พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2025 ฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง

           ขณะนั้น ประชาชนกำลังรอคอย ทุกคนต่างคิดในใจว่า ยอห์นเป็นพระคริสต์หรือ ยอห์นจึงประกาศต่อหน้าทุกคนว่า “ข้าพเจ้าใช้น้ำทำพิธีล้างให้ท่านทั้งหลาย แต่ผู้ที่ทรงอำนาจยิ่งกว่าข้าพเจ้าจะมา และข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะแก้สายรัดรองเท้าของเขา เขาจะทำพิธีล้างให้ท่านเดชะพระจิตเจ้าและด้วยไฟ
           ลก 3:21-22 พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง
           ขณะนั้นประชาชนทั้งหมดกำลังรับพิธีล้าง พระเยซูเจ้าก็ทรงรับพิธีล้างด้วย และขณะที่ทรงอธิษฐานภาวนาอยู่นั้น ท้องฟ้าก็เปิดออก และพระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์ มีรูปร่างที่เห็นได้ดุจนกพิราบ แล้วมีเสียงจากสวรรค์ว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา”
(ลูกา 3:15-16; 21-22)








วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2567

สาส์นแม่พระ 25 ต.ค. 2024

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 ต.ค. 2024
ลูกที่รักทั้งหลาย
         ในช่วงเวลานี้ที่ลูกเฉลิมฉลองวันนักบุญทั้งหลาย,จงแสวงหาความช่วยเหลือจากท่านนักบุญและสวดภาวนา เพื่อที่ในความเป็นหนึ่งเดียวกับบรรดานักบุญ,ลูกจะได้พบสันติภาพ ขอให้บรรดานักบุญทั้งหลายเป็นแบบอย่างและเป็นผู้เข้ามาแทรกแซงช่วยเหลือลูก เพื่อให้ลูกเลียนแบบท่านและดำเนินชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์ แม่จะอยู่กับลูกและช่วยวิงวอนเบื้องพระพักตร์พระเจ้าเพื่อลูกแต่ละคน 
          ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่           

วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2567

โรคภัยไข้เจ็บและความทุกข์ทรมาน


ความทุกข์ทรมานเป็นส่วนหนึ่งของการไถ่กู้ของพระคริสต์สำหรับโลกที่ตกต่ำ
>>>อ่านต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2567

การจัดงานที่ฝรั่งเศส


ฝรั่งเศสได้กลายเป็นที่พักและสำนักงานถาวรของซาตานและพรรคพวกของมันแล้ว?
>>>อ่านต่อ

วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2567

คนโง่


มี 5 ครั้งที่พระเยซูทรงเรียกบางคนว่าเป็นคนโง่เขลา (เปิดพระคัมภีร์ดูตาม)

 ในมัทธิว 23:17 พระเยซูตรัสสองครั้งว่า “คนโง่” คือคนที่มุ่งแต่ในเรื่องเงินทอง แทนที่จะมุ่งในพระเจ้า พระองค์เรียกพวกเขาว่า “คนโง่เขลาและตาบอดเอ๋ย” และคำในภาษากรีกสำหรับคำว่า โง่เขลา นั้นคือ MORON

พระเยซูตรัสคำนี้เป็นครั้งที่สาม พบในลูกา 11:40 “คนโง่เอ๋ย” พระองค์ตรัสเกี่ยวกับฟาริสี ที่ดูแต่ภายนอก ไม่ดูภายในจิตใจ 

 พระเยซูตรัสครั้งที่สี่ พบในลูกา 12:20 พระองค์ตรัสเกี่ยวกับคนที่มุ่งแต่ชีวิตทางโลกในปัจจุบัน แทนที่จะเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับชีวิตนิรันดร์ คนที่คิดว่าเขามีทุกสิ่งแล้วและจะใช้ชีวิตที่เหลือในความสะดวกสบาย พระองค์เรียกเขาว่า “คนโง่เอ๋ย”

 และพระเยซูตรัสครั้งที่ห้าและเป็นครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับคนโง่ พระองค์ตรัสหลังจากทรงกลับฟื้นคืนพระชนม์แล้ว และพระองค์เดินไปพร้อมกับศิษย์สองคนเพื่อไปยังเอมมาอุส ศิษย์ทั้งสองไม่เชื่อว่าพระองค์ทรงกลับคืนชีพแล้ว พวกเขายังจำพระองค์ไม่ได้ (ลูกา 24:25) พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “เจ้าคนเขลาเอ๋ย ใจของเจ้าช่างเชื่องช้าที่จะเชื่อข้อความที่บรรดาประกาศกกล่าวไว้ พระคริสตเจ้าจำเป็นต้องทนทรมานเช่นนี้เพื่อจะเข้าไปรับพระสิริรุ่งโรจน์จองพระองค์มิใช่หรือ”

 พระเยซูเรียกคนประเภทที่กล่าวมาแล้วนี้ว่า “คนโง่”

วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2567

รูปภาพพระเยซูโดย AI


การวิเคราะห์ด้วยรังสีเอกซ์แบบใหม่พิสูจน์ได้ว่าผ้าห่อพระศพแห่งตูรินนั้นมีขึ้นในสมัยของพระเยซูคริสต์ ซึ่งทำให้AIสามารถสร้างภาพอันน่าทึ่งของสิ่งที่หลายคนเชื่อว่าอาจเป็นภาพของพระเยซูเอง

 ชาวคริสต์เชื่อกันมานานแล้วว่าพระธาตุอันล้ำค่านี้คือผ้าห่อพระศพของพระเยซูซึ่งมีรอยประทับของพระพักตร์ของพระเมสสิยาห์เอง แม้ว่าเคยมีการวิเคราะห์อายุด้วยคาร์บอน 14 ในช่วงปี 1980 จะมีผลลัพท์ว่าเป็นภาพวาดจากช่วงศตวรรษที่ 1300 แต่ปรากฏว่าการวิเคราะห์ครั้งนั้นใช้เศษผ้าที่มีการซ่อมแซมไปใช้วิเคราะห์จึงไม่น่าเชื่อถือในผลลัพท์นั้น การประเมินอายุด้วยรังสีเอกซ์แบบใหม่บ่งชี้ว่าผ้าห่อพระศพนั้นมีอายุ 2,000 ปี ซึ่งถือว่าเป็นช่วงสมัยของพระเยซูคริสต์ ตามการศึกษาวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Heritage

วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2567

กุศลจิตและความเมตตา



กุศลจิตคืออะไร?

“เขาถามพระเยซูว่า ‘ใครเป็นเพื่อนบ้านของข้าพเจ้า’ – ‘คือผู้ที่แสดงความเมตตาต่อเขา’” (ลูกา 10:29,37)  

ความรักประเภทใดที่กิจการแห่งกุศลจิตสะท้อนให้เห็น กุศลจิตคือการแบ่งปันและมีส่วนร่วมในความรักของพระเจ้า เพื่อรักผู้อื่นในแบบที่พระเจ้าทรงรัก พระเยซูทรงบัญชาให้เรารักกันอย่างที่พระองค์ทรงรักเรา (ยอห์น 13:34) – และความรักนี้เป็นความรักที่ไม่เห็นแก่ตัวและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น ในฐานะคริสตชนซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับพระเมตตาจากพระเจ้า การกระทำกุศลจิตของเราเป็นการแสดงให้เห็นถึงวิธีที่เราแสดงความเมตตาต่อพี่น้องของเราด้วยความรักที่มีต่อพวกเขา  

งานของกุศลจิตมีสองประเภท: งานกุศลฝ่ายวิญญาณและงานกุศลฝ่ายร่างกาย งานกุศลฝ่ายวิญญาณคือการแสดงความเห็นอกเห็นใจให้ความช่วยเหลือเพื่อนบ้านของเราในด้านความต้องการทางอารมณ์และจิตวิญญาณ ซึ่งรวมถึงการให้อภัย การปลอบโยน การค้ำจุนจิตใจ และการอดทนต่อความผิด งานกุศลฝ่ายร่างกายเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือเพื่อนบ้านของเราในด้านวัตถุและความต้องการทางกาย การให้ทานแก่คนยากจนถือเป็นสิ่งสำคัญประการหนึ่งที่แสดงถึงกุศลจิต (CCC2447) และการให้ทานอย่างไม่เห็นแก่ตัวช่วยให้เราสามารถเป็นผู้ดูแลพระพรและทรัพยากรที่พระเจ้าประทานให้แก่เราได้  

ไม่มีงานกุศลใดที่เล็กเกินไป และวิธีเดียวที่จะเติบโตในคุณธรรมนี้คือการเลือกที่จะทำตั้งแต่วันนี้! เราสามารถแสดงงานกุศลฝ่ายจิตและฝ่ายกายต่อองค์กรการกุศลหรือกลุ่มเปราะบางในสังคม หรือชุมชนในอาณาบริเวณของเราเอง หรือแม้แต่กับเพื่อนและครอบครัวที่ใกล้ชิดที่สุดของเรา ใครคือเพื่อนบ้านของเรา และคุณอยากแสดงถึงกุศลจิตต่อพวกเขาอย่างไรในวันนี้  

วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2567