พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2025 สมโภชพระเยซูเจ้า กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล

          ประชาชนยืนดูอยู่ที่นั่น ส่วนบรรดาผู้นำเยาะเย้ยพระองค์ว่า ‘เขาช่วยคนอื่นให้รอดพ้นได้ ก็ให้เขาช่วยตนเองซิ ถ้าเขาเป็นพระคริสต์ผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร’ แม้แต่บรรดาทหารก็เยาะเย้ยพระองค์ด้วย เขานำเหล้าองุ่นเปรี้ยวเข้ามาถวาย พลางกล่าวว่า ‘ถ้าท่านเป็นกษัตริย์ของชาวยิว ก็จงช่วยตนเองให้รอดพ้นซิ’ มีคำเขียนไว้เหนือพระองค์ว่า ‘ผู้นี้คือกษัตริย์ของชาวยิว’
(ลูกา 23:35-43)








วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2566

คำพูดของนักบุญ


ยุคสมัยใหม่ถูกครอบงำโดยซาตาน และมันจะเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต 
มนุษย์ไม่สามารถต่อกรกับความขัดแย้งกับนรกนี้ได้,แม้แต่คนที่ฉลาดที่สุด 
แม่พระปฏิสนธินิรมลแต่เพียงผู้เดียวที่ทรงได้รับพระสัญญาจากพระเจ้าว่าจะมีชัยชนะเหนือซาตาน 
อย่างไรก็ตาม,พระนางทรงถูกยกขึ้นสู่สวรรค์แล้ว 
เวลานี้,พระมารดาของพระเจ้าทรงต้องการความร่วมมือของพวกเรา 
พระนางแสวงหาวิญญาณที่ถวายตัวของพวกเขาทั้งครบแด่พระนาง 
ผู้ซึ่งจะกลับกลายเป็นเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพในพระหัตถ์ของพระนางเพื่อที่จะพิชิตซาตาน 
และแพร่กระจายพระอาณาจักรของพระเจ้าไปบนแผ่นดินโลก 
- คุณพ่อแม็กซิมิเลียน โคลเบ “

วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2566

เชื่อมต่อขาที่ขาด


นักบุญแอนโทนี,ระหว่างเดินทางไปอิตาลีโดยผ่านสเปนเพื่อไปเทศน์ที่เมืองเลริดา(Lerida) เมืองนี้อยู่บริเวณชายแดนสเปนและอิตาลี 
มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อเลโอนาร์โดอาศัยอยู่ในเมืองนี้ และเขาใช้ชีวิตในบาป วันหนึ่งแม่ของเขาพยายามแนะนำเขาให้ดำเนินชีวิตที่ดีขึ้น และเมื่อเธอพูดกับเขาเช่นนั้น เขาก็โกรธ เขาผลักเธอล้มลงอย่างรุนแรงด้วยความโกรธและเตะเธอด้วย แม้ว่าเขาจะโกรธมาก แต่เขาก็ยังนึกถึงโบสถ์ที่อยู่ใกล้ๆ และไปที่นั้น แอนโทนี่กำลังเทศน์สอนผู้คนอยู่ คำเทศนามีผลทำให้ชายหนุ่มผ่อนคลายและคิดถึงชีวิตของเขาด้วย เขาตระหนักว่าเขาใช้ชีวิตแบบคนชั่วและตัดสินใจสารภาพบาปกับแอนโทนีและขออภัยบาป 
เมื่อเขาสารภาพบาปกับแอนโทนี เขาเล่าสิ่งที่เขาทำกับแม่ของเขา แอนโทนีบอกเขาว่าการชดเชยใช้โทษบาปของเขาก็คือให้ตัดสิ่งที่เขากระทำต่อแม่ของเขา ชายหนุ่มผู้กลับใจยอมรับคำพูดของแอนโทนีอย่างจริงจัง เมื่อเขากลับถึงบ้าน เขาก็ใช้ดาบตัดขาของเขาออก 
แม่ของเขาเห็นการกระทำอันน่าสยดสยองของลูกชายก็ตกใจและโศกเศร้า เธอถามลูกชายของเธอว่าทำไมเขาถึงทำร้ายตัวเองขนาดนี้ และเขาบอกเธอว่าเขาทำตามคำแนะนำของแอนโทนี หลังจากทราบข่าวจากลูกชายว่าแอนโทนีอยู่ที่ไหน เธอจึงรีบไปโบสถ์และร้องไห้ไปตลอดทาง เมื่อไปถึงโบสถ์เธอบอกแอนโทนีถึงสิ่งที่ลูกชายของเธอทำ แอนโทนีรู้สึกอึดอัดใจอย่างมากเมื่อได้ยินคำบอกเล่าที่น่าเศร้าของเธอ เขาอธิบายให้เธอฟังอย่างอดทนว่าท่านขอให้เขาตัดชีวิตที่บาปของเขา ไม่ใช่ตัดขาของเขา เขาปลอบเธอโดยบอกเธอว่าลูกชายของเธอจะได้รับของขวัญชิ้นใหญ่อย่างแน่นอนสำหรับการกลับใจ และบอกว่าจะไปที่บ้านเธอพร้อมกับเธอ 
เมื่อแอนโทนีมาถึงบ้านของหญิงผู้นั้น,เขาก็เห็นลูกชายนอนอยู่บนกองเลือด,บิดตัวด้วยความเจ็บปวด, มือข้างหนึ่งมีขาขาดและมีดาบอยู่อีกข้างหนึ่ง แอนโทนีหยิบขาที่ถูกตัดแล้ววางไว้ตรงจุดที่ถูกตัดแล้วทำเครื่องหมายไม้กางเขนไว้บนนั้น กระดูกที่หักกลับมารวมกันอีกครั้ง และเนื้อที่ถูกตัดออกก็กลับมารวมกันอีกกลายเป็นขาทั้งหมด การไหลเวียนโลหิต ณ จุดนั้นก็กลายเป็นปกติเช่นกัน ชายหนุ่มที่กลับใจลุกขึ้นยืนทันทีและเดินเหมือนคนปกติ เขาขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าและแอนโทนี่อย่างมาก

วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2566

บันไดสวรรค์


ในชีวประวัติของนักบุญโดมินิก (1170-1221) ยังมีการกล่าวถึงบันไดสวรรค์ด้วย เรื่องเกิดขึ้นในวันหนึ่งที่คุณพ่อกัวโล โรมาโนนิ(Guallo Romanoni) อธิการของอาราม Friars Preachers ในเมืองเบรสเชีย(Brescia) ได้เผลอหลับไปโดยพิงอยู่ที่หอระฆังในโบสถ์ของท่าน และท่านก็ฝันไป,ในความฝันท่านเห็นบันไดสองอันพาดลงมาจากท้องฟ้าเบื้องบน ที่ด้านบนสุดของบันไดอันหนึ่งคือพระเยซูเจ้า และที่ด้านบนสุดของบันไดอีกอันหนึ่งคือพระมารดาของพระองค์ เหล่าทูตสวรรค์เดินขึ้นๆลงๆบนบันไดทั้งสอง และที่ปลายด้านล่างของบันไดมีผู้หนึ่งที่แต่งกายนักบวชยืนอยู่ แต่ใบหน้าของเขาถูกคลุมด้วยหมวกของเสื้อคลุม ตามแบบที่นักบวชทั้งหลายทำในการคลุมหน้าของผู้ตายเวลาที่พวกเขาจะนำผู้ตายไปฝังศพ แล้วบันไดก็ถูกลากขึ้นสู่สวรรค์ และคุณพ่อโรมาโนนีเห็นนักบวชที่ไม่รู้จักคนนั้นถูกรับขึ้นไปเข้าร่วมกับเหล่าทูตสวรรค์,รายล้อมไปด้วยพระสิริรุ่งโรจน์อันเจิดจ้า และอยู่แทบพระบาทของพระเยซู เมื่อคุณพ่อโรมาโนนีตื่นขึ้นมาก็รู้สึกงุนงงกับความหมายของนิมิตความฝันนี้ แต่ในไม่ช้าท่านก็รู้ว่าในเวลาเดียวกันกับที่ท่านฝัน,นักบุญดอมินิกได้สิ้นชีวิตในเมืองโบโลญญา 
ที่มา: Angels and Devils

วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2566

เป็นนักบุญทั้งครอบครัว


นี่คือภาพเหมือนอย่างเป็นทางการของครอบครัวอุลมา(Ulma family)ที่ได้รับการเปิดเผยระหว่างพิธีมิสซาสถาปนาพวกเขาเป็นบุญราศีมรณสักขี โดยเป็นภาพของ Józef และ Wiktoria กับลูกๆท่ามกลางทิวทัศน์ในช่วงฤดูร้อน ภาพวาดนี้วาดขึ้นโดยศิลปิน Oleg Chizhovsky ในภาพจะเห็นบ้านของครอบครัว Ulmas, ทางด้านซ้ายมือเป็นรังผึ้ง, และสวนผลไม้อยู่ทางด้านขวา โดยอ้างอิงจากความสนใจในการทำสวนของพวกเขา 
Blessed Wiktoria Ulma กำลังตั้งครรภ์และอุ้มลูกสาวคนเล็กชื่อ Marysia โจเซฟยืนอยู่ทางด้านขวาของภาพและมีกิ่งปาล์มอยู่ในมือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการรับความทรมานของพวกเขา 
สตาเซีย(Stasia)กำลังถือดอกลิลลี่สีขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความไร้เดียงสา Antoš โชว์ไม้กางเขนที่ทำจากไม้ให้ Basia น้องสาวของเขาดู ลูกชายคนโตสองคน Wladzio และ Frania อยู่ระหว่างพ่อแม่ของพวกเขา 
พระคาร์ดินัลผู้แทนพระสันตปาปาได้ประกอบพิธีมิสซาสถาปนาบุคคลในครอบครัวนี้ทุกคน(รวมทั้งทารกในครรภ์ด้วย)เป็นมรณสักขีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย. 2023 ที่หมู่บ้านMarkowa,ทางตอนใต้ของโปแลนด์ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการสถาปนาครอบครัวเป็นบุญราศี ครอบครัวอุลมาทุกคนได้ให้ความช่วยเหลือชาวยิว 8 คนให้พ้นจากเงื้อมมือของทหารนาซี ในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยซ่อนพวกเขาไว้ แต่ทหารนาซีก็ค้นหาจนพบ ทหารจึงฆ่าคนในครอบครัวอุลมาทั้งหมด