พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

อัศจรรย์จากการช่วยเหลือของฟรังซิสโกและยาชินทา


Joao Baptista และภรรยา Lucila Yurie,จากบราซิลเป็นพ่อแม่ของเด็กชายซึ่งหายจากอาการบาดเจ็บร้ายแรงทางสมองอย่างน่าประหลาดใจ และทางวาติกันได้ถือกรณีนี้เป็นหลักฐานในการรับรองฟรังซิสโก และ ยาชินทา เด็กสองในสามคนที่เห็นแม่พระประจักษ์ที่ฟาติมาให้เป็นนักบุญ พระสันตปาปาฟรังซิสจะเสด็จมาถึงฟาติมา, โปรตุเกส ในวันศุกร์ที่ 12 พ.ค. 2017
นายแบพติสตา ผู้เป็นบิดาของเด็กชายลูคัสอายุ 5 ขวบ ที่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงทางสมองจากการตกจากหน้าต่างของตึกสูง 6.5 เมตร ขณะที่เขากำลังเล่นอยู่กับน้องสาว Eduarda.ที่ยังเป็นทารก
เมื่อลูคัสถึงโรงพยาบาล เขาอยู่ในอาการโคม่า  ระหว่างการผ่าตัดหมอพบว่าสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างร้ายแรงถึงขนาด “สูญเสียเนื้อสมองส่วนหน้า” และหมอบอกว่าเด็กชายมีโอกาสน้อยมากที่จะรอดชีวิต และถ้ารอดชีวิตก็จะกลายเป็นเจ้าชายนิทรา
บิดามารดาของลูคัสและซิสเตอร์คาร์เมลไลท์ชาวบราซิลได้สวดภาวนาวอนขอความช่วยเหลือโดยผ่านทางเด็กน้อยแห่งฟาติมา คือ ฟรังซิสโกและยาชินทา มาร์โต  เด็กคนที่สามแห่งฟาติมาคือ ลูเซีย ดอสซานตอส ก็เป็นซิสเตอร์คาร์เมลไลท์ด้วย
หมอได้ถอดสายช่วยหายใจจากลูคัสในวันที่หกหลังจากที่เขาตกจากตึก
ผู้เป็นบิดากล่าวว่า “เมื่อลูคัสตื่นขึ้นมา  เขาก็ปกติดีและเริ่มพูดจา เขาถามถึงน้องสาวของเขา”
“เขาหายสบายดีจริงๆ...ไม่มีร่องรอยของความบาดเจ็บเลย  เขาเป็นเหมือนเดิมก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ” บิดากล่าว  “หมอบอกว่า... พวกเขาไม่สามารถอธิบายการที่ลูคัสหายเป็นปกติได้”
 “เราขอบพระคุณพระเป็นเจ้าที่ทรงช่วยลูคัส  ด้วยความเชื่อเรารู้ว่านี่เป็นอัศจรรย์จากการช่วยเหลือของเด็กเลี้ยงแกะ ฟรังซิสโกและยาชินทา”
“เราเต็มไปด้วยความยินดีที่รู้ว่าอัศจรรย์นี้จะเป็นการทำให้มีการสถาปนาเด็กทั้งสองขึ้นเป็นนักบุญ  แต่เหนือสิ่งใดเรารู้สึกขอบคุณสำหรับมิตรไมตรีของเด็กทั้งสองที่ช่วยเหลือลูกของเรา”

ดั่งแสงเทียน


วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

คำพูดของลูซีอา

วันที่ 26 ธันวาคม 1957  คุณพ่อออกุสติน ฟูเอนเตส (Augustine Fuentes) ได้สัมภาษณ์ซิสเตอร์ลูซีอา  ที่อารามในโคอิมบรา ,โปรตุเกส  ท่านได้บันทึกคำพูดของซิสเตอร์ลูซีอา ไว้ดังนี้
....อ่านต่อ

วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

พระคัมภีร์ทำนายเหตุการณ์ในซีเรียหรือ?


จากเหตุการณ์เลวร้ายในซีเรีย  มีภาพที่กระจายไปในเฟสบุ๊คของชาวคริสต์ที่พูดภาษาสเปนระบุว่า เหตุการณ์ในซีเรียนั้นมีการทำนายไว้ล่วงหน้าในพระคัมภีร์  ดังภาพด้านบนนี้ที่นำมาจากเฟสบุ๊คของ Noticiero Chalateco
บรรทัดที่ขีดเส้นใต้เป็นข้อความของอิสยาห์ 17.3 กล่าวว่า
“อาณาจักรซีเรียจะรกร้างว่างเปล่า จะเป็นเพียงกองซากหักพัง  เมืองดามัสกันก็จะเป็นเช่นเดียวกัน  ทางตอนเหนือคืออิสราแอลที่หยิ่งผยองจะไม่มีปราการป้องกัน  เราคือพระเจ้าจอมโยธากล่าวไว้ดังนี้”
ในรูปภาพยังแสดงซากหักพังของตึกรามในซีเรียและมีข้อความว่า “พระคัมภีร์บอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรีย” ที่บ่งบอกว่าเป็นเหตุการณ์ในปัจจุบันที่เกิดในซีเรีย
แต่ข้อความในอิสยาห์กล่าวถึงสิ่งที่เกิดกับซีเรียในปัจจุบันนี้หรือ?
ประการสำคัญที่สุดคือ ข้อความนั้นไม่ได้พูดถึงเวลาปัจจุบัน  เหตุการณ์ที่อิสยาห์ทำนายไว้เป็นเหตุการณ์ในอดีตที่ไกลมาก  -  หลายศตวรรษก่อนพระเยซูเจ้า  และมีอธิบายในพงศ์กษัตริย์ 2พก. 16.9  ดังนั้นพระคัมภีร์จึงไม่ได้ทำนายเหตุการณ์ในซีเรียในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามอาจมีเหตุการณ์คล้ายกันกับอดีตเกิดขึ้นได้อีกในปัจจุบันหรืออนาคตก็ได้  ถ้ามนุษย์ยังไม่เรียนรู้และไม่ระวังตัวป้องกัน  จึงมีคำพูดที่ว่า “อดีตเป็นบทเรียนสำหรับอนาคต”

วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

น้ำตกเลือดในแอนตาร์กติก



ที่แอนตาร์กติกมีน้ำตกแห่งหนึ่งที่น้ำไหลออกมาเป็นสีแดงจึงเรียกว่าน้ำตกเลือด  นักวิทยาศาสตร์ได้นำน้ำไปวิเคราะห์จึงพบสาเหตุที่น้ำเป็นสีแดง เป็นเพราะน้ำที่ซ่อนอยู่ในแหล่งน้ำแข็งมีส่วนประกอบของเหล็กในปริมาณสูง  ภายในนแหล่งน้ำไม่มีออกซิเจนอยู่เลย  เมื่อน้ำไหลออกมาสัมผัสกับออกซิเจนภายนอก  ทำให้เหล็กในน้ำถูกออกซิไดซ์กลายเป็สนิมเหล็กที่เป็นสีแดง  นอกจากนี้ในน้ำมีแบคทีเรียหลายชนิดและมีชนิดที่เป็นสีแดงจำนวนมากด้วย

วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

อัศจรรย์ที่ฮิโรชิมา-แม่ชีผู้รอดชีวิต



บทแปล
ฮิโรชิมา 6 สิงหาคม 1945 เวลา 08:15 ระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกที่ทำลายทุกสิ่งในรัศมี 3 กิโลเมตรในเขตกราวด์ซีโร,,,,,แต่มีบางคนที่รอดชีวิต  เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ไม่มีใครสังเกตเห็น?
ภายในเวลาไม่กี่นาที ฮิโรชิมาก็หลอมละลายภายใต้เตาเผาของระเบิดอะตอม
ภายในเขตรัศมี 3 กิโลเมตรของจุดทิ้งระเบิด(กราวด์ซีโร)  ก้อนหิน ต้นไม้ บ้านเรือนและประชาชนกลายเป็นเถ้าทุลี
ส่วนคนที่ไม่เสียชีวิตทันทีจากการระเบิดอะตอมมิค  ก็จะเสียชีวิตอย่างช้าๆด้วยรังสี
ตามรายงานอย่างเป็นทางการบอกว่ามีคนเสียชีวิต 80,000 คน แต่นักประวัติศาสตร์บอกว่ามีคนเสียชีวิตประมาณ 200,000 คน
ความเสียหายจากการระเบิดไม่อาจประมาณนับได้
ระยะทาง 2 กิโลเมตรจากศูนย์กลางทิ้งระเบิด  มีแม่ชีชาวญี่ปุ่นผู้หนึ่งไม่ได้รับอันตรายจากระเบิดแม้แต่น้อย
ท่านมีชื่อว่าแม่ชีอิโตะ  เธอกล่าวว่า “มันเป็นอัศจรรย์”
“มันเป็นเวลา 8:10 น. หลังจากเสร็จพิธีมิสซา”
“ฉันกำลังสวดภาวนาอยู่ในสวน”
คุณเห็นระเบิดกำลังหล่นลงมาหรือเปล่า?
“ฉันไม่เห็นหรอก” 
“ฉันเห็นกระเบื้องหลังคาหล่นลงมา  ฉันคิดว่าเป็นแผ่นดินไหว”
“เพราะแผ่นดินกำลังสั่นไหว  ฉันไม่แน่ใจ”
“ในตอนนั้นฉันล้มลง”
“มีแสงสว่างเจิดจ้าล้อมรอบตัวฉันไว้ พร้เอมด้วยกลิ่นหอมประหลาด”
“ฉันคิดว่า ฉันคงต้องตาย”
“แต่ต่อมาไม่กี่นาทีทุกอย่างก็มืดลงและมีเสียงที่น่ากลัว  สิ่งเหล่านี้หายไปหลังจากไม่กี่นาที”
“บ้านบางหลังยังคงมีไฟไหม้  พูดได้ว่า ฉันพบว่าทั้งเมืองตายไปแล้วอย่างสิ้นเชิง”