Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2025 ต้องอธิษฐานภาวนาอยู่เสมอ
พระเยซูเจ้าทรงเล่าเรื่องอุปมาเรื่องหนึ่งแก่บรรดาศิษย์เพื่อสอนว่าจำเป็นต้องอธิษฐานภาวนาอยู่เสมอโดยไม่ท้อถอย พระองค์ตรัสว่า ‘ผู้พิพากษาคนหนึ่งอยู่ในเมืองหนึ่ง เขาไม่ยำเกรงพระเจ้าและไม่เกรงใจมนุษย์ผู้ใด หญิงม่ายคนหนึ่งอยู่ในเมืองนั้นด้วย นางมาพบเขาครั้งแล้วครั้งเล่าพูดว่า “กรุณาให้ความยุติธรรมแก่ดิฉันสู้กับคู่ความเถิด” ผู้พิพากษาผู้นั้นไม่ยอมทำตามที่นางขอร้องจนเวลาผ่านไประยะหนึ่ง จึงคิดว่า “แม้ว่าฉันไม่ยำเกรงพระเจ้าและไม่เกรงใจมนุษย์ผู้ใด แต่เพราะหญิงม่ายผู้นี้มาทำให้ฉันรำคาญ ฉันจึงจะให้นางได้รับความยุติธรรม เพื่อมิให้นางรบเร้าฉันอยู่ตลอดเวลา”’ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘จงฟังคำที่ผู้พิพากษาอธรรมคนนั้นพูดซิ แล้วพระเจ้าจะไม่ประทานความยุติธรรมแก่ผู้เลือกสรรที่ร้องหาพระองค์ทั้งวันทั้งคืนดอกหรือ พระองค์จะไม่ทรงช่วยเขาทันทีหรือ เราบอกท่านทั้งหลายว่าพระองค์จะประทานความยุติธรรมแก่เขาโดยเร็ว แต่เมื่อบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมา จะทรงพบความเชื่อในโลกนี้หรือ’
(ลูกา 18:1-8)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2025 ต้องอธิษฐานภาวนาอยู่เสมอ
พระเยซูเจ้าทรงเล่าเรื่องอุปมาเรื่องหนึ่งแก่บรรดาศิษย์เพื่อสอนว่าจำเป็นต้องอธิษฐานภาวนาอยู่เสมอโดยไม่ท้อถอย พระองค์ตรัสว่า ‘ผู้พิพากษาคนหนึ่งอยู่ในเมืองหนึ่ง เขาไม่ยำเกรงพระเจ้าและไม่เกรงใจมนุษย์ผู้ใด หญิงม่ายคนหนึ่งอยู่ในเมืองนั้นด้วย นางมาพบเขาครั้งแล้วครั้งเล่าพูดว่า “กรุณาให้ความยุติธรรมแก่ดิฉันสู้กับคู่ความเถิด” ผู้พิพากษาผู้นั้นไม่ยอมทำตามที่นางขอร้องจนเวลาผ่านไประยะหนึ่ง จึงคิดว่า “แม้ว่าฉันไม่ยำเกรงพระเจ้าและไม่เกรงใจมนุษย์ผู้ใด แต่เพราะหญิงม่ายผู้นี้มาทำให้ฉันรำคาญ ฉันจึงจะให้นางได้รับความยุติธรรม เพื่อมิให้นางรบเร้าฉันอยู่ตลอดเวลา”’ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘จงฟังคำที่ผู้พิพากษาอธรรมคนนั้นพูดซิ แล้วพระเจ้าจะไม่ประทานความยุติธรรมแก่ผู้เลือกสรรที่ร้องหาพระองค์ทั้งวันทั้งคืนดอกหรือ พระองค์จะไม่ทรงช่วยเขาทันทีหรือ เราบอกท่านทั้งหลายว่าพระองค์จะประทานความยุติธรรมแก่เขาโดยเร็ว แต่เมื่อบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมา จะทรงพบความเชื่อในโลกนี้หรือ’
(ลูกา 18:1-8)
วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
พระสันตะปาปาปีโอที่12 กับสงครามโลกครั้งที่สอง
ในตอนเช้าของวันที่ 19 กรกฎาคม เครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ ได้ทิ้งระเบิดโจมตีย่านชนชั้นแรงงานของซาน ลอเรนโซ ในกรุงโรม ซึ่งทำให้พลเรือนเสียชีวิต 3,000 คน เมื่อการทิ้งระเบิดหยุดลง พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ทรงเสด็จเยี่ยมพื้นที่เพื่อสวดภาวนาร่วมกับประชาชนที่กำลังหวาดกลัว นี่คือภาพที่น่าทึ่งที่ถ่ายในวันนั้น
ขณะที่ระเบิดยังคงตกลงมา พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ทรงออกไปตามท้องถนนเพื่อปลอบโยน ช่วยเหลือ และให้ความหวังแก่ทุกคน ไม่เพียงแต่สำหรับชาวคาทอลิกเท่านั้น
ผู้ที่อยู่เคียงข้างพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 คือพระสังฆราชจิโอวานนี บัตติสตา มอนตินี,ผู้ที่จะเป็นพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ในอนาคต
พระสันตะปาปาเสด็จมาถึงย่าน San Lorenzo ในขณะที่การโจมตีทางอากาศยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ
พระสันตะปาปาทรงท้าทายสถานการณ์โดยไม่มีใครคุ้มกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด พระองค์ทรงทำเพราะต้องการใกล้ชิดกับชาวโรมันในโศกนาฏกรรมครั้งนั้น
ในภาพ,พระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ทรงอยู่ในท่าของการสวดภาวนา เป็นการวิงวอนขอพระเมตตาของพระเจ้าเพื่อให้สงครามจะได้ยุติลงในไม่ช้า
พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ยังอยู่บนถนนในกรุงโรมในวันที่ 13 สิงหาคม 1943 ด้วย ซึ่งเป็นวันที่มีการทิ้งระเบิดครั้งใหม่ ในวันนั้นพระองค์ทรงมีกำหนดจะทรงประกอบพิธีมิสซาและมีการแห่เพื่อผู้ที่เสียชีวิตในวันที่ 19 กรกฎาคม
วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
ช่วงสุดท้ายแห่งชีวิตของคุณพ่อปีโอ
ช่วงเวลากลางคืนอันยาวนานและทำให้นอนไม่หลับเพราะไอและหายใจถี่,คุณพ่อปีโอพึมพำอย่างต่อเนื่องว่า “พระเยซูเจ้า,พระแม่มารีย์,ลูกขอยกถวายคำคร่ำครวญแห่งวิญญาณที่น่าสงสารของลูกแด่พระองค์” และในช่วงเวลากลางวันได้ยินท่านบ่นว่า "พระเยซูเจ้า,โปรดเรียกข้าพเจ้าไปด้วยเทอญ!" และ "ข้าพเจ้าไม่สามารถทนต่อไปได้แล้ว" ทุกคืน,ท่านจะวิงวอนคุณพ่ออธิการ ปาเดร คาร์เมโล, “ขอให้ผมนบนอบเชื่อฟังด้วยการตายเถอะ” (จากหนังสือ Padre Pio: The True Story, หน้า 370)
วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)