พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสัปดาห์ที่ 4

           หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”
(ลูกา 1:39-45)








วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

มาเป็นนักบุญกันเถอะ


ให้เราดำเนินชีวิตตามคำสอนแห่งมหาบุญลาภและกลายเป็นนักบุญกันเถอะ
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

อัศจรรย์น้ำตาลของนักบุญมาร์ติน


นักบุญมาร์ติน เดอ ปอร์เรส( St. Martin de Porres) เป็นผู้ทำอัศจรรย์ที่มีชื่อเสียงผู้หนึ่ง เขาได้รับพระพรในการทำนาย การลอยตัว การล่องหน การอยู่สองสถานที่ในเวลาเดียวกัน การทวีจำนวนอาหาร เขาทำให้สุนัขที่ตายแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้งและสามารถพูดคุยกับหนูได้ อัศจรรย์ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งที่เขาทำเกิดขึ้นเมื่อนักพรตโดมินิกันผู้หนึ่งขอให้เขานำน้ำตาลหนึ่งกระสอบมา มาร์ตินนำน้ำตาลดิบมากระสอบหนึ่ง นักพรตผู้นั้นแสดงความคิดเห็นเหยียดเชื้อชาติด้วยความโกรธเกี่ยวกับสีของน้ำตาลและสีผิวของมาร์ติน มาร์ตินเต็มไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน เขาเพียงแต่ยิ้ม แล้วหยิบน้ำตาลทรายแดงกองหนึ่งแล้วจุ่มลงในถังน้ำ เมื่อเขายกมือขึ้นจากน้ำ นักพรตก็ประหลาดใจเมื่อเห็นว่าน้ำตาลกองนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาว และที่สำคัญที่สุดคือมันแห้ง

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ธรรมชาติมหัศจรรย์


🐟ปลาดุกเป็นปลาที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศที่แห้งแล้วได้อย่างเหลือเชื่อ

🐟เมื่อไม่นานมานี้ที่ซาอุดิอาระเบย พลเมืองซาอุฯ จับปลาดุกได้ในหนองน้ำที่แห้ง ไม่มีน้ำในตอนเหนือของประเทศ

🐟คลิปได้แพร่กระจายไปทั่วโลก และมีการโต้เถียง แสดงความเห็นจำนวนมาก ว่าเป็นไปได้หรือไม่

🐟จากข้อมูลผู้เชี่ยวชาญของซาอุฯ ให้ข้อมูลว่า เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ปลาตัวดังกล่าวคือปลาดุก มีอยู่จริงในซาอุดีอาระเบีย แต่ส่วนใหญ่อยู่ในฟาร์มเลี้ยง เป็นปลานำเข้ามาเลี้ยงในฟาร์ม แต่มีบ้างในแหล่งน้ำธรรมชาติ  

🐟ปลาชนิดนี้มีความทนทานต่อสภาพอากาศ และปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศได้ดี ในลักษณะนี้คือปลาอาศัยในหนองน้ำที่ไม่มีน้ำได้ ปลาดุกจะสร้างเมือกในสภาพไร้น้ำในธรรมชาติ และมีปอดเทียม มันสามารถดำรงชีพอยู่ได้ถึง 8 เดือนหากไม่มีสิ่งรบกวน เมื่อฤดูฝนมามันจะออกมาจากดินทราย กินอาหารใช้ชีวิต ขยายพันธ์ตามปกติ

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

นักบุญฟรานเซสแห่งโรมกับปีศาจ




วันหนึ่ง เมื่อนักบุญฟรานเซสแห่งโรมกำลังจะไปรับศีลมหาสนิท ปีศาจได้พูดกับเธอว่า “เจ้าผู้เต็มไปด้วยบาปเบามากมายเช่นนี้ จะกล้ารับลูกแกะนิรมลได้อย่างไร!” เธอรับรู้ทันทีว่าศัตรูตั้งใจจะพรากความยินดีอันยิ่งใหญ่ของเธอไป เธอจึงทำให้ศัตรูเงียบลงโดยการถ่มน้ำลายใส่หน้าของมัน หลังจากนั้น พระแม่มารีย์ทรงปรากฏแก่เธอ และเมื่อทรงชมเชยสิ่งที่เธอทำแล้ว พระนางจึงกล่าวว่าข้อบกพร่องของเราไม่ควรเป็นอุปสรรค แต่ควรเป็นแรงกระตุ้นให้เรารับศีลมหาสนิท เนื่องจากในศีลมหาสนิท เราจะพบวิธีแก้ไขเยียวยาความบกพร่องและความทุกข์ยากทั้งหมดของเรา

โอ ศีลบูชามหาสนิท โอ ศีลศักดิ์สิทธิ์สูงสูด

ชาวเราร่วมกันสรรเสริญพระองค์

เทิดทูนพระเกียรตินิรันดร์

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

นักบุญมาร์ติน เดอ พอเรส กับปีศาจ




ปีศาจมักจะยืนอยู่ใกล้นักบุญมาร์ติน เดอ พอเรส โดยหวังจะโจมตี ในเวลากลางคืน มาร์ตินผู้ศักดิ์สิทธิ์จะไปเยี่ยมห้องพยาบาล เขาใช้บันไดเก่าที่ชำรุดซึ่งเป็นเส้นทางที่เร็วที่สุดระหว่างห้องของเขาและห้องพยาบาล คืนหนึ่ง เขาเดินไปที่บันไดเก่าๆ ในอ้อมแขนที่เต็มไปด้วยเข้าของที่จำเป็นสำหรับการพยาบาลคนไข้ ร่างมหึมาที่มีดวงตาเป็นประกายขวางทางไว้ มาร์ตินรู้ว่าเป็นใคร “เจ้ามาทำอะไรที่นี่ เจ้าผู้ถูกสาปแช่ง” เขาถาม ปีศาจตอบว่า “กูมาที่นี่เพราะพอใจที่จะอยู่ที่นี่ และเพราะว่ากูหวังจะได้รับประโยชน์จากการอยู่ที่นี่” “เจ้าจงไปยังขุมนรกอันต้องสาปที่เจ้าอาศัยอยู่!” มาร์ตินผู้ศักดิ์สิทธิ์ร้องออกมา ปีศาจไม่ยอมขยับ ดังนั้นมาร์ตินจึงถอดเข็มขัดของเขาออกและเริ่มฟาดปีศาจ จากนั้นเจ้ามารร้ายก็หายไป เพราะรู้ว่ามันจะไม่ได้อะไรเลยหากอยู่ต่อแต่จะถูกตีซ้ำๆ...

”พระองค์ยังทรงปลดอำนาจของเทพนิกรนายผู้ทรงเดชานุภาพ และเทพนิกรอำนาจลง และทรงบังคับให้เทพเหล่านั้นเข้าขบวนแห่เฉลิมฉลองชัยชนะของพระคริสตเจ้า ต่อหน้ามหาชน” (จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโคโลสี บทที่ 2:15)