พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสัปดาห์ที่ 4

           หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”
(ลูกา 1:39-45)








วันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ความบริสุทธิ์


คำปฏิญาณแห่งพรหมจรรย์รวมถึงความบริสุทธิ์ของร่างกายและจิตวิญญาณนี้จะสูญเสียไปได้ง่าย และบางครั้งมันเป็นไปได้ยากที่จะซ่อมแซมแก้ไขได้. สมบัติอันยิ่งใหญ่นี้ฝากไว้ในปราสาทซึ่งมีประตูและช่องเปิดมากมาย และหากสิ่งเหล่านี้ไม่ได้รับการปกป้องและป้องกันอย่างดี,สมบัตินี้ก็จะปราศจากการรักษาความปลอดภัย ลูกสาวทั้งหลาย,เพื่อที่จะรักษาคำปฏิญาณนี้อย่างสมบูรณ์,จำเป็นต้องมีมาตรการกับประสาทสัมผัสของลูก โดยการไม่ใช้มัน ยกเว้นแต่ใช้เพื่อสิ่งที่เป็นไปตามเหตุผลและเพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของพระผู้สร้าง หลังจากที่ประสาทสัมผัสถูกควบคุมด้วยการทรมานแล้ว, มันก็จะง่ายขึ้นที่จะเอาชนะศัตรูของลูก เพราะโดยการกระทำนี้เท่านั้นที่จะพิชิตตัวลูกได้ เพราะไม่มีความคิดใดๆเกิดขึ้นหรือถูกปลุกให้ตื่นขึ้นได้ เว้นแต่จะถูกกระตุ้นและได้รับความตื่นเต้นจากภาพและความประทับใจที่รับรู้ผ่านประสาทสัมผัสภายนอก
 
-ที่มา: City of God โดย บุญราศีมารีแห่งอะกรีดา
 

วันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

พระเยซูเจ้าตรัสแก่นักบุญมาร์กาเร็ต มารีย์


      นักบุญมาร์กาเร็ตมารีย์เริ่มเขียนชีวิตของเธอโดยผ่านการนบนอบเชื่อฟัง เธอบ่นต่อพระเยซูเจ้าถึงความยากลำบากในการที่จะจดจำเรื่องราวต่างๆที่เคยเกิดขึ้นเมื่อยี่สิบห้าปีที่ผ่านมา. พระเยซูเจ้าตรัสตอบเธอว่า: "ลูกไม่รู้หรือว่าเราคือความทรงจำชั่วนิรันดร์ของพระบิดาบนสวรรค์ของเรา ผู้ไม่มีสิ่งใดถูกลืมโดยพระองค์ และเรื่องที่อยู่เบื้องหน้าของบุคคลใด,อันได้แก่อดีตและอนาคตก็เป็นเหมือนปัจจุบันสำหรับเรา ดังนั้น, จงเขียนไปเถิด,โดยไม่ต้องกลัว เพราะเราจะบอกให้ลูกเขียน และเราสัญญาจะประทานพระหรรษทานแก่ลูกในเรื่องนี้เพื่อที่เราจะได้รับเกียรติ 
           พระอาจารย์เจ้าแห่งสวรรค์ทรงประทานบทเรียนแก่ฉันดังนี้: "จงเรียนรู้ว่าเราเป็นอาจารย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์,และเป็นผู้สอนความศักดิ์สิทธิ์,เราเป็นผู้บริสุทธิ์,และไม่สามารถทนต่อรอยแปดเปื้อนแม้เพียงน้อยนิดได้ เพราะฉะนั้น,ลูกต้องปฏิบัติต่อหน้าเราด้วยหัวใจที่เรียบง่ายและด้วยความตั้งใจอันเที่ยงตรงและบริสุทธิ์ จงรู้ว่าเราไม่สามารถทนต่อความต้องการที่ตรงไปตรงมาได้แม้แต่น้อย,และเราจะทำให้ลูกเข้าใจเช่นนี้ว่าถ้าความรักอันมากล้นของเราทำให้เราสถาปนาตัวเราเป็นอาจารย์ของลูก นั่นก็เพื่อที่จะสอนลูกและทำให้ลูกเป็นเช่นเดียวกับเรา,ตามแบบฉบับของเรา อย่างไรก็ตาม,เราไม่สามารถทนต่อวิญญาณที่เย็นชาและขี้ขลาดได้ ถึงแม้เราอดทนต่อความอ่อนแอของลูกอย่างอ่อนโยน,แต่เราก็จะไม่ลดการเขี้ยวเข็ญและความแน่วแน่ในการแก้ไขและลงโทษความไม่ซื่อสัตย์ของลูก" 
          "ถ้าหากลูกยังคงสัตย์ซื่อต่อเรา,เราจะไม่ทอดทิ้งลูก... เราจะยกโทษให้กับความไม่รู้ของลูก, เพราะลูกยังไม่รู้จักเรา แต่เราจะสอนให้ลูกรู้จักเรา และเราจะเปิดเผยตัวเราแก่ลูก" 

          ที่มา: Thoughts and Sayings of Saint Margaret Mary

วันพุธที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

การเอาชนะเนื้อหนัง


         ให้เรามาพิจารณาถึงศัตรูตัวที่สาม,ซึ่งก็คือเนื้อหนังของเราเอง, ซึ่งเลวร้ายที่สุดในบรรดาศัตรูทั้งหมด มาดูกันว่าเราจะต้องป้องกันตัวเองอย่างไรจากการโจมตีของมัน วิธีแรกคือการสวดภาวนา แต่สิ่งนี้เราได้พิจารณากันไปแล้ว ประการที่สองคือการหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะทำบาป และตอนนี้ให้เราไตร่ตรองให้ดีเกี่ยวกับวิธีการเอาชนะเนื้อหนัง 
         นักบุญเบอร์นาดีนกล่าวว่าคำแนะนำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาคำแนะนำทั้งหมด และคำแนะนำที่เป็นรากฐานของคำสอนทางศาสนา ก็คือการหลีกหนีจากโอกาสบาป เมื่อถูกบังคับในพิธีขับไล่ปีศาจ, ปีศาจเคยสารภาพว่าในบรรดาคำเทศน์ทั้งหมด ที่ทำให้มันไม่พอใจมากที่สุดคือคำเทศน์ที่เกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงโอกาสบาป เพราะปีศาจหัวเราะเยาะความตั้งใจและคำสัญญาของคนบาปที่สำนึกผิด,ผู้ซึ่งยังคงดำรงตนอยู่ในโอกาสบาป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง,โอกาสบาปของเนื้อหนัง,มันจะเป็นเหมือนม่านที่ปิดไว้ต่อหน้าต่อตาของเขา, ซึ่งป้องกันไม่ให้วิญญาณมองเห็นความตั้งใจของเขาหรือได้รับแสงที่มาจากพระเจ้า,หรือตระหนักถึงความจริงของนิรันดร กล่าวอีกนัยหนึ่งคือทำให้เขาลืมทุกอย่างและเกือบจะทำให้ตาบอด การละเลยที่จะหลีกเลี่ยงโอกาสบาปเป็นสาเหตุของการล่มสลายของบิดามารดาคู่แรกของเรา 
         ผู้ใดก็ตามที่นำตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์อันตรายโดยสมัครใจจะพินาศในนั้น นักบุญเปโตรบอกเราว่าปีศาจแสวงหาผู้ที่จะล่อลวงได้ และอะไรนะ,นักบุญซีเปรียนกล่าว,เขาทำเช่นนั้นเพื่อนำสิ่งที่เขาเคยขับออกไปให้กลับเข้าสู่วิญญาณของเขาอีกครั้งหรือ? เขาแสวงหามันและนำตัวเข้าสู่โอกาสบาป ถ้าวิญญาณยอมให้เขานำมันเข้าสู่โอกาสบาปอีกครั้ง, เขาจะเข้าไปอีกและจะทำบาปอย่างแน่นอน ดังนั้น, ผู้ประสงค์จะได้รับความรอดจะต้องละทิ้งบาปทั้งหมด,ไม่เพียงเท่านั้น,แต่รวมถึงละทิ้งโอกาสบาปด้วย อันได้แก่ เพื่อนชั่ว,สถานที่ไม่ดี,ความสัมพันธ์ที่นำไปสู่บาป 
           #Catholic 4 Life

วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

จดหมายของอเล็กซานโดร


อเล็กซานโดร เสียชีวิตวันที่ 6 พ.ค. 1970 ที่คอนแวนต์คาปูชินใน Macerata เขาได้เขียนจดหมายเพื่อเป็นหลักฐานเกี่ยวกับชีวิตจิตของเขาไว้ 
 จดหมายลงวันที่ 5 พ.ค. 1961 
ผมอายุใกล้ 80 ปีแล้ว ผมกำลังจะจากไป เมื่อมองย้อนไปในอดีตของผม ผมเห็นว่าในวัยแรกรุ่นของผม ผมเลือกทางเดินที่ผิดซึ่งนำไปสู่การทำลายตัวเอง 
ความประพฤติของผมได้รับอิทธิพลมาจากหนังสือ จากสื่อต่างๆ และตัวอย่างที่เลวซึ่งส่งผลต่อวัยรุ่นส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยยั้งคิด และผมก็เป็นเช่นนั้น ผมไม่เคยคิดถึงคนดีซึ่งมีอยู่มากมายและอยู่รอบๆตัวผม ผมไม่สนใจพวกเขา เพราะพลังที่รุนแรงทำให้ผมตาบอดและผลักดันผมให้มุ่งไปสู่หนทางชีวิตที่ผิดพลาด 
เมื่อผมอายุ 20 ปี ผมประกอบอาชญากรรม เวลานี้ ความทรงจำนั้นเป็นสิ่งน่าขนพองสยองเกล้าสำหรับผม มาเรีย กอเรตตี ขณะนี้เป็นนักบุญแล้ว เธอเป็นเทวดาของผม เธอถูกส่งมาหาผมโดยพระญาณเอื้ออาทรเพื่อนำทางผมและช่วยผมให้รอด ผมยังคงประทับใจในคำพูดตำหนิและให้อภัยของเธอ เธอสวดภาวนาเพื่อผม เธอได้ช่วยเหลือฆาตกรที่ฆ่าเธอ ผมต้องติดคุก 30 ปี 
ผมยินดีที่จะติดคุกตลอดชีวิต ผมยอมรับการพิพากษาเพราะมันเป็นความผิดของผมเอง 
มาเรียน้อยๆเป็นแสงสว่างของผมอย่างแท้จริง เธอเป็นผู้ปกป้องผม ด้วยความช่วยเหลือของเธอ ผมประพฤติดีในระหว่างที่ติดคุก 27 ปีและผมพยายามใช้ชีวิตอย่างสัตย์ซื่อ เมื่อผมได้รับการยอมรับจากสังคมอีกครั้งหนึ่ง พี่น้องของฟรังซิส คาปูชินจากมาร์เช่ ได้ต้อนรับผมอย่างเต็มใจดุจเทวดา พวกท่านอนุญาตให้ผมอยู่กับท่านในอารามเหมือนพี่น้อง ไม่ใช่ในฐานะคนรับใช้ แล้วผมก็อาศัยอยู่กับพวกท่านเป็นเวลานานถึง 24 ปี และเวลานี้ผมกำลังรอคอยวันที่จะไปยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเป็นเจ้า เพื่อกอดคนที่ผมรักอีกครั้งหนึ่ง และเพื่อยืนอยู่เคียงข้างอารักขเทวดาของผมและมารดาของเธอ-อัสซุนตา 
ผมหวังว่าจดหมายที่ผมเขียนขึ้นนี้จะได้เป็นบทเรียนให้แก่ผู้อื่นให้หลีกหนีความชั่วและเดินในหนทางที่ถูกต้องเสมอ เหมือนดังเด็กเล็กๆ ผมรู้สึกว่าศาสนาเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชีวิตของเรา แต่ศาสนาเป็นสิ่งที่ให้ความปลอบประโลม ให้พลังที่เข้มแข็งในชีวิตและเป็นหนทางที่ปลอดภัยในทุกกรณีแม้แต่ในเวลาที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต 
ลายเซ็น อเล็กซานโดร เซเรเนลลี 

วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

นักบุญมาเรีย กอเรตติ


นี่เป็นเพียงรูปภาพเดียวที่มีของนักบุญมาเรีย กอเรตติ ถ่ายเมื่อปี 1902 ทางซ้ายมือคือ Giuseppe Brovelli-Soffredini 
วันฉลอของนักบุญมาเรีย กอเรตติ คือวันที่ 6 กรกฏาคม 
ท่านเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของผู้มีใจเมตตา,สตรีผู้ถูกข่มขืน,เด็กหญิง,เยาวชน,วัยรุ่นหญิง,คนยากจน,ความบริสุทธิ์,และการให้อภัย 
ข้าแต่ท่านนักบุญมาเรีย กอเรตติ โปรดภาวนาเพื่อเราด้วยเทอญ
 

วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

คำแนะนำของคุณพ่อบอสโก-การสารภาพบาป


จงกล้าหาญที่จะเปิดใจอย่างเต็มที่ต่อพระสงฆ์ผู้ฟังสารภาพบาปของลูกเถิด แทนที่จะไปหาคนอื่น,แทนที่จะไปทำบาป
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2566