่”
วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
การแพร่ธรรมแก่ชนเผ่ามาโนโบ
มีการแพร่ธรรมให้แก่ชนเผ่ามาโนโบในฟิลิปปินส์จากมิชชันนารีคณะChristian Aid Mission เป็นเวลานานแปดเดือนที่มิชชันนารีสอนพระวรสารแก่ชนเผ่าในหมู่บ้านอันห่างไกลและสุดท้ายได้ฉายภาพยนตร์"Passion
of the Christ." ของเมล กิบสัน ให้คนในหมู่บ้านนี้ชม ทำให้คนเกือบทั้งหมู่บ้านกลับใจมาเป็นคริสตชน
ผู้อำนวยการของมิชชันนารีนี้อธิบายว่า
ชนเผ่าในหมู่บ้านได้รับการสั่งสอนพระวรสารนานแปดเดือน
พวกเขาประทับใจในพระสัญญาของพระเจ้าที่ตรัสกับอับราฮัมว่า “ทุกชนชาติบนโลกจะได้รับพระพรโดยอาศัยพงศ์พันธุ์ของท่าน เพราะท่านเชื่อฟังคำสั่งสอนของเรา”
และหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่พวกเขาจะกลับใจ
พวกเขาสงสัยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับพระเยซูเจ้าเมื่อพระองค์ทรงถูกจับกุม
และมิชชันนารีได้ให้พวกเขาดูวีดีโอเรื่องพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า
พวกเขาได้เห็นความเสียสละของพระเยซูเจ้าเพื่อไถ่บาปมนุษย์และทำให้พวกเขาประทับใจมาก ชนเผ่าทั้งหมู่บ้านจึงได้กลับใจในคืนนั้นเอง
วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
ปีศาจต้องการให้เราหยุดสวดภาวนา
ปีศาจพยายามทำให้วิกก้าหยุดสวดภาวน
ในบทความของซิสเตอร์เอมมานูเอล จากเมดจูกอเรจ์ ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ว่า วิกก้าได้เผชิญหน้ากับปีศาจในขณะที่เธอกำลังสวดภาวนาพร้อมกับผู้แสวงบุญ
ในบทความของซิสเตอร์เอมมานูเอล จากเมดจูกอเรจ์ ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ว่า วิกก้าได้เผชิญหน้ากับปีศาจในขณะที่เธอกำลังสวดภาวนาพร้อมกับผู้แสวงบุญ
ซิสเตอร์เขียนว่า “วันหนึ่ง
เมื่อวิกก้ากำลังสวดภาวนาเป็นเวลานานต่อหน้าประชาชนที่มารวมกัน มีหญิงผู้หนึ่งร้องตะโกนออกมาเป็นเสียงที่น่ากลัวของผู้ชาย
“ข้าทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว! หยุดสวดภาวนาเสียที!
แกเอาแต่ให้อภัย! แกสมควรตายไปตั้งนานมาแล้ว! หยุดเดี๋ยวนี้!”
“มันเป็นเสียงร้องของศัตรูที่ให้ความหมายและสำคัญทีเดียว
ซาตานได้บอกให้เรารู้อย่างชัดเจนในเวลานั้นว่า สิ่งที่รบกวนมันมากที่สุดนั้นคืออะไร ไม่ต้องสงสัยเลย
ซาตานไม่ชอบการที่เราสวดภาวนาและให้อภัยผู้อื่น เพราะนั่นทำให้มันหมดสิ้นอำนาจที่จะทำอันตรายแก่เราได้”
หากต้องการรับจดหมายข่าวประจำเดือนของซิสเตอร์เอ็มมานูเอล
ให้เข้าไปที่เว็ปไซต์ของเธอ : www.sisteremmanuel.orgวันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
นักบุญคัทรินแห่งเซียนนา2
วันที่
29 เม.ย. เป็นวันฉลองนักบุญ คัทรินแห่งเซียนนา
และนี่คือความจริง 11 ข้อเกี่ยวกับชีวิตของท่านซึ่งน่าประหลาดใจ
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)