พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2024 ผู้ที่เป็นใหญ่ในสวรรค์

           ยากอบและยอห์น บุตรของเศเบดี เข้ามาทูลพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าทั้งสองปรารถนาให้พระองค์ทรงกระทำตามที่ข้าพเจ้าจะขอนี้” พระองค์ตรัสถามว่า “ท่านปรารถนาให้เราทำสิ่งใด” ทั้งสองทูลตอบว่า “ขอโปรดให้ข้าพเจ้าคนหนึ่งนั่งข้างขวา อีกคนหนึ่งนั่งข้างซ้ายของพระองค์ในพระสิริรุ่งโรจน์เถิด” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านไม่รู้ว่ากำลังขออะไร ท่านดื่มถ้วยซึ่งเราจะดื่มได้ไหม หรือรับการล้างที่เราจะรับได้หรือไม่” ทั้งสองทูลว่า “ได้ พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ถ้วยที่เราจะดื่มนั้น ท่านจะได้ดื่ม และการล้างที่เราจะรับนั้น ท่านก็จะได้รับ แต่การที่จะนั่งข้างขวาหรือข้างซ้ายของเรานั้น ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะให้ แต่สงวนไว้สำหรับผู้ที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้”
           เมื่อได้ยินดังนั้น อัครสาวกอีกสิบคนรู้สึกโกรธยากอบและยอห์น พระเยซูเจ้าจึงทรงเรียกเขาทั้งหมดมาพบ ตรัสว่า “ท่านทั้งหลายย่อมรู้ว่า คนต่างชาติที่คิดว่าตนเป็นหัวหน้าย่อมเป็นเจ้านายเหนือผู้อื่น และผู้เป็นใหญ่ย่อมใช้อำนาจบังคับ แต่ท่านทั้งหลายไม่ควรเป็นเช่นนั้น ผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นใหญ่จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ผู้อื่น และผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นคนที่หนึ่งในหมู่ท่าน ก็จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ทุกคน เพราะบุตรแห่งมนุษย์มิได้มาเพื่อให้ผู้อื่นรับใช้ แต่มาเพื่อรับใช้ผู้อื่น และมอบชีวิตของตนเป็นสินไถ่เพื่อมวลมนุษย์”
(มาระโก 10:35-45)








วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

พระธรรมเก่า - พระธรรมใหม่


เมื่อพระเจ้าลงโทษอาดัมและเอวาที่ไม่เชื่อฟังสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม,พระเจ้าทรงสาปแช่งแผ่นดินว่าแผ่นดินจะผลิตต้นหนามและกอหนาม (ปฐ.3:17-18)  

หลายปีต่อมา,พระเจ้าทรงทดสอบความเชื่อของอับราฮัมและเมื่อทรงทราบว่าอับราฮัมมีความเชื่อในพระองค์ อับราฮัมพบแกะตัวผู้ตัวหนึ่ง ขนของมันติดอยู่ในพุ่มไม้ อับราฮัมจึงจับมันมาฆ่าเผาถวายบูชาแทนบุตรชาย”(ปฐ. 22:13)  

..และผ่านไปเป็นพันปี,พระบุตรสุดที่รักองค์เดียวของพระเจ้า ทรงยอมรับบาปของมนุษย์มาไว้ในตัวของพระองค์เอง ทหารใช้หนามแหลมมาสานเป็นมงกุฎสวมพระเศียรของพระเยซูเจ้า(เหมือนแกะตัวผู้ที่ติดในพุ่มไม้)  

วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

คำแนะนำแก่เยาวชน


คุณพ่อบอสโกได้ให้คำแนะนำแก่เยาวชนในโรงเรียนของท่านดังนี้: 
1. ความสุภาพเรียบร้อย, ลูกที่รัก, หมายถึงการมี กิริยาวาจา, การกระทำ, และการเดินที่เหมาะสม เนื่องจากคุณธรรมเป็นเครื่องประดับที่ดีที่สุดในวัยของลูก คุณธรรมจึงควรเปล่งประกายในทุกสิ่งที่ลูกทำหรือพูด 
2. ร่างกายและเสื้อผ้าของลูกจะต้องสะอาด และใบหน้าของลูกควรสงบและร่าเริงอยู่เสมอ ลูกไม่ควรเอาแต่ก้มหน้าหรือเศร้าสร้อย 
3. พ่อขอแนะนำให้ลูกมีความสุภาพเรียบร้อยเป็นพิเศษ,เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างที่ปีศาจจะนำบาปเข้ามาในใจของลูก จงเดินอย่างสงบ, อย่ารีบร้อน เว้นแต่เมื่อมีความจำเป็น ควรรักษาท่าทางเหล่านี้ไว้ และในเวลากลางคืนควรทำให้เป็นนิสัยที่จะประสานมือไว้บนทรวงอกของลูก 
4. ใช้วาจาสุภาพเรียบร้อย ห้ามใช้ภาษาที่ไม่สุภาพหรือหยาบคาย 
5. อย่าวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของผู้อื่นหรือโอ้อวดเกี่ยวกับคุณสมบัติที่ดีของลูก ยอมรับคำตำหนิหรือคำสรรเสริญในลักษณะเดียวกัน ถ่อมตัวลงต่อพระเจ้าเมื่อถูกตำหนิ 
6. หลีกเลี่ยงการกระทำ, ท่าทาง, หรือคำพูดที่อาจดูหยาบคาย พยายามแก้ไขข้อบกพร่องของลูกในขณะที่ลูกยังเป็นเด็ก และพยายามเป็นคนสุภาพอ่อนโยนและมีอารมณ์สม่ำเสมอตามแบบอย่างความสุภาพเรียบร้อยของคริสตชน 
7. ภายใต้ความสุภาพเรียบร้อย,ยังต้องมาพร้อมกับพฤติกรรมที่โต๊ะอาหารด้วย จำไว้ว่าเราไม่ใช่สัตว์ป่าที่ดุร้าย เราไม่ได้กินอาหารเพียงเพื่อตอบสนองความอยากอาหารของเราเท่านั้น, แต่เพื่อให้ร่างกายของเราแข็งแรงในฐานะเครื่องมือที่เหมาะสมในการรับใช้พระผู้สร้างของเราและได้รับความสุขที่แท้จริงในจิตวิญญาณของเรา 
8.สวดภาวนาก่อนและหลังรับประทานอาหาร 
9. จงระวังอย่ากินอาหารอย่างสิ้นเปลืองหรือใช้สิ่งใดจนเหลืออย่างสิ้นเปลืองแม้แต่น้อย ผู้ที่จงใจทิ้งอาหาร,สมควรได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง และควรเกรงกลัวอย่างยิ่งว่าพระเจ้าจะยอมให้เขาตายด้วยความหิวโหย 

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

สาส์นแม่พระ 25 พ.ค. 2024

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 พ.ค. 2024
ลูกที่รักทั้งหลาย
         ในเวลาแห่งพระหรรษทานนี้,แม่ขอให้ลูกสวดภาวนาด้วยหัวใจ ลูกน้อยทั้งหลาย,จงสร้างกลุ่มภาวนาที่ซึ่งลูกจะส่งเสริมกันและกันเพื่อความดีและเติบโตในความยินดี  
          ลูกน้อยทั้งหลาย,พวกลูกยังคงอยู่ห่างไกล นั่นเป็นสาเหตุที่ต้องมีการกลับใจใหม่ต่อไปและเลือกหนทางแห่งความศักดิ์สิทธิ์และความหวัง เพื่อที่พระเจ้าจะประทานสันติสุขแก่พวกลูกอย่างอุดมบริบูรณ์ 
          ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่           
            

วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

พระเมตตาของพระเยซูเจ้า5


(ไดอารี่ 687): ครั้งหนึ่ง ขณะที่ฉันกำลังออกจากห้องโถงไปที่ห้องครัว ฉันได้ยินคำพูดเหล่านี้ในจิตวิญญาณของฉัน: "จงสวดสายประคำแห่งพระเมตตาที่เราสอนลูกอย่างไม่หยุดหย่อน ใครก็ตามที่สวดภาวนานี้จะได้รับพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ในชั่วโมงแห่งความตาย พระสงฆ์จะแนะนำแก่คนบาปเพื่อเป็นความหวังสุดท้ายแห่งความรอดขแงเขา แม้ว่าเขาจะเป็นคนบาปที่ใจแข็งกระด้างที่สุด หากเขาสวดสายประคำแห่งพระเมตตานี้เพียงครั้งเดียว เขาจะได้รับพระหรรษทานจากพระเมตตาอันไม่มีขอบเขตของเรา เราปรารถนาให้คนทั้งโลกรู้จักพระเมตตาอันไม่มีขอบเขตของเรา เราปรารถนาที่จะมอบพระหรรษทานที่ไม่อาจจินตนาการได้แก่ดวงวิญญาณผู้วางใจในพระเมตตาของเรา" 
 ให้เราภาวนา 
ข้าแต่พระเยซูเจ้า ขอทรงโปรดให้ลูกตระหนักถึงพลังแห่งการสวดสายประคำแห่งพระเมตตานี้มากขึ้นด้วยเถิด เพื่อพระเมตตาอันไม่มีสิ้นสุดของพระองค์จะหลั่งไหลไปสู่คนบาป,ผู้กำลังจะตาย, และคนทั้งโลก ขอพระองค์โปรดดลใจให้ลูกสวดภาวนาโอยไม่หยุดหย่อนด้วยเถิด อาแมน  

วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

มีความสัมพันธ์ที่ดีกับวิญญาณในไฟชำระ


เรื่องนี้เล่าโดยคุณพ่อโดลินโด(Fr.Dolindo พระสงฆ์ชาวอิตาลี) เกี่ยวกับชายคนหนึ่งซึ่งมักสวดภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระเสมอ 
วันหนึ่งนักค้าอัญมณีคนหนึ่งตัดสินใจนำเพชรที่มีราคาแพงที่สุดของเขากลับไปบ้านด้วย ขณะที่เดินกลับบ้าน,เขาสวดสายประคำเพื่อวิญญาณในไฟชำระ เมื่อเดินไปถึงตรอกที่นำไปสู่บ้านของเขา,เขาเห็นขโมยหลายคนกำลังหลบซ่อนรออยู่ เขารีบสวดภาวนาเพื่อขอให้วิญญาณในไฟชำระปกป้องเขา มีโบสถ์เล็กๆอยู่ในตรอกนี้ ทันใดนั้นประตูโบสถ์ก็เปิดออก และมีขบวนแห่ของประชาชนที่สวมเสื้อคลุมสีขาวที่มีผ้าคลุมศีรษะ พวกเขากำลังร้องเพลงราวกับว่ากำลังร่วมในพิธีปลงศพ ผ้าคลุมศีรษะนั้นปกคลุมใบหน้าพวกเขาด้วยเหลือแต่เพียงช่องดวงตาและปากเท่านั้น นักอัญมณีจึงตัดสินใจไปเข้าร่วมในขบวนแห่นั้นด้วย ในที่สุดเขาก็สามารถกลับไปถึงบ้านได้ เขาเล่าให้ภรรยาฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ภรรยารู้สึกงุนงงเพราะเธอคอยเฝ้าดูเหตุการณ์ทุกอย่างทางหน้าต่างและมองเห็นแต่เพียงสามีของเธอเท่านั้น พวกเขาจึงตระหนักว่าขบวนแห่นั้นเป็นขบวนแห่ของบรรดาวิญญาณในไฟชำระ