พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสัปดาห์ที่ 4

           หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”
(ลูกา 1:39-45)








วันอังคารที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2560

จดหมายของพระสันตปาปา


           ผู้โดยสารพิเศษคนหนึ่งที่เดินทางมากับเรือไททานิกคือ นายกเทศมนตรีอาร์ชิบาลด์ วิลลิงแกม บัท Major Archibald Willingham Butt จากเซาท์แทมตัน เขาเดินทางจากอังกฤษจะไปที่นิวยอร์ก
           เขาถือจดหมายจากพระสันตะปาปาปีโอที่ 10 เพื่อไปส่งให้กับประธานาธิบดีของสหรัฐ นายวิลเลียม เอช. ทัฟ William H. Taft นายกเทศมนตรีเดินทางมาพร้อมกับผู้โดยสาร 1500 คนในเรือไททานิกในคืนวันที่ 15 เม.ย. และได้เสียชีวิตเมื่อเรือไททานิกจมในมหาสมุทร จึงไม่มีใครรู้ว่าจดหมายนั้นกล่าวถึงเรื่องอะไร

วันจันทร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2560

ประวัติไม้กางเขนแท้ของพระเยซูเจ้า


“ผู้ใดไม่แบกกางเขนของตนและติดตามเรา ผู้นั้นเป็นศิษย์ของเราไม่ได้
"โอ้ซางตาครู้ส ไม้ศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์เป็นอันยิ่ง ขอกราบไหว้วันทา"
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2560

พระคริสต์กลับเป็นขึ้นมาในวันนี้


สุขสันต์ปัสกาแด่ทุกท่าน
            พระคริสต์ทรง
แสงสุรีย์
พระผู้ไถ่
ชนทั้งหลาย
            จึงชนผอง
เสียงเพลงพิณ
อัลเลลูยา
สาธุชน
คืนชีพแล้ว
เรืองรอง
มีชัย
พ้นทุกข์ภัย
ยินดี
ดังก้อง
อัลเลลูยา
เป็นสุขสันต์
ในวันนี้
ส่องสาดสาย
เหนือความตาย
ในพระองค์
เปรมปรีด์ยิ่ง
ทุกแห่งหน
ฟ้าเบื้องบน
นิรันดร
 

วันศุกร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2560

พระมหาทรมาน


ฝ่ายข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ทัดทานสิ่งใด ไม่หันหลังหนี ข้าพเจ้าหันหลังให้แก่ผู้โบยตีข้าพเจ้า และหันหน้าให้แก่ผู้ที่ดึงเคราข้าพเจ้าออก ข้าพเจ้าไม่ได้ปิดหน้าเพื่อหนีความสบประมาทและการถ่มน้ำลายรด (อสย 50:5-6)
พระเยซูคริสตเจ้าทรงเป็นองค์เดียวเสมอ ทั้งอดีต ปัจจุบัน และตลอดไป (ฮบ 13:8)
รอยแผลที่ถูกโบยตีของพระองค์รักษาเราให้หายเป็นปกติ (อสย 53:5)
แม้ทุกคนจะทอดทิ้งพระองค์ ข้าพเจ้าก็จะไม่ทอดทิ้งพระองค์เลย (มธ 26:33)
ถึงแม้ข้าพเจ้าจะต้องตายพร้อมกับพระองค์ ข้าพเจ้าก็จะไม่ปฏิเสธพระองค์เลย (มธ 26:35)
            “เพราะพระเจ้าทรงรักโลกมาก จนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่เชื่อในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์ เพราะพระเจ้าไม่ได้ทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาในโลกเพื่อพิพากษาลงโทษโลก แต่เพื่อช่วยโลกให้รอดโดยทางพระบุตรนั้น ผู้ใดที่เชื่อในพระองค์ก็ไม่ถูกพิพากษา แต่ผู้ใดที่ไม่เชื่อก็ถูกพิพากษาอยู่แล้ว เพราะเขาไม่เชื่อในพระนามของพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า คำตัดสินเป็นดังนี้คือ ความสว่างได้เข้ามาในโลก แต่มนุษย์รักความมืดแทนที่จะรักความสว่าง เพราะการกระทำของพวกเขาชั่วร้าย ทุกคนที่ทำชั่วก็เกลียดความสว่าง และจะไม่เข้ามาในความสว่างเพราะกลัวว่าการกระทำของตนจะถูกเปิดโปง แต่ผู้ใดที่มีชีวิตอยู่โดยความจริงย่อมมาสู่ความสว่าง เพื่อให้เห็นชัดเจนว่าสิ่งที่ตนทำนั้นได้ทำไปโดยพึ่งพระเจ้า(ยอห็น 3:16-21)
 
 
 
 

วันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2560

พฤหัสศักดิ์สิทธิ์

การเลี้ยงอาหารจัดขึ้นที่บ้านของชายที่ชื่อเฮลี Heli ครั้งหนึ่งในอดีตบ้านของเขาเคยถูกใช้เป็นที่เก็บรักษาหีบแห่งพันธสัญญาด้วย  เฮลีเป็นน้องเขยของซาคาเรียแห่งเฮบรอน บ้านของเขาตั้งอยู่ทางตอนใต้ของภูเขาซีออนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากปราสาทของกษัตริย์ดาวิด
>>>อ่านต่อ