Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2025 ปีศาจมาประจญพระเยซูเจ้า
  พระเยซูเจ้าทรงได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยมทรงพระดำเนินจากแม่น้ำจอร์แดน พระจิตเจ้าทรงนำพระองค์ไปยังถิ่นทุรกันดาร ทรงถูกปีศาจผจญเป็นเวลาสี่สิบวัน ตลอดเวลานั้นพระองค์มิได้เสวยสิ่งใดเลย ในที่สุด ทรงหิว ปีศาจจึงทูลพระองค์ว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรพระเจ้า จงสั่งให้หินก้อนนี้กลายเป็นขนมปังเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่ามนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้น” ปีศาจจึงนำพระองค์ไปยังที่สูงแห่งหนึ่ง แสดงให้พระองค์ทอดพระเนตรอาณาจักรต่าง ๆ ของโลกทั้งหมดในคราวเดียว และทูลพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าจะให้อำนาจและความรุ่งเรืองของอาณาจักรเหล่านี้ทั้งหมดแก่ท่าน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะให้ผู้ใดก็ได้ตามความปรารถนา ดังนั้น ถ้าท่านกราบนมัสการข้าพเจ้า ทุกสิ่งจะเป็นของท่าน” พระเยซูเจ้าตรัสตอบปีศาจว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า
  ‘จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผู้เดียวเท่านั้น’”
  ปีศาจนำพระองค์ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม วางพระองค์ลงที่ยอดพระวิหาร แล้วทูลว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้า จงกระโจนลงไปเบื้องล่างเถิด เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ‘พระเจ้าจะทรงสั่งทูตสวรรค์ให้พิทักษ์รักษาท่าน’ และยังมีเขียนอีกว่า ‘ทูตสวรรค์จะคอยพยุงท่านไว้มิให้เท้ากระทบหิน’” แต่พระเยซูเจ้าตรัสตอบปีศาจว่า มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเลย” เมื่อปีศาจทดลองพระองค์ทุกวิถีทางแล้ว จึงแยกจากไป
(ลูกา 4:1-13)
วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
สวดภาวนาเวลาเช้า
คริสตชนยุคแรกใช้เวลาสวดภาวนานานนับชั่วโมงในแต่ละวันและประชุมกันในโบสถ์แม้ในเวลากลางคืนเพื่อสวดภาวนาและอ่านบทสดุดีร่วมกัน
>>>อ่านต่อ
วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
ความศรัทธาของหญิงพิการชาวมองโกเลีย
"เมื่อประชาชนมองเห็นความเชื่อของฉัน พวกเขาก็สนใจในพระเจ้าและพระศาสนาจักร. โบสถ์ของเราที่ Nisekh มีบรรยากาศของครอบครัว. ฉันสอนตำสอนให้แก่ผู้ใหญ่เจ็ดคน เป็นผู้หญิงห้าและผู้ชายสองคน"
>>>อ่านต่อ
วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
ความศรัทธาของหญิงพิการชาวอัฟริกัน
(CNA).- ซิสเตอร์คณะรับใช้ผู้ถูกทอดทิ้งในกรุงชิสซาโน (โมแซมบิก) ได้รับหญิงอัฟริกันอายุ 25 ปีมาดูแลที่บ้านของคณะ. เธอชื่อ โอลิเวีย หญิงคนนี้ไม่มีขาและยังไม่ได้รับศีลล้างบาป. แต่ทุกวันอาทิตย์เธอจะคลานมาด้วยมือทั้งสองจากบ้านของเธอซึ่งอยู่ห่างโบสถ์ไป 2.5 ไมล์เพื่อมาร่วมพิธีมิสซา.
ซิสเตอร์เล่าให้ฟังว่า "วันหนึ่งเธอเห็นอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ที่พื้นดินห่างออกไป และเมื่อสิ่งนั้นเข้ามาใกล้เธอจึงเห็นได้ชัดเจนและรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่งที่เห็นว่าสิ่งนั้นเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง"
"เราพูดกับเธอผ่านทางล่ามซึ่งเป็นผู้หญิงที่เดินมาเคียงข้างและสามารถแปลเป็นภาษาโปรตุเกสได้" ซิสเตอร์บอก
ซิสเตอร์เล่าต่อไปว่า "ถึงแม้ทรายบนพื้นจะร้อนจัดในระหว่างช่วงเวลานี้ของปีและแผดเผามือของเธอ แต่เธอก็ยังยืนหยัดที่จะมาร่วมพิธีมิสซา ทำให้พวกเราทึ่งในความเชื่อขั้นวีรกรรมชองเธอมาก"
หญิงอัฟริกันผู้นี้ได้รับศีล้างบาปแล้วเมื่อเร็วๆนี้ โดยได้รับการเตรียมตัวจากผู้สอนคำสอนซึ่งไปเยี่ยมเธอที่บ้าน. ภายหลังจากได้รับศีลล้างบาป,ได้มีผู้สนับสนุนงานของซิสเตอร์รายหนึ่งได้มอบรถวีลแชร์ให้แก่โอลีเวีย
วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
ลูซีเฟอร์กำลังโจมตีพระศาสนจักร
“พระศาสนจักรคาทอลิกกำลังถูกโจมตี! พลังอำนาจแห่งความมืดถูกปลดปล่อยออกมาต่อสู้กับเจ้าสาวของผู้ที่เราได้แขวนเขาไว้บนไม้กางเขน ”
>>>อ่านต่อ
วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
มรณะสักชีแห่งความบริสุทธิ์
ในระหว่างการพบกับประธานสภาสถาปนาผู้เป็นนักบุญ พระสันตปาปาฟรังซิสทรงประกาศการเป็นมรณะสักขีของผู้รับใช้พระเจ้าIsabel Cristina Mrad Campos สตรีคาทอลิกที่ถูกฆ่าโดยคนที่พยายามลวนลามเธอ ที่เมือง Juiz de Fora, ในบราซิล
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 1982 ชายหนุ่มคนหนึ่งถูกจับตัวได้ เพราะเมื่อหลายวันก่อนเขาพยายามจะข่มขืนหญิงสาวอายุ 20 ปีในอพาร์ตเมนท์ของเธอ แต่หญิงสาวขัดขืน, ชายหนุ่มจึงทุบตีและใช้มีดแทงเธอจนตาย
การถูกฆ่าตายอย่างทารุณของหญิงสาวผู้นี้ เปรียบได้กับมรณะสักขี นักบุญ มาเรีย กอเร็ตตี ผู้ปกป้องพรหมจรรย์ด้วยชีวิตของเธอเอง
หลุมฝังศพของอิสซาเบลอยู่ภายในโบสถ์ Our Lady of Mercy ในเมือง Barbacena ของบราซิล และเป็นสถานที่แสวงบุญของคริสตชนซึ่งมาวอนขอความช่วยเหลือจากเธอ
วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
อัศจรรย์ดวงอาทิตย์
วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม 1917 ผู้แสวงบุญเริ่มต้นเดิน มีฝนตกตลอดทั้งคืน และ “ในทันทีทันใดอากาศก็เปลี่ยนไป ถนนที่เป็นดินก็กลายเป็นโคลนด้วยฝนที่ตกลงมา ”
>>>อ่านต่อ