พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ด้วยสายตาแห่งความเชื่อ

  สายตาแห่งความเชื่อคืออะไร?
สายตาแห่งความเชื่อ คือสายตาที่เราใช้มองดูสิ่งที่ไม่ใช่ของโลกนี้แต่อยู่เหนือกว่า  เป็นสายตาที่มองไปในอนาคต  เป็นสายตาที่สามารถแยกแยะสิ่งถูกและผิดและสามารถทำให้เห็นหนทางที่จะมุ่งไปสู่สิ่งที่ดี
เรื่องราวต่างๆในพระคัมภีร์ทั้งหมดบอกว่า  พระเป็นเจ้าทรงยกย่องผู้มีความเชื่อ  ความเชื่อหมายถึงความมั่นใจในพระเป็นเจ้า   ยอมให้พระองค์ทรงกระทำทุกสิ่งต่อเราและนำทางเราไปในทุกแห่งทุกสถานการณ์ตามพระประสงค์ของพระองค์  ด้วยความเชื่อมั่นว่าสิ่งนั้นเป็นน้ำพระทัยของพระองค์  และเป็นแผนการของพระองค์ที่ทรงมีต่อชีวิตของเรา
ถ้ามีบางคนพูดถึงบางเรื่องเกี่ยวกับคุณในทางที่ไม่ดี?
จงสลัดมันทิ้งไปเสียจากชีวิตของคุณเหมือนสลัดฝุ่นดินออกจากรองเท้าของเรา  จงเรียนรู้ในเรื่องนี้เป็นอันดับแรก – คือสลัดละทิ้งสิ่งที่คนอื่นพูดหรือคิดถึงเราในทางที่ไม่ดี  มีบางเวลาที่เราทำสิ่งที่ถูกต้อง  แต่บ่อยครั้งปีศาจจะล่อลวงให้เราทำสิ่งที่ไม่ดีไม่ถูกต้อง  ทำให้เราตาบอดและเกิดความกลัว  เพื่อทำให้เราหมดกำลังใจ
ทันทีที่มันปรากฏต่อเรา  เราต้องรีบปฏิเสธมัน   เราต้องขุดรากของมันออกจากใจของเราทันที
ถ้าเราทำเช่นนี้บ่อยๆ  เราจะเรียนรู้วิธีในการกำจัดปีศาจได้ง่ายขึ้น
ขั้นต่อไป  เราต้องมองตัวเองในแสงสว่าง  อย่างที่พระเป็นเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็นเรา  พระองค์ทรงรักเรายิ่งกว่าเรารักตัวเราเองเสียอีก  จงมองดูตัวเองตามความเป็นจริง – นี่เป็นพลังที่จะทำให้คุณกลายเป็นผู้รับใช้ที่ดีของพระเป็นเจ้าในนิรันดรภาพ  พระเป็นเจ้าทรงทราบดีว่า  ภายใต้เนื้อหนังแห่งร่างกายนี้  และส่วนลึกของชีวิตที่เต็มไปด้วยการดิ้นรนนี้  เป็นความสวยงามที่ซ่อนอยู่ภายในซึ่งพร้อมจะเปิดเผยออกมา  เหมือนดังเช่นดักแด้ที่อยู่ในรังเส้นใย  ซึ่งเมื่อถึงเวลาก็จะออกมาจากรังเส้นใยกลายเป็นผิเสื้อที่สวยงามบินโผผินไปในอากาศ
เราจะสวยงามเช่นนี้ได้อย่างไรหรือ?  เราต้องกลับไปที่เรื่องสายตาแห่งความเชื่อ  ด้วยสายตานี้เรามองข้ามความวุ่นวายของปัจจุบัน – มองข้ามปัญหาทุกอย่าง – และหันไปมองดูสิ่งดีๆที่มีอยู่  สิ่งที่เราต้องการให้เกิด  บุคคลที่เราต้องการเป็นเหมือนเขา
และถ้าสิ่งนั้นเป็นน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า  สิ่งนั้นคือเส้นทางที่เราต้องเดินตาม  เมื่อเรายกสายตาของเราขึ้นมองข้ามบุคคลที่ทำร้ายเรา  มองข้ามการทดลองต่างๆของโลกไม่ว่ามันจะร้ายกาจสักเพียงใด  นั่นเป็นเส้นทางเดินแห่งความรุ่งเรืองของเรา
บนกางเขน  พระเยซูคริสต์ทรงทอดพระเนตรขึ้นเบื้องบน  สวรรค์อยู่ในจิตใจของพระองค์แม้ว่าพระองค์ทรงถูกตรึงอยู่บนกางเขน  และพระองค์ทรงมอบสวรรค์ให้แก่โจรที่ถูกตรึงพร้อมกับพระองค์
ในทางตรงข้าม  ปีศาจต้องการให้เราสูญเสียความหวัง  ต้องการให้เราหมดกำลังใจ  ต้องการให้เราคิดว่าเราตกต่ำจนไม่สามารถขึ้นมาจากหลุมแห่งความตกต่ำนั้นได้  มันพยายามขัดขวางเราไม่ให้สวดภาวนา  แต่มันจะทำไม่สำเร็จถ้าเราจะสลัดมันทิ้งไปเสียด้วยการเอ่ยพระนามของพระเยซูเจ้า
เพราะฉะนั้นในครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกท้อแท้ใจ  จงสลัดละความรู้สึกนั้น  เริ่มต้นสวดภาวนา  ในการภาวนานี้ให้คุณมองตนเองและสภาพของคุณในแสงสว่าง  มองดูปัญหาต่างๆของคุณที่ค่อยๆละลายหายไป  มองดูพระคริสตเจ้าผู้ทรงกำลังพยุงคุณให้ลุกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ปีศาจจะมีอำนาจก็ต่อเมื่อคุณยอมมัน  พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ปกครองเหนือทุกสิ่งและทุกสถานการณ์  พระองค์ทรงเป็นความยินดีและสันติสุข  ผู้ทรงกำลังรอคอยคุณและรักคุณมากเกินกว่าที่คุณคิด  แต่พระองค์ทรงรอให้คุณยกสายตาแห่งความเชื่อของคุณขึ้น  มองดูดินแดนแห่งความชื่นชมยินดีและเข้ามาสู่ดินแดนนี้

วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เพลง Koinonia



เพลง Koinonia เป็นเพลงที่ใช้ต้อนรับพระสันตะปาปาอย่างเป็นทางการ ในการเสด็จเป็นประธานของพระองค์ในงานวันเยาวชนเอเชีย ตั้งแต่วันที่ 14-18 กรกฎาคม
Koinonia เป็นภาษากรีกแปลว่า มิตรภาพ เป็นเพลงที่บอกถึงความรักของพระเป็นเจ้าต่อมนุษย์ ดารานักร้องวัยรุ่น 36 คนเป็นผู้ร้องเพลงอันเป็นที่รู้จักกันดีนี้ในเกาหลีใต้

วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระรูปแม่พระในอิรัก




พระสันตะปาปาทรงเศร้าพระทัยในเหตุการณ์ในอิรักและซีเรีย  ทรงเรียกร้องให้ยุติสงคราม
“ยุคนี้มีมรณสักขีมากกว่าในศตวรรษแรกเสียอีก”


ชายชาว ยีซีดิส 500 คนและเด็กๆถูกฆ่าโดยพวก ISIS  และพวกนี้ยังอ้างว่าตามกฎบัญญัติของอิสลามและคำสอนของมูฮัมหมัด  ผู้หญิงจะถูกส่งไปให้ทหารมุสลิมข่มขืน  ชาวยีซีดิสเป็นชนกลุ่มน้อยในอิรัก  ปฏิบัติตามศาสนาดั้งเดิมในแถบนั้น  เวลานี้กำลังถูกกำจัดออกไปโดยพวก ISIS
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2014 สมาชิกสภาผู้เป็นตัวแทนของชาวยิซีดิส ได้ร้องไห้และขอร้องประชาคมโลกให้ช่วยเหลือชาวยิซีดิสของพวกเขา  นาง Fiyan Dakheel ซึ่งเป็นผู้แทนของชาวยีซีดิสได้ร้องไห้อย่างขมขื่นเรียกร้องมนุษยธรรมเพื่อช่วยเหลือชาวยีซีดิสให้พ้นจากการถูกฆ่าล้างเผ่าพันธ์โดยพวก ISIS
คนที่ถูกพวก ISIS ฆ่าไม่ใช่มีแต่คริสตชนเท่านั้น  แต่ยังมี ผู้นับถืออิสลามนิกาย สุหนี่  ชิอะห์ และชนกลุ่มน้อย ซึ่งนับรวมแล้วเป็นจำนวนนับพันคนที่ถูกฆ่าไปแล้ว  จุดประสงค์ของพวก ISIS คือการนำกฎบัญญํติ เชอเรีย ของอิสลามมาปกครองประเทศและทำให้ประเทศเป็นรัฐอิสลามเหมือนสมัยกาลิปแห่งเปอร์เซีย

วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ผู้ก่อการร้ายในมาเลเซียและอินโดนีเซีย

           ความคิดที่จะสร้างอาณาจักรสมัยกาลิปแห่งเปอร์เซียขึ้นมาใหม่ได้แพร่กระจายไปในทวีปเอเชีย  ทำให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดความวุ่นวายในอินโดนีเซียและมาเลเซีย
ในกัวลาลัมเปอร์และจาการ์ตา  ได้มีคำเตือนว่าพวกสมุนของกลุ่มก่อตั้งรัฐอิสลามเตรียมพร้อมแล้วที่จะโจมตีสถานที่ต่างในประเทศ  บริเวณที่เป็นเป้าหมายคือ สถานที่ราชการ,ที่สาธารณะและสถานที่ซึ่งเป็นจุดอ่อนไหว  เป้าหมายคือการลบล้างสถาบันทางด้านทุนนิยมและแหล่งโลกียสถานเพื่อที่จะนำกฎหมายอิสลาม (ชาเรีย) มาใช้ปกครองประเทศ  มีชาวมาเลเซียอย่างน้อย 20 คนอยู่ในซีเรียที่กำลังทำสงครามจีฮัด  และมีคนจากฟิลิปปินส์ร่วมด้วยเป็นครั้งแรก
ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อต้านผู้ก่อการร้ายจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย รายงานว่ามีชาวมาเลเซียและอินโดนีเซียหลายคนได้เข้าร่วมกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายอิสลาม Islamic State terror group (formerly known as ISIS)  ที่กำลังปฏิบัติการอยู่ในอิรักและซีเรีย  และดูเหมือนว่าพวกนี้มีแผนการจะโจมตีและก่อความวุ่นวายในประเทศบ้านเกิดของตนเองด้วย
ความสำเร็จในการยึดเมืองหลายเมืองในอิรัก ทำให้พวกนี้มีความฮึกเหิม  และกระทำการอย่างโหดร้ายต่อชนกลุ่มน้อย  เหตุการณ์นี้กำลังแพร่กระจายไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเช่นกัน
กลุ่มเคลื่อนไหวและผู้นำมุสลิมได้รับแรงบันดาลใจจากการกระทำของพวกนักรบนิกายสุหนี่  จึงตั้งใจจะสนับสนุนให้จัดตั้งรัฐกาลิปอิสลาม
หน่วยงานต่อต้านการก่อการร้ายในกัวลาลัมเปอร์และจาการ์ตาได้เตือนว่า  สมุนของกลุ่มก่อตั้งรัฐอิสลามต้องการล้มล้างรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฏหมาย  ด้วยความคิดที่ว่ารัฐบาลนี้เป็นสถาบันทางโลกียโดยธรรมชาติ  พวกนี้ต้องการนำกฎหมายชาเรียมาใช้อย่างเข้มงวดตามกฎบัญญัติของอิสลาม
ตามการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญ  ผู้ก่อการร้ายที่ปฏิบัติการอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจำนวนเพิ่มขึ้น   และในมาเลเซีย,มีการจับกุมเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างน้อย 19 คนที่ต้องสงสัยว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายในระหว่าง 7 เดือนที่ผ่านมานี้ 
ผู้ถูกจับกุมได้เปิดเผยแผนการที่จะโจมตีหน่วยงานภาครัฐ  ไนต์คลับ  บาร์และสถานเริงรมย์บนถนนสายบันเทิงยามค่ำคืน  ในเวลาเดียวกัน  มีชาวมาเลย์อย่างน้อย 20 คนได้เดินทางไปซีเรียเพื่อเข้าร่วมในการทำสงคราม  แต่จำนวนอาจมีมากกว่านี้
ในอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีชาวมุสลิมมากที่สุดในโลก  ได้สั่งห้ามการสนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหวหัวรุนแรง  และมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวนมาก  อย่างไรก็ตาม  อันตรายยังมีอยู่และมีมากขึ้นเรื่อยๆ  เพราะข้าราชการชั้นสูงรวมทั้งรัฐมนตรีไม่ค่อยให้ความสนใจที่จะป้องกันเรื่องนี้
มีรายงานว่ากลุ่มหัวรุนแรงมุสลิมในฟิลิปปินส์ก็พยายามเข้าร่วมปฏิบัติการแบบเดียวกับกลุ่มหัวรุนแรงมุสลิมในมาเลเซียและอินโดนีเซีย

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557

I Will Follow Him



I Will Follow Him by Andre Rieu
 
I will follow Him   ฉันจะติดตามพระองค์
Follow Him wherever He may go,  ติดตามพระองค์ไม่ว่าพระองค์จะไปที่ใด
And near Him, I always will be  และฉันจะอยู่ใกล้พระองค์เสมอ
For nothing can keep me away,  เพราะไม่มีสิ่งใดกีดกันฉันจากพระองค์ได้
He is my destiny.  พระองค์ทรงเป็นจุดหมายของฉัน

I will follow Him,   ฉันจะติดตามพระองค์
Ever since He touched my heart I knew,  มันเริ่มตั้งแต่พระองค์ทรงสัมผัสหัวใจของฉัน
There isn't an ocean too deep,  ไม่มีมหาสมุทรที่แสนลึก
A mountain so high it can keep,   ภูเขาที่สูงเพียงใด  ก็ไม่อาจ
Keep me away, away from His love
  ไม่อาจกีดกันฉันจะความรักของพระองค์ได้

I love Him, I love Him, I love Him,   ฉันรักพระองค์  ฉันรักพระองค์  ฉันรักพระองค์
And where He goes,  และพระองค์ไปที่แห่งใด
I'll follow, I'll follow, I'll follow.  ฉันจะติดตาม  ฉันจะติดตาม  ฉันจะติดตาม
he'll always be my true love, my true love, my true love  พระองค์จะเป็นรักแท้ของฉัน   รักแท้ของฉัน  รักแท้ของฉันเสมอ
from now until forever, forever, forever  บัดนี้และตลอดกาล  ตลอดกาล  ตลอดกาล

I will follow Him,  ฉันจะติดตามพระองค์
Follow Him wherever He may go,   ติดตามพระองค์ทุกที่ที่พระองค์ไป
There isn't an ocean too deep,  ไม่มีมหาสมุทรที่แสนลึก
A mountain so high it can keep,  ภูเขาที่สูงเพียงใดก็ไม่อาจ
Keep me away, away from His love...  กีดกันฉัน  กีดกันฉันจากความรักของพระองค์

We will follow Him,  ฉันจะติดตามพระองค์
Follow Him wherever He may go,   ติตตามพระองค์ทุกที่ที่พระองค์ไป
There isn't an ocean too deep,  ไม่มีมหาสมุทรที่แสนลึก
A mountain so high it can keep,  ภูเขาที่สูงเพียงใดก็ไม่อาจ
Keep us away, away from His love...  กีดกันฉัน  กีดกันฉันจากความรักของพระองค์

I love Him   ฉันรักพระองค์
(
Oh yes I love Him)   ถูกแล้ว  ฉันรักพระองค์
I'll follow  ฉันจะติดตามพระองค์
(
I'm gonna follow)   ฉันจะติดตาม
True love   รักแท้
(
He'll always be my true, true love)   พระองค์เป็นรักแท้ของฉันเสมอ
Forever   ตลอดกาล
(
Now until forever )    บัดนี้และตลอดกาล
I love Him, I love Him, I love Him,    ฉันรักพระองค์  ฉันรักพระองค์   ฉันรักพระองค์
And where He goes,   และพระองค์ไปที่ใด
I'll follow, I'll follow, I'll follow,   ฉันจะติดตาม  ฉันจะติดตาม  ฉันจะติดตาม
He'll always be my true love,    พระองค์จะเป็นรักแท้ของฉันเสมอ
My true love, my true love,   รักแท้ของฉัน  รักแท้ของฉัน
From now until forever,    บัดนี้และตลอดกาล
Forever, forever...   ตลอดกาล  ตลอดกาล

There isn't an ocean too deep,    ไม่มีมหาสมุทรที่แสนลึก
A mountain so high it can keep,   ภูเขาที่สูงเพียงใดก็ไม่อาจ
Keep me away, away from His love
    กีดกันฉัน  กีดกันฉันจากความรักของพระองค์

วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระเยซูเจ้าทรงจำแลงพระกายอย่างรุ่งเรือง


            บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้ศิษย์รู้ว่าพระองค์คือพระบุตรของพระเป็นเจ้าโดยทรงจำแลงพระกายอย่างรุ่งเรือง
ทรงประทับยืนอยู่ระหว่างโมเสสและเอลิยาห์  หมายถึงพระเยซูเจ้าทรงเป็นดังสะพานเชื่อมโยงกฏบัญญัติของโมเสสเข้ากับคำทำนายและบทสดุดีต่างๆของประกาศกซึ่งกล่าวไว้ถึงองค์พระผู้ไถ่  โมเสสปีนขึ้นบนภูเขา  พระเยซูเจ้าทรงกระทำเช่นเดียวกันและเสด็จไปพร้อมกับศิษย์สามคน  และพระสิริของพระเป็นเจ้าได้ปรากฏให้เห็นในท่ามกลางกลุ่มเมฆ (โมเสสเห็นพระสิริของพระเป็นเจ้าเป็นไฟไหม้พุ่มไม้แต่พุ่มไม้มิได้มอดไหม้)  เอลิยาห์ – เช่นเดียวกันได้ปีนขึ้นบนภูเขาโฮเรบและได้ยินเสียงของพระเป็นเจ้าในสายลมอ่อนๆ  ศิษย์ทั้งสามก็ได้ยินพระสุรเสียงของพระเป็นเจ้าในกลุ่มเมฆด้วย
มีคำทำนายว่าเอลิยาห์จะปรากฏมาล่วงหน้าก่อนพระเมสสิยาห์จะเสด็จมา  ในวันนี้พระเยซูเจ้าทรงสำแดงพระองค์อย่างรุ่งเรือง เพื่อให้ศิษย์ได้รับรู้ว่าพระองค์คือพระเมสสิยาห์ที่เสด็จมาแล้ว
พระสุรเสียงของพระเป็นเจ้าประกาศว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระบุตรสุดที่รักของพระองค์  ซึ่งพระองค์พอพระทัยเป็นอย่างยิ่ง (ดู สดุดี 2:7)็็  ในขณะนั้น พระเป็นเจ้าทรงให้เราเห็นพระองค์ในพระสิริอันรุ่งเรืองอยู่ชั่วขณะหนึ่ง  ในท่ามกลางกลุ่มเมฆขององค์พระจิตเจ้า  พระบิดาทรงเปิดเผยความรักของพระองค์ที่ทรงมีต่อองค์พระบุตร  และทรงเชื้อเชิญให้เรามีส่วนร่วมในความรัก  โดยให้เราเป็นบุตรชายและหญิงสุดที่รักของพระองค์ด้วย
ในกลุ่มเมฆแห่งสวรรค์  พระภูษาของพระเยซูเจ้าเปลี่ยนเป็นสีขาวส่องแสงเจิดจ้า  พระองค์คือบุตรแห่งมนุษย์ผู้ซี่งประกาศกดาเนียลได้เห็นในนิมิต  ดังในบทอ่านที่หนึ่งของวันนี้
พระเยซูเจ้าทรงเป็นกษัตริย์ผู้ปกครองโลกทั้งมวล  ตามบทเพลงที่เราขับร้องในวันนี้  แต่พระองค์จักต้องเป็นกษัตริย์ผู้ปกครองจิตใจและวิญญาณของเราด้วย
และสุดท้าย พระดำรัสของพระเป็นเจ้าทรงสั่งเราว่า “จงเชื่อฟังพระองค์เถิด”  พระวาจาของพระเยซูเจ้าเป็นตะเกียงที่ส่องสว่างในความมืดมิดแห่งชีวิตของเรา  ดังที่นักบุญเปโตรได้บอกกับเราในบทอ่าน
             ในวันนี้ให้เราฟังเสียงของพระองค์  ให้เราฟังพระวาจาอันทรงชีวิตขององค์พระบุตรซึ่งให้ชีวิตนิรันดรแก่เรา