Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2025 อุปมาผู้จัดการที่ไม่ซื่อสัตย์
พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์อีกว่า ‘เศรษฐีผู้หนึ่งมีผู้จัดการดูแลผลประโยชน์คนหนึ่ง มีผู้มาฟ้องว่าผู้จัดการคนนี้ผลาญทรัพย์สินของนาย เศรษฐีจึงเรียกผู้จัดการมาถามว่า “เรื่องที่เราได้ยินเกี่ยวกับเจ้าเป็นอย่างไร จงทำบัญชีรายงานการจัดการของเจ้า เพราะเจ้าจะไม่ได้เป็นผู้จัดการอีกต่อไป” ผู้จัดการจึงคิดว่า ”ฉันจะทำอย่างไร นายจะไล่ฉันออกจากหน้าที่ผู้จัดการแล้ว จะไปขุดดินก็ทำไม่ไหว จะไปขอทานก็อายเขา ฉันรู้แล้วว่าจะทำอย่างไรเพื่อว่าเมื่อฉันถูกไล่ออกจากหน้าที่ผู้จัดการแล้ว จะมีคนรับฉันไว้ในบ้านของเขา”
(ลูกา 16:1-13)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2025 อุปมาผู้จัดการที่ไม่ซื่อสัตย์
พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์อีกว่า ‘เศรษฐีผู้หนึ่งมีผู้จัดการดูแลผลประโยชน์คนหนึ่ง มีผู้มาฟ้องว่าผู้จัดการคนนี้ผลาญทรัพย์สินของนาย เศรษฐีจึงเรียกผู้จัดการมาถามว่า “เรื่องที่เราได้ยินเกี่ยวกับเจ้าเป็นอย่างไร จงทำบัญชีรายงานการจัดการของเจ้า เพราะเจ้าจะไม่ได้เป็นผู้จัดการอีกต่อไป” ผู้จัดการจึงคิดว่า ”ฉันจะทำอย่างไร นายจะไล่ฉันออกจากหน้าที่ผู้จัดการแล้ว จะไปขุดดินก็ทำไม่ไหว จะไปขอทานก็อายเขา ฉันรู้แล้วว่าจะทำอย่างไรเพื่อว่าเมื่อฉันถูกไล่ออกจากหน้าที่ผู้จัดการแล้ว จะมีคนรับฉันไว้ในบ้านของเขา”
(ลูกา 16:1-13)
วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
พระเจ้าทรงมีเหตุผล
พระเจ้าทรงมีเหตุผลที่ปล่อยให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณในวันนี้ล้วนมีจุดประสงค์
บางครั้งอาจเป็นเรื่องยากมากที่จะเข้าใจ
โดยเฉพาะเมื่อสิ่งนั้นไม่เป็นไปตามที่คุณวางแผนหรือคาดหวัง
คุณอาจไม่มีวันเข้าใจพระปรีชาญาณของพระเจ้า แต่คุณต้องเชื่อในพระประสงค์ของพระองค์
จงตระหนักว่าหากประตูปิดลง นั่นก็เพราะว่าสิ่งที่อยู่ข้างหลังนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับคุณ
บางครั้งสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปตามที่คุณวางแผนไว้เพื่อให้คุณเรียนรู้ที่จะวางใจพระเจ้า
เชื่อและวางใจพระเจ้าในทุกสิ่ง แม้ว่าบางสิ่งจะไม่สมเหตุสมผลก็ตาม
สักวันหนึ่งทุกอย่างจะสมเหตุสมผล
ดังนั้น ตอนนี้ จงหัวเราะท่ามกลางพายุ ยิ้มท่ามกลางน้ำตา
และเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมีเหตุผล
วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
จงเฝ้ารอและดู
“เราคือพระยาห์เวห์ เราจะทำเช่นนี้ทันที เมื่อถึงเวลา”อิสยาห์ 60:22
ในอิสยาห์ 60:22 พระเจ้าทรงตรัสกับชาวอิสราเอลโดยรับรองกับพวกเขาว่าถึงแม้พวกเขาจะเป็นชนชาติเล็กๆ และต่ำต้อย พวกเขาก็จะกลายเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่และเข้มแข็ง ข้อความในพระคัมภีร์นี้เน้นถึงพลังอำนาจของพระเจ้าในการบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่และความซื่อสัตย์ของพระองค์ต่อสัญญาของพระองค์
สำหรับชาวคาทอลิก ข้อความนี้สะท้อนถึงความเชื่อของพวกเราในแผนการอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าและอำนาจของพระองค์เหนือทุกสิ่ง ข้อความนี้กระตุ้นให้พวกเราวางใจในวันเวลาของพระเจ้า แม้ว่าพวกเราจะไม่เข้าใจความล่าช้าหรือความท้าทายที่พวกเราอาจเผชิญ ข้อพระคัมภีร์นี้เป็นการเตือนใจว่าเวลาของพระเจ้าสมบูรณ์แบบเสมอ และพระองค์จะทำให้จุดประสงค์ของพระองค์เกิดขึ้นตามวิธีและเวลาของพระองค์เอง
วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แม่พระแห่งภูเขาคาร์เมล
วันที่ 16 กรกฎาคมฉลองแม่พระแห่งภูเขาคาร์เมล
แม่พระแห่งภูเขาคาร์เมล(Our Lady of Mount Carmel) เป็นชื่อที่ถวายแด่พระแม่มารีย์ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับคณะคาร์เมลไลท์ โดยเริ่มต้นที่คณะคาร์เมลไลท์ในปาเลสไตน์
เรื่องราวเริ่มต้นด้วยประกาศกเอลียาห์ ผู้ซึ่งความมุ่งมั่นในการสวดภาวนาของท่านเป็นแรงบันดาลใจให้มีนักพรตบางคนมาตั้งรกรากบนภูเขานี้
เมื่อเวลาผ่านไป นักพรตเหล่านี้ได้สร้างโบสถ์น้อยถวายแด่พระแม่มารีย์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความศรัทธาที่มีต่อพระแม่มารีย์ภายใต้พระนามแม่พระแห่งภูเขาคาร์เมล
คณะคาร์เมลไลท์เกิดขึ้นจากเหตุนี้และแพร่กระจายไปทั่วทวีปยุโรปท่ามกลางความท้าทายและได้เจริญเติบโตขึ้น
เหตุการณ์สำคัญ เช่น การประจักษ์ของพระแม่มารีย์แก่นักบุญซีมอน สต็อกและการที่แม่พระประทานสายจำพวกสีน้ำตาลแก่ท่านนักบุญ เป็นปัจจัยที่หล่อหลอมความศรัทธานี้
ความศรัทธานี้สัญญาว่าจะให้ประโยชน์ทางจิตวิญญาณ รวมถึงการปกป้องไม่ให้ถูกสาปแช่งชั่วนิรันดร์สำหรับผู้ที่สวมสายจำพวกสีน้ำตาลย่างสม่ำเสมอ
วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
พึ่งพิงพระเจ้า
พระเจ้าทรงอนุญาตให้เราตกอยู่ในการประจญทดลอง เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้ที่จะพึ่งพิงพระองค์ในขณะที่ต้องอดทนรับความยากลำบาก
ทันทีที่กิเลสตัณหาเข้ามาโจมตีเรา ให้เรากล่าวทันทีว่า “พระเจ้าข้า โปรดช่วยข้าพเจ้าด้วย อย่าปล่อยให้ข้าพเจ้าทำผิดต่อพระองค์”
- นักบุญเจอโรม
วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
ความรักและความอบอุ่น
พระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ทรงเล่าให้ที่ประชุมเข้าเฝ้าฟังว่า ตอนที่เป็นอัครสังฆราชแห่งมิลานท่านออกเยี่ยมสัตบุรุษ พบหญิงชราคนหนึ่งที่อยู่ตามลำพัง พระองค์ถามว่า "เป็นอย่างไรบ้าง" เธอตอบว่า "ไม่เลวค่ะ ดิฉันมีอาหารเพียงพอและก็ไม่เจ็บป่วยอะไร" "ถ้าอย่างนั้นคุณป้าก็มีความสุขดีใช่มั้ย" หญิงชรานั้นร้องไห้ทันที "ดิฉันไม่มีความสุขเลยต่างหาก ลูกชายและลูกสะไภ้ไม่เคยแวะมาหาฉันเลย ดิฉันกำลังจะตายเพราะความว้าเหว่ ไม่เคยมีใครมาถามฉันเลยว่ามีความสุขดีมั้ย"
พระสันตะปาปาทรงสรุปว่า "เพียงแค่มีอาหาร มีเสื้อผ้าที่อบอุ่นนั้นไม่เพียงพอเลยสำหรับมนุษย์ ผู้คนต้องการบางสิ่งมากกว่านั้น พวกเขาต้องการการพบหน้ากัน ต้องการเวลา ต้องการความรักจากเรา พวกเขาต้องการสัมผัสของเรา ต้องการกอดและถูกกอดเพื่อแน่ใจว่าพวกเขาไม่ถูกลืม ปีใหม่นี้อย่าลืมมอบความรักของเรา กลับไปกอดคนที่เรารักนะครับ มีบางคนรอเราอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้ใครเลยต้องว้าเหว่เพราะเรานะครับ
- คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธ์
วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)