พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสัปดาห์ที่ 4

           หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”
(ลูกา 1:39-45)








วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

นายกอินเดียเชิญพระสันตปาปา



นายนาเรนทรา นายกรัฐมนตรีของอินเดียซึ่งขณะที่อยู่ที่กรุงโรมเพื่อร่วมประชุมกลุ่มจี20 ได้เข้าพบพระสันตปาปฟรังซิสที่วาติกัน เขาได้เชิญพระสันตะปาปาให้เสด็จเยือนประเทศอินเดียอย่างเป็นทางการด้วย 
ถ้าพระสันตปาปาฟรังซิสเยือนอินเดีย ก็จะเป็นครั้งที่สามที่มีพระสันตะปาปาเยือนอินเดีย นับตั้งแต่ที่พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ได้เยือนอินเดียสองครั้งคือในปี 1986 และ1999 
การเยือนอินเดียของสมเด็จพระสันตะปาปาอาจจะช่วยทำให้สถานการณ์ความรุนแรงระหว่างคริสตชนคาทอลิกกับชาวฮินดูหัวรุนแรงบรรเทาเบาบางลง และคริสตชนที่มีจำนวน 5% ของประเทศจะมีความปลอดภัยมากขึ้น

วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

อัศจรรย์จากนักบุญชาร์เบล?


หญิงผู้นั้นได้ไปที่โรงพยาบาลและตรวจสภาพร่างกายอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ ปรากฏว่าเธอไม่มีโรคมะเร็งแล้ว
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ชีวิตในสวรรค์


นครที่ส่องแสงรุ่งโรจน์ ที่มีเหล่าทูตสวรรค์ชั้นเซราฟิมขับร้องบรรเลงเพลงประสานสรรเสริญพระเจ้าตลอดเวลา
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2564

พระสันตปาปาพบกับประธานาธิบดีไบเดน


 
โจเซฟ อาร์. ไบเดน จูเนียร์ จะไปเยี่ยมวาติกันในวันที่ 29 ต.ค.2021 เขาจะเป็นประธานาธิบดีคนที่สามของอเมริกา และเป็นประธานาธิบดีคนที่สองที่เป็นคาทอลิก ที่เข้าพบกับพระสันตปาปาฟรังซิส นับตั้งแต่พระองค์ทรงเข้ารับตำแหน่งสันตะปาปาในปี2013 แต่ละคนมีจุดยืนที่แตกต่างออกไป ทั้งพระสันตะปาปาเอง และงสถานการณ์ทางการเมืองในสหรัฐด้วย   
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวถึงพลังดึงดูดทั่วโลกของพระสันตปาปาฟรัวซิส,และการมุ่งเน้นที่ผู้อพยพ,การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ,และผู้ยากไร้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ซึ่งเป็นคริสตชนเช่นกัน พระสันตปาปาเคยตั้งคำถามเขาถึงนโยบายต่อต้านผู้อพยพของเขา ซึ่งทำให้ชาวอเมริกันบางกลุ่มไม่พอใจ ตอนนี้เป็นคราวของ โจ ไบเดน ผู้เป็นคาทอลิกที่ร่วมพิธีมิสซาอย่างสม่ำเสมอ เป็นช่วงเวลาที่การแบ่งขั้วทางการเมืองในอเมริกาได้ซึมลึกเข้าไปในพระศาสนคาทอลิกอเมริกา ประธานาธิบดีและพระสันตะปาปาซึ่งมีจุดร่วมในประเด็นต่างๆ ร่วมกัน ได้กลายเป็นเป้าหมายร่วมกันของบิชอปอเมริกันอนุรักษ์นิยมางคนซึ่งพยายามจะด้อยราคาพวกเขา
โจ ไบเดนเคยพบพระสันตปาปาฟรังซิสมาก่อนแล้ว และครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สี่ที่เขาได้พบกับพระสันตปาปา